นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นที่ระดับ 3-4% แรงขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การส่งออกที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว รวมถึงการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่เร่งตัวขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องเผชิญความท้าทายรอบด้านจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ทั้ง ปัญหาภัยแล้ง ภาวะหนี้ครัวเรือนไทย ดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะสหรัฐ จีน และยุโรป

ดังนั้นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน กลุ่มทิสโก้ จึงมุ่งเน้นด้านความยั่งยืน เน้นปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ทำให้เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 คาดว่าการขยายตัวของรายได้จะเติบโตตั้งแต่ 0-10% จากปี 2566 ซึ่งกลุ่มทิสโก้ มีกำไรสุทธิ 7,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากปี 2565

สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อที่ขยายตัวได้ 7.2% โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่ และสินเชื่อรายย่อยในกลุ่มธุรกิจจำนำทะเบียนผ่านช่องทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่ขยายสาขาต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 645 สาขา ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 8.6% และภายในปี 2567 จะขยายเพิ่มเป็น 850 สาขา ตลอดจนการมุ่งปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งการออกหุ้นกู้ในปีนี้คาดว่าจะยากและดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้หันมาใช้วงเงินกู้จากภาคธนาคารมากขึ้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจหลักที่กลุ่มทิสโก้ ให้ความสนใจ คือ ธุรกิจพลังงาน และอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ ในส่วนของการเติบโตจากรายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจนายหน้าประกันภัย รวมถึงธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ ที่คาดหวังว่าในปีนี้จะเติบโตขึ้นหลังจากชะลอตัวต่อเนื่องมากว่า 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่ามาตรการภาครัฐที่จะทยอยออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน