นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ จ.เพชรบุรี (ครม.สัญจร) เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2561 เห็นชอบยุทธศาสตร์เขตพัฒนาการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (The Royal Coast) หรือ ไทยแลนด์ริเวียร่า (Thailand Riviera) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวในจังหวัดแถบนี้ให้เป็นที่รู้จักระดับโลก จากปัจจุบันคนจะรู้จักเฉพาะหัวหิน อีกทั้งจะเป็นการตอบโจทย์ความจำเป็นรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน ซึ่งจะมีการเปิดประมูลภายในปีนี้

“ตามแผนกระทรวงคมนาคมก็จะทำรถไฟทางคู่ต่อเนื่องไปถึงจ.ชุมพร และจ.ระนอง ฉะนั้นต่อไปหัวหินจะเป็นจุดเริ่มต้นของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นเหนือหรือลงใต้และในพื้นที่ใกล้เคียง”

นายสมคิด กล่าวว่า ในวันที่ 12 มี.ค. ได้เรียกประชุม คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ซึ่งได้ให้นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปปรับงบประมาณบางส่วนมาลงพื้นที่นี้ และจะต้องมีการพัฒนาท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งอยู่ทางฝั่งภูเขาตะนาวศรีควบคู่กับฝั่งที่เป็นทะเล เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) ด้วย ส่วนชื่อโครงการภาษาไทยจะสรุปใช้ชื่ออะไรค่อยว่ากันแต่ชื่อภาษาอังกฤษถ้าเอ่ยคำว่าริเวียร่า ตลาดยุโรปและจีนจะรู้จักคำนี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ ในการประชุมยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ฝากบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ไปพิจารณาลงทุนสร้างอควอเรี่ยมขนาดใหญ่เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.สมุทรสาคร เพราะจังหวัดนี้ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยว แต่คนมักมองข้าม เพราะคิดว่ามีแต่เรื่องการประมง ถ้าสร้างสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวขึ้นมา เช่น การมีอควอเรียมขนาดใหญ่ ดีๆ แบบของประเทศสิงคโปร์จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดคนได้ และคนที่เดินทางท่องเที่ยวหัวหินปีละ 4-5 ล้านคน จะได้แวะเที่ยวสมุทรสาครด้วย

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ครม.รับทราบตามที่กระทรวงท่องเที่ยวฯ เสนอโครงการเพื่อสนับสนุนภายใต้ยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก ในปี 2562 รวม 45 โครงการ ใช้งบประมาณ 170 ล้านบาท โดยสำนักงบประมาณได้สั่งให้ไปไล่เลียงโครงการ และการใช้เงินเพื่อมาเสนอครม. อีกครั้ง โดยเรื่องนี้จะมีการหารือร่วมกับนายสมคิดในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ด้วยเช่นกัน

สำหรับยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวตะวันตก จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ ประกอบด้วย จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ให้เป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงชุมชนมากขึ้นจากเดิมที่จะเที่ยวแต่ชายทะเล โดยจะเป็นการเชื่อมแหล่งท่องเที่ยว 5 แหล่งคือ แหล่งเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ แหล่งสำราญตะนาวศรี เน้นท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งเพชรคีรีบุรีสุข เน้นท่องเที่ยวครอบครัว แหล่งชื่นสุขวารี เน้นสุขภาพบำบัด และ แหล่งสมุทรนิเวศน์ เน้นแหล่งธรรมชาติ

ขณะเดียวกันก็จะร่วมกับกระทรวงคมนาคม ในแนวคิดท่องเที่ยวได้ไกลขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง ทั้งการเดินทางจากรถไฟความเร็วสูง และเครื่องบิน ภายใต้ 4 โครงการ คือ ชานชาลาน่าสนุก สถานีทรงเสน่ห์ ของดีบนขบวน และโครงการที่นายกรัฐมนตรีต้องการผลักดัน คือ รถถิ่นชวนเที่ยว โดยปัจจุบัน จังหวัดเพชรบุรีมีนักท่องเที่ยว 6 ล้านคนต่อปี หัวหิน 5 ล้านคน ขณะที่ ระนอง 9 แสนคน และ ชุมพร 1.2 ล้านคน ซึ่งยังไม่กระจายตัวมากนัก

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม. ยังเห็นชอบในการประกาศพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวรอง เพิ่มเติมเพื่อได้สิทธิทางภาษีหักเป็นรายจ่าย 1.5 หมื่นบาท อีก 11 อำเภอ เป็น จ.เพชรบุรี 6 อำเภอ ได้แก่ เขาย้อย หนองหญ้าปล้อง ท่ายาง บ้านลาด บ้านแหลม แก่งกระจาน และจ.ประจวบคีรีขันธ์ 5 อำเภอ ได้แก่ กุยบุรี ทับสะแก บางสะพาน บางสะพานน้อย และสามร้อยยอด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน