นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าตามที่นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สั่งการให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง พิจารณากำหนดมาตรการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการงานก่อสร้างนั้น ปัจจุบันกรมบัญชีกลางอยู่ในระหว่างการเสนอมาตรการในการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการและเพิ่มโอกาสการแข่งขัน

ประกอบด้วยมาตรการในการควบคุมการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ ได้แก่ การเพิ่มหลักเกณฑ์การประเมินการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการงานก่อสร้าง โดยกรมบัญชีกลางจะออกหลักเกณฑ์การประเมินการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการงานก่อสร้าง โดยเพิ่มเครื่องมือให้กับหน่วยงานของรัฐให้สามารถระงับหรือจำกัดการยื่นข้อเสนอของผู้ประกอบการได้ หากผู้ประกอบการรายใดมีผลการปฏิบัติงานล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ หรือไม่สามารถปฏิบัติงานแล้วเสร็จตามสัญญา หรือปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามมาตรฐานจนส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

การลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่มีคุณภาพ โดยกรมบัญชีกลางจะเสนอคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้าง โดยจะนำผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการแต่ละสัญญามาประกอบการพิจารณาในการปรับลดระดับชั้นการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้าง รวมทั้งเพิ่มมาตรการลงโทษ สำหรับผู้ประกอบการที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีโทษสูงสุดคือการเพิกถอนใบทะเบียน

การเพิ่มคุณภาพผู้ประกอบการ โดยกรมบัญชีกลางจะเสนอคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการให้มีการเพิ่มข้อกำหนดมาตรฐานการทำงานสำหรับการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการชั้นพิเศษ เช่น ใบรับรองมาตรฐาน ISO 9001 เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานและคุณภาพการทำงานที่สูงขึ้น โดยจะให้ผู้ประกอบการมีเวลาเพียงพอในการเตรียมการขอใบรับรอง

นายพรชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพิ่มโอกาสการแข่งขัน โดยกรมบัญชีกลางจะเสนอคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้าง โดยเพิ่มสิทธิในการเสนอราคาผู้ประกอบการงานก่อสร้าง สาขางานก่อสร้างทาง ชั้น 1 ให้มีสิทธิเสนอราคางานก่อสร้างในมูลค่างานที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้มีโอกาสขึ้นชั้นและมีโอกาสในแข่งขันมากขึ้น

“การดำเนินการตามมาตรการข้างต้นจะช่วยให้หน่วยงานของรัฐมีเครื่องมือในการควบคุมผลการปฏิบัติงานที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และสามารถกำกับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามสัญญา อีกทั้งช่วยให้หน่วยงานของรัฐได้คู่สัญญาที่มีศักยภาพและมีผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาดี รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีศักยภาพให้เข้ามาแข่งขันเพิ่มขึ้น และลงโทษผู้ประกอบการที่ไม่สามารถดำเนินการตามสัญญา อันจะทำให้การบริหารงานโครงการงานก่อสร้างของภาครัฐมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน