นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ยอดการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) และการขยายกิจการในเดือนม.ค.2561 เพิ่มขึ้น 13.48% มีจำนวนทั้งสิ้น 404 โรงงาน คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 22,965 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มที่มีการขอจดประกอบกิจการใหม่ 342 โรงงาน มูลค่าการลงทุนรวม 15,318 ล้านบาท กลุ่มขยายกิจการ 62 โรงงาน มูลค่าการลงทุนรวม 7,647 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรอ. ยังคงติดตามปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนตั้งโรงงานอย่างใกล้ชิด และเชื่อว่ายังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอีกหลายโครงการที่นักลงทุนอยู่ระหว่างการตัดสินใจ คาดว่าในช่วงไตรมาสถัดไปจะเห็นเม็ดเงินการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในโครงการต่างๆ ของภาครัฐกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการประกอบหรือขยายกิจการโรงงานต่างๆ ที่เชื่อว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้นเช่นกัน”
โดยทิศทางกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการจดประกอบและขยายกิจการที่สุด 3 อันดับในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ และผลิตภัณฑ์พลาสติก ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อาหาร 3,320 ล้านบาท ผลิตเครื่องจักรและเครื่องกล 2,180 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์พลาสติก 1,371 ล้านบาท ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารถือว่ายังมีสัญญาณสดใส เนื่องจากมีการขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากมูลค่าการลงทุนและความต้องการแรงงานที่สูงกว่า 5,000 คน
นายมงคล กล่าวว่า ส่วนการจดประกอบและขยายกิจการในกลุ่มสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของเดือนม.ค. มีจำนวน 391 โรงงาน มูลค่าการลงทุนรวม 9,081 ล้านบาท โดยโรงงานที่ขอใบอนุญาตและขยายประกอบกิจการ รง.4 สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ อาหาร 51 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 1,298 ล้านบาท แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ 40 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 815 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์พลาสติก 39 โรงงาน มูลค่าลงทุน 1,135 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์โลหะ 34 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 631 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์อโลหะ 29 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 466 ล้านบาท สะท้อนว่าผู้ประกอบการยังคงให้ความสนใจลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเป็นอันดับหนึ่ง
