นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตีเป็นประธาน ได้แสดงความห่วงใยในสถานการณ์ฝุ่นละอองจากหมอกควันที่เกิดขึ้น ซึ่งฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดขึ้นเป็นมลพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรฯได้สั่งการกรมฝนหลวงขึ้นทำฝนเทียมเพื่อสลายหมอกควันพิษ เพื่อลดความหนาแน่นลง ล่าสุดได้ขึ้นปฏิบัติการแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งไม่สามารถทำได้เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวย ส่วนอีกครั้งทำได้แต่มีลมฝนไปตกในจุดอื่นนอกกทม. จึงสั่งการให้จับตาสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพร้อมให้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงทันที

ด้านนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวง และการบินเกษตร กล่าวว่า นายกฯ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่กำลังประสบกับปัญหาฝุ่นละอองจากหมอกควันที่เกิดขึ้น ซึ่งฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดขึ้นเป็นมลพิษส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องนั้น จึงสั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรฯ ปฏิบัติการทำฝนหลวงช่วยสลายฝุ่นละอองจากปัญหาหมอกควันอย่างเร่งด่วน

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้เตรียมพร้อมการปฏิบัติภารกิจโดยสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 3 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง เคลื่อนที่เร็วจังหวัดนครสวรรค์ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยอง และหน่วยปฏิบัติการ ฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสานงานร่วมกันเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ ชั้นบน และได้สั่งการกำชับให้มีการตรวจวัดสภาพอากาศชั้นบน จากเดิมเฉพาะช่วงเช้าเป็นการตรวจวัดทั้งเช้าและบ่าย เพื่อจะได้ข้อมูลที่แม่นยำในการปฏิบัติการฝนหลวงมากยิ่งขึ้น

จากการตรวจสภาพอากาศ ประจำวันที่ 14 ก.พ. 2561 ทั้งช่วงเช้าและบ่าย พบว่า สภาพอากาศชั้นบนมีความเสถียรภาพ ซึ่งยังไม่เอื้อต่อการขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะยังติดตามสภาพอากาศและเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาหมอกควันปกคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ ประชาชนและผู้สนใจสามารถติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ที่เพจเฟซบุ๊กกรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน