‘บิ๊กป้อม’จี้เร่งเก็บน้ำให้เต็มที่ หลัง กอนช. ชี้ลุ่มเจ้าพระยาน้ำต้นทุนยังไม่พ้นวิกฤต – ฝนยังแผ่วแม้โคะงุมะ ช่วยเติมน้ำเขื่อน 1,400 ล้านลบ.ม.

ลุ่มเจ้าพระยาน้ำต้นทุนยังน้อย – นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศในปัจจุบัน ณ 21 มิ.ย. 2564 ว่า สัปดาห์นี้พบสัญญาณการกลับมาของฝนที่จะตกลงมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีปริมาณฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่จะมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้นที่จะตกต่อเนื่องไปถึงวันที่ 23 มิ.ย.นี้

ถือว่าเป็นสัญญาณบวกที่จะส่งผลดีกับระดับน้ำทั้งในแม่น้ำสายหลักที่มีน้ำน้อยได้ในบางพื้นที่ และในแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่สามารถเก็บกักน้ำจากอิทธิพลของพายุโคะงุมะ ตั้งแต่วันที่ 9-20 มิ.ย. 2564 ได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นรวม 1,393 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้านลบ.ม.) ซึ่งสูงสุดที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 567 ล้านลบ.ม. ภาคเหนือ 355 ล้านลบ.ม. และภาคตะวันตก 269 ล้านลบ.ม. ตามลำดับ ส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ

กอนช. จะมีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความแปรปรวนสูง อาจจะส่งผลกระทบต่อน้ำต้นทุนเพื่อใช้ในการเพาะปลูกของเกษตรกร รวมถึงการพิจารณาแสนอแผนงานโครงการป้องกันผลกระทบในบางพื้นที่ที่อาจประสบปัญหาขาดแคลนน้ำจากฝนตกน้อยยาวต่อเนื่องจนถึงเดือนก.ค. และแหล่งน้ำต่างๆ ที่มีปริมาณน้ำน้อย โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของความจุ จำนวน 8 แห่ง อาทิ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นต้น รวมถึงโครงการแหล่งน้ำขนาดเล็กที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งน้ำชลประทานไว้เก็บกักน้ำหลากและป้องกันผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค. ที่คาดว่าจะมีฝนตกชุกหนาแน่นด้วย

“แม้ว่าการจัดสรรน้ำฤดูฝนปี 2564 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ โดยส่วนใหญ่ยังเป็นไปตามแผน ยกเว้นการจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกของเกษตรกร ได้แก่ ข้าวนาปรังทั้งประเทศ พบว่า มีการเพาะปลูกแล้ว 5.56 ล้านไร่ จากแผน 1.9 ล้านไร่ โดยเก็บเกี่ยวแล้ว 5.09 ล้านไร่ รวมถึงข้าวนาปี ปี 2564 มีการเพาะปลูกแล้ว 7.52 ล้านไร่ หรือ 45% จากแผนการเพาะปลูกทั้งประเทศรวม 16.65 ล้านไร่ โดยอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาถึง 7.97 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.5 ล้านไร่ คิดเป็น 56.46 ของแผนฯ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้การจัดสรรน้ำในฤดูฝนปี 2564 เกินแผนในภาพรวมกว่า 30% โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลางที่มีปริมาณน้ำต้นทุนในแหล่งน้ำอยู่อย่างจำกัดตั้งแต่ปลายฤดูแล้งต่อเนื่องถึงต้นฤดูฝน ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกลงมาจริงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และไม่ครอบคลุมพื้นที่ จึงเป็นปัญหาอุปสรรคในการทำเกษตรน้ำฝน ส่งผลให้ปริมาณน้ำต้นทุน 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยาไม่เพียงพอกับสัดส่วนการเพาะปลูกตั้งแต่ต้นฤดูในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และมีการจัดสรรน้ำเกินแผนไปแล้วถึง 50% โดยล่าสุด เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้มีการปรับเพิ่มแผนการระบายน้ำในช่วงวันที่ 21-27 มิ.ย. 2564 จากอัตราวันละ 14 ล้าน ลบ.ม. เป็นอัตราวันละ 16 ล้านลบ.ม.”

อย่างไรก็ตาม กอนช. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานบริหารจัดการณ์น้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยปรับเพิ่มการระบายน้ำไม่เกินร้อยละ 10 ของแผน เพื่อควบคุมไม่ให้มีการจัดสรรน้ำเกินแผนเมื่อสิ้นสุดฤดูส่งน้ำ และขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำทุกกิจกรรมบริเวณต้นน้ำ-กลางน้ำ อย่าดักเก็บกักน้ำเกินความต้องการใช้น้ำ อันจะส่งผลกระทบให้ผู้ใช้น้ำบริเวณปลายน้ำเกิดภาวะขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพอากาศมีความแปรปรวนสูงขึ้น เพื่อปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ

และเร่งเก็บกักน้ำในทุกรูปแบบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เพื่อช่วยกันวางแผนจัดสรรน้ำฤดูฝนนี้อย่างเคร่งครัดไม่ให้ผลผลิตของเกษตรกรได้รับผลกระทบ รวมถึงกิจกรรมการใช้น้ำส่วนอื่นๆ ด้วย และยังต้องสำรองน้ำไว้ในฤดูแล้งหน้าด้วย ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในการจัดรอบเวร การประหยัดน้ำ รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ต้องเข้ามาบูรณาการร่วมกันไม่เพียงแต่การจัดการน้ำเพียงอย่างเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน