นายไคเชิน ลี Head of WeTV and IFlix,เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง ภายใต้ WeTV เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวิดีโอสตรีมมิง หรือ Over-the-top (OTT) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 180 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนการเข้าถึง 31% โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีผู้รับชม OTT เพิ่มขึ้น 57% สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของ WeTV ทั่วโลก โดยในช่วงตั้งแต่เดือนม.ค.-ส.ค. 2564 มียอดผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 45 ล้านราย ยอดชมวิดีโอมากกว่า 25 ล้านวิวต่อวัน นอกจากนี้ จำนวนผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิกของ WeTV ยังเติบโตขึ้นมากกว่า 150% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยตลาดสำคัญจะอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นำโดยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม

ทางด้านน.ส.กนกพร ปรัชญาเศรษฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และการขาย และผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการเสพคอนเทนต์บน OTT เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อุตสาหกรรมนี้มีความคึกคักและมีผู้เข้ามาเล่นในตลาดปัจจุบันรวม 20 ราย หลังจากคนไทยให้การตอบรับดี โดยใช้เวลาในการดูคอนเทนต์ OTT เฉลี่ย 3.3 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้นคนไทยมากกว่า 70% ตั้งใจจ่ายเงินเพื่อเสพคอนเทนต์ ซึ่งเพิ่มจาก 60% ในปีก่อนหน้า

ส่วนภาพรวมของ WeTV ในประเทศไทย พบว่าในช่วงม.ค.-ส.ค. 2564 ยอดผู้ใช้ WeTV ในไทยพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับปี 2563 และยังเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา และเป็นอันดับ 2 ในส่วนของผู้ใช้งานแบบสมัครสมาชิก โดยใน 6 เดือนแรก WeTV มียอดผู้ใช้งานรายเดือนเฉลี่ยสูงถึง 13 ล้านคน ระยะเวลาในการรับชมเฉลี่ยวันละ 120 นาที ส่วนกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ยังเป็นผู้หญิง 70% และผู้ชมกลุ่มหลักมีอายุเฉลี่ย 18-24 ปี มีสัดส่วน 29% ขณะที่อายุ 25-34 ปี มีสัดส่วน 26%

ทั้งนี้ ซีรีส์จีน ถือเป็นคอนเทนต์ที่เติบโตสูงสุดถึง 137% ส่วนคอนเทนต์ไทยเติบโต 40% และคอนเทนต์อนิเมะ เติบโต 93% ในขณะที่คอนเทนต์ใน WetV 50% เป็นคอนเทนต์จีน และ 50% เป็นคอนเทนต์ไทยและอื่นในเอเชีย ส่วนปัจจัยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ WeTV มาจากการร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรทางคอนเทนต์กว่า 40 ราย รวมถึงมีการนำเสนอคอนเทนต์เอเชียที่ครอบคลุมทั้งจีน ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ละคร ภาพยนตร์ อนิเมะ และรายการวาไรตี้ต่างๆ รวมกว่า 800 คอนเทนต์ในแพลตฟอร์ม หรือมีจำนวนคอนเทนต์รวมกว่า 1 ล้านนาที

อย่างไรก็ดี เพื่อต่อยอดแพลตฟอร์ม WeTV ประเทศไทยไปสู่เป้าหมายยอดผู้ใช้งานเติบโต 3 เท่าจากปัจจุบัน พร้อมขึ้นเป็นผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใน ปี 2567 ภายใต้แผนกลยุทธ์ “3X” ได้แก่ Expansion – ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ของ WeTV ในทุกมิติ ทั้งการเพิ่มคลังคอนเทนต์ทั้งซีรีส์จีน ไทย เกาหลี และญี่ปุ่น ขยายพอร์ตโฟลิโอในกลุ่มอนิเมะที่เป็นคอนเทนต์ที่กำลังมาแรง ซีรีส์วาย รายการวาไรตี้ และอีสปอร์ต ควบคู่กับการขยายพันธมิตรทั้งกลุ่มสถานีโทรทัศน์ เช่น ช่อง 8 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการเข้ามาใช้แพลตฟอร์ม WeTV ได้มากขึ้น รวมถึงพันธมิตรในกลุ่มผู้ให้บริการมือถือ และกลุ่มบริการชำระเงิน เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับชมออนไลน์ เป็นต้น

ส่วนกลยุทธ์ Extra Experience – ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์ๆ อาทิ Flying comment รับชมพร้อมพิมพ์คอมเมนต์ได้ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงด้วยยอดโตกว่า 3 เท่า และมีจำนวนคอมเมนต์ถึงกว่า 1.5 ล้านคอนเมนต์ต่อเดือน ตลอดจนฟีเจอร์ Fast Track ซึ่งผู้ชมสามารถซื้อการรับชมซีรีส์ทั้งเรื่องโดยไม่ต้องรอ ซึ่งที่ผ่านมามียอดผู้ใช้งานเติบโตถึง 4 เท่าจากปีที่แล้ว

ขณะที่กลยุทธ์ Exclusivity เป็นการมอบความพิเศษรับชมคอนเทนต์ที่แรก ดูย้อนหลัง ทั้งออริจินัลคอนเทนต์ของจีน และไทยมานำเสนอโดยเฉพาะในไตรมาส 4 ปีนี้ นอกจากจะมีคอนเทนต์ซีรี่ส์จีนย้อนยุคฟอร์มยักษ์ทยอยเข้ามาต่อเนื่องแล้ว ยังมีซีรี่ส์จีนเรื่องใหม่ๆ เข้ามาอีกไม่น้อยกว่า 15-20 เรื่องต่อเดือน รวมถึงคอนเทนต์ละครไทยอีก 12 เรื่อง ซึ่ง 6 เรื่องจาก ช่อง 3 ช่อง ONE 31 และ PPTV รวมถึงคอนเมต์ซีรี่ส์วายอีก 6 เรื่อง เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน