นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร. ร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการบูรณาการข้อมูลเพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนสู่การเป็น BigData ของรัฐวิสาหกิจ

ทั้งนี้ ให้ ธพว. พิจารณาปล่อยสินเชื่อจากฐานข้อมูลการใช้น้ำใช้ไฟของผู้ประกอบการ ช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อมีโอกาสได้รับดอกเบี้ยที่ถูกลงได้

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ข้อมูลระหว่างหน่วยงานผู้ให้บริการไฟฟ้าและน้ำประปา จะช่วยให้รู้สถานะ ชื่อผู้จดทะเบียน ใช้ยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย ว่าขอมิเตอร์น้ำ ไฟมานานเท่าไร ประวัติการใช้น้ำใช้ไฟ ชื่อผู้จดทะเบียน ถือเป็นข้อมูลที่ช่วยยืนยันทางการค้าให้เอสเอ็มอีได้ ไม่ต้องเสียเวลาไปหาหลักฐานอื่น

นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการ กฟน. กล่าวว่า กฟน. ได้ร่วมมือกับกรมการปกครองดำเนินโครงการ Linkage Center เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ พร้อมต่อยอดโครงการดังกล่าวร่วมกับ ธพว.

นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการ กฟภ. กล่าวว่า กฟภ. มีข้อมูลการใช้ไฟของลูกค้าทั้งหมด 19 ล้านราย แยกได้เป็นกลุ่มประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ โรงแรม และราชการเป็นต้น โดยในกลุ่มผู้ประกอบการมีอยู่ราว 4 หมื่นราย ที่จะเอามาต่อยอดการขอสินเชื่อของ ธพว. ได้

นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการ กปน. กล่าวว่า กปน. มีฐานลูกค้าขอมิตเตอร์ 2.3 ล้านราย ครอบคลุมประชากร 12 ล้านรายที่ใช้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ขณะที่ นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า กปภ. สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศถึง 234 สาขา ครอบคุลมประชากรผู้ใช้น้ำมากกว่า 14-16 ล้านคน

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง สคร. กับ รัฐวิสาหกิจในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูล Big Data และ Digital Transformation เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดการฐานข้อมูลภาครัฐ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชนและขับเคลื่อนให้เป็นรัฐวิสาหกิจ 4.0 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน