พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) และเห็นชอบกรอบเวลาการดำเนินการประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิวงโคจรดาวเทียมในวันที่ 24 ก.ค. 2564

โดยประมูลการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) ครั้งแรกของประเทศไทย ถือเป็นการเปิดตลาดเสรีดาวเทียมไทย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานไปสสู่ระบบการอนุญาต โดยสัมปทานดาวเทียมไทยคม ถือเป็นสัมปทานด้านการสื่อสารสุดท้ายของไทยที่จะสิ้นสุดในวันที่ 10 ก.ย. 2564 นี้ สำหรับผู้เข้าร่วมประมูลได้ต้องผ่านเกณฑ์ด้านประสบการณ์ก่อน จึงจะสามารถเข้าร่วมแข่งขันการประมูลได้ โดยจะใช้วิธีการประมูลทีละชุด แบบ Sequential Ascending Clock Auction (SACA)

“รายละเอียดของกรอบเวลาในการดำเนินการประมูลฯ เป็นดังนี้ เปิดให้รับคำขอ วันที่ 21 พ.ค. 2564 และการให้ข้อมูลสำหรับการเตรียมเอกสารที่ใช้ในวันขอรับอนุญาต วันที่ 22 พ.ค. – 20 มิ.ย. 2564 เปิดให้ยื่นขอรับอนุญาต วันที่ 21 มิ.ย. 2564 และประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือก วันที่ 5 ก.ค. 2564 ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ประสบการณ์ วันที่ 12 ก.ค. 2564 การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลสำหรับผู้เข้าร่วมประมูล และ Mock Auction วันที่ 19-21 ก.ค. 2564 และวันประมูล 24 ก.ค. 2564 จากนั้นประชุม กสทช. รับรองผลการประมูล ภายใน 7 วัน”

ส่วนชุดข่ายงานดาวเทียมทั้ง 4 ชุด ที่จะนำมาประมูลในครั้งนี้ ได้แก่ ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงาน C1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ราคาขั้นต่ำ 676.914 ล้านบาท, ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ 78.5E) ราคาขั้นต่ำ 366.488 ล้านบาท, ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ 119.5E) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ราคาขั้นต่ำ 392.950 ล้านบาท และชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และ N5) ราคาขั้นต่ำ 364.687 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน