นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตในประเทศไทยและอาเซียน
เปิดเผยว่า แนวโน้มภาคการท่องเที่ยวของไทยในปี 2561 ตลาดนักท่องเที่ยวจากจีนและรัสเซียจะเริ่มกลับมา และผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 7% จากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 35 ล้านคน โดยมีอัตราการเติบโต 7% เช่นกัน

ในขณะที่เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีหน้าซึ่งอยู่ระหว่างการวางแผน แต่เบื้องต้นมองการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 8-10% ซึ่งเป็นผลจากปีนี้บริษัทปรับขึ้นราคาห้องพักเพิ่ม 3-5% พร้อมกับจะมีการเปิดให้บริการโรงแรมเพิ่มอีก 10-12 แห่ง ภายใต้งบลงทุน 3,000 ล้านบาท ประกอบด้วย HOP INN ในประเทศไทย 6-8 แห่ง HOP INN ในฟิลิปปินส์ 3 แห่ง และโรงแรมโนโวเทล แอนด์ ไอบิส สไตล์ นานา 1 แห่ง ส่วนอัตราการเข้าพักคาดว่าจะใกล้เคียงปีนี้ที่ 80-81% นอกจากนี้ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มก็เติบโตดีขึ้นด้วยเช่นกัน

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 เนื่องจากไม่ค่อยมีการจัดงานรื่นเริง ทำให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในปีนี้เติบโตน้อยมาก ขณะที่รายได้โรงแรมมีการเติบโตเฉลี่ยต่อห้องพักเพิ่มขึ้น 4% ทำให้ในปีนี้บริษัทปรับลดเป้ารายได้เหลือเติบโตจาก 10% ลงเหลือ 7% จากปีที่แล้วมีรายได้อยู่ที่ 5.66 พันล้านบาท โดย 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทมีรายได้แล้ว 4.42 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 344 ล้านบาท ใกล้เคียงปีที่แล้วทั้งปีที่มีกำไร 366 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนทางการเงินลดลง

“บริษัทยังคงวางงบลงทุน 5 ปี วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างโรงแรมเพิ่มมากกว่า 85 แห่ง รวม 10,000 ห้อง จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 52 แห่ง กว่า 7,000 ห้องพัก”นางกมลวรรณ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน