เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2560 ที่อาคารสำนักงานใหญ่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการดำเนินงานให้กับผู้บริหารขสมก. โดยมีนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) และคณะผู้บริหาร นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการขสมก. และผู้บริหารให้การต้อนรับ
โดยนายไพรินทร์ กล่าวว่า มอบหมายให้ผู้บริหารขสมก. เร่งนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานให้เร็วที่สุด ส่วนการประมูลรถเมล์โดยสารในสัปดาห์หน้าบอร์ดจะหารือกันถึงกรอบดำเนินการ เพราะมีเอกชนเพียงรายเดียวคือกลุ่มกิจการร่วมค้า SCN-CHO ที่มีบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ มาประมูล ซึ่งได้ให้นโยบายว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งหากเป็นไปได้ต้องการให้แล้วเสร็จก่อนเดือนพ.ค. 2561 หรือก่อนเปิดเทอมใหญ่
ส่วนที่มีรัฐวิสาหกิจจีนเสนอขายรัฐวิสาหกิจจีนเสนอขาย เมล์เอ็นจีวีต่อรัฐบาลไทยแบบจีทูจี 489 คัน มูลค่า 3,440 ล้านบาทีพร้อมซ่อมบำรุงให้อีก 10 ปี นั้นตนยังไม่ได้รับรายงาน แต่ทั้งนี้ ตนก็ยึดกฎหมายไทยเป็นหลัก โดยในเบื้องต้นก็ต้องให้จัดหารถด้วยการประมูลก่อน
นายไพรินทร์ยังกล่าวอีกว่า ในที่ประชุมตนยังตั้งข้อสังเกตว่าขสมก. เป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมให้บริการประชาชนและไม่สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารได้เอง ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้เพราะต้องทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งภาครัฐต้องให้การสนับสนุน แต่ในอนาคตอาจต้องพิจารณาว่าจะมีการโอนย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่นเช่น กรุงเทพมหานคร เพื่อความคล่องตัวมากขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารและบอร์ด ที่จะนำเสนอแผนมายังกระทรวง เพราะนอกจากเรื่องการโอนย้ายสังกัดแล้วยังมีเรื่องของบริหารจัดการหนี้ของขสมก. กว่าแสนล้านบาทด้วย
รวมทั้งได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องของความจำเป็นของการมีรถร่วมขสมก. ซึ่งไม่แน่ใจว่าในต่างประเทศมีหรือไม่โดยต้องมีการศึกษาในประเด็นดังกล่าวต่อไป เพราะขณะนี้รถร่วมมีปริมาณมากกว่ารถของขสมก. ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของการให้บริการในกรณีที่พบว่ามีรถเมล์ให้บริการไม่ดีโดยยืนยันว่าในภาพรวมขสมก. ให้บริการดีอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับขสมก.เช่นการพยายามทำระบบจีพีเอส ระบบ e-ticket มาใช้เพราะคิดว่าจะสะดวกต่อการใช้ของประชาชนมากขึ้นนั้น จากการดำนินการมากลับพบว่าระบบดังกล่าวบางอย่างไม่เหมาะสมกับคนไทยและระบบของขสมก. ที่ยังไม่มีความพร้อมในการใช้งาน ดังนั้นตนจึงเห็นว่าต่อจากนี้ไปก่อนที่จะนำระบบที่ทันสมัยมาใช้จะต้องมีการทดลองใช้ในบางพื้นที่ก่อนเพื่อให้เห็นข้อดีข้อเสีย เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นภายหลัง
ด้านนายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ กล่าวภายหลังการยื่นหนังสือเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนของพนักงาน ต่อนายไพรินทร์ ว่า นายไพรินทร์ รับปากว่าจะนำข้อเสนอทั้ง 9 ข้อไปพิจารณาดำเนินการตามที่สหภาพร้องขอ
