นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจีพี เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับประสิทธิภาพในการผลิตสำหรับภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน แต่ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจทั่วโลกต่อไป

อย่างไรก็ดี ในส่วนของบริษัทยังคงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปีนี้ จะสามารถทำรายได้จากการขายมากกว่า 1 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย และใช้เงินลงทุนในการขยายธุรกิจมากกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อรักษาความเป็นผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและเมกะเทรนด์ของเศรษฐกิจไทยและอาเซียน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดยมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 89,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวด 6,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรหลังหักค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 24% เช่นกันโดยอยู่ที่ 15,741 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เกิดจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตประจำวันยังเติบโตได้ดีและต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่นๆ ส่งผลดีต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น

ทำให้รายได้ในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตมากว่าปีนี้ เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากการขยายธุรกิจในรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&P) ซึ่งหากบันทึกรายได้เต็มปีคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้านบาท ประกอบกับยังมีการเติบโตจากการขยายกำลังการผลิต ทั้งในส่วนของบรรจุภัณฑ์อาหารจากกระดาษ ในประเทศเวียดนาม และการขยายการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่จะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้

ส่วนแผนการดำเนินงานในไตรมาส 4 นี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยบางส่วนใช้ในการซื้อกิจการ Deltalab, S.L (Deltalab) บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในประเทศประเทศสเปน และบางส่วนใช้ในส่วนใช้ในการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของบริษัท ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในการขยายธุรกิจรวมเป็น 20,000 ล้านบาท เพื่อรักษาความเป็นผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน