สรุปภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) วันพุธที่ 8 สิงหาคม 2561 ปิดที่ 1,721.64 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +14.38 จุด คิดเป็น +0.84% จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,723.50 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,707.59 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,335.51 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,141.69 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +10.44 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.50% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นเทสลาและหุ้นอัลฟาเบท ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลง ในขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รวมทั้งสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 1.27% ภายหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.นี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลง 0.08% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่สหรัฐและญี่ปุ่นจะจัดการเจรจาการค้าในวันพรุ่งนี้ที่กรุงวอชิงตัน
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,377.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.75 บาท คิดเป็น +1.44%
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,696.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.50 บาท คิดเป็น +0.68%
3. KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,095.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท คิดเป็น +0.93%
4. BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,884.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท คิดเป็น +3.85%
5. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,607.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.15 บาท คิดเป็น +2.31%
ดัชนีสามารถดีดกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,722 จุดได้ตามคาด อีกทั้งยังทำ New high ได้อีกเล็กน้อย พร้อมทั้งดัชนีที่ปิดได้ในระดับสูงของวัน ซึ่งวันนี้แนวรับจะอยู่แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันที่ 1,711-1,708 จุด หากดัชนีไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าวซะก่อน ดัชนีจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและเส้น BollingerTop ที่ 1,741-1,743 จุดได้ต่อไป
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
