นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐ โดยกำหนดให้ภาคเอกชนที่บริจาคเงินให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือ มีค่าใช่จ่ายที่เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5% ของกำไรสุทธิ หลังจากที่ได้หักรายจ่ายเป็น 2 เท่าของรายจ่ายที่ได้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษา เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2561 โดยผลของการทำมาตรการครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้แจ้งว่า การดำเนินการดังกล่าว จะช่วยสร้างแรงจุงใจให้ภาคเอกชนได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในกระบวนงานนโยบายสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของสังคม ส่งผลให้เกิดการพัฒนาและแก้ปัญหาสังคมของประเทศ และยังเป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารกิจการบ้านเมืองในการผนึกกำลังหรือสานพลังในการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเป็นระบบ เพื่อนำจุดแข็งหรือข้อดีมาใช้ประโยชน์เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ส่วนผลกระทบกับการจักเก็บรายได้แม้จะมีผลกับการจัดเก็บภาษีเพียงเล็กน้อย แต่จะช่วยลดภาระการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลในด้านการศึกษาได้ทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลัก 4 เรื่อง คือ การยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มการจ้างงานสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับประชาชนและสังคม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน