นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมประสานหน่วยงานความมั่นคง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว และกรมเจ้าท่า ร่วมกันคุมเข้มเพื่อป้องกันนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังอยู่ในพื้นที่ไม่ครบ 14 วัน ลักลอบออกจากพื้นที่นำร่องในจังหวัดภูเก็ตไปยังพื้นที่อื่นๆ พร้อมทั้งจัดเตรียมความพร้อมในการรองรับและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเอาไว้ด้วย เพราะภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในทางปฏิบัติยังกังวลเรื่องของการการลักลอบออกจากพื้นที่ก่อน 14 วัน

ทั้งนี้ จากการรายงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า เดือนก.ค.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตพอสมควร โดยที่ยืนยันมาชัดเจนแล้ว มี 2 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจากสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้ามาภูเก็ตในวันที่ 9 ก.ค.นี้ และเข้ามาอีกกลุ่มใหญ่ในช่วงปลายเดือน คือ กลุ่มทหารเรือจากอังกฤษ ซึ่งเข้ามาในภูมิภาคเพื่อทำการซ้อมรบและมาแวะพักที่จังหวัดภูเก็ต อีกประมาณ 400-500 คน ประมาณ 1 สัปดาห์ ขณะที่นักท่องเที่ยวจากยุโรป และทวีปอเมริกา จะมีทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนประเทศในกลุ่มเอเชียใต้ ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทย

“ในเดือนมิ.ย.นี้ ภูเก็ตจะฉีดวัคซีนครบ 70% ซึ่งครอบคุลมประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นวัยทำงาน ส่วนอีก 30% ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนที่ยังต้องรอวัคซีนที่ได้รับการรับรองว่า ฉีดให้กับเยาวชนได้ โดยการฉีดวัคซีนให้กับภูเก็ตให้ครบตามเป้าหมายนั้น นายกรัฐมนตรี ก็เห็นด้วยและสั่งการให้ทำโดยเร็ว จากนั้นเมื่อเปิดภูเก็ตแล้ว จะทดลองไป 1-2 เดือน หากเป็นไปตามเป้าหมายไม่มีคนติดเชื้อ ก็ขยายไปพื้นที่นำร่องอื่นๆ และจะประกาศให้ทั่วโลกได้เห็นว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่สีเขียวที่คนมาท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้”

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นนักท่องเที่ยวไทยจะต้องฉีดวัคซีนครบก่อนจึงจะสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตได้ โดยซิโนแวค ต้องฉีด 2 โดส แอสตร้าเซนเนก้า ฉีด 1 โดส แต่ถ้าใครยังไม่ฉีดจะต้องสวอปเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนทุกราย ซึ่งการดำเนินการตอนนี้จะใช้มาตรการเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน