“ณัฐพร อินถา”
กว่า 21 ปี ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สำหรับ “ต้อม”เป็นเอก รัตนเรือง ล่าสุดได้รับอีกหนึ่งโอกาสดี ให้ร่วมทำโปรเจ็กต์ “FOLKLORE” ซีรีส์แนวสยองขวัญเรื่องแรกของ HBO Asia ซึ่งมีทั้งหมด 6 ตอน ร่วมกับผู้กำกับฯ จากอีก 5 ประเทศ มาถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญที่สะท้อนถึงความเชื่อ จาก 6 ประเทศในเอเชีย ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, มาเลเซีย และไทย
สำหรับ FOLKLORE เป็นการร่วมมือกันของ HBO Asia กับ Info-communications Media Development Authority (IMDA) ที่ใช้เวลาสองปีครึ่ง
โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพในการสร้างเนื้อหาของอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงในสิงคโปร์และนักแสดงโดยการอบรมผ่านเวิร์กช็อป และทำงานร่วมกับบริษัทท้องถิ่นในการสร้างเนื้อหาให้ HBO Asia
“ต้อม-เป็นเอก” ได้เลือกนำเสนอเรื่องราวของผีปอบ ในยุค 2018 ภายใต้ชื่อเรื่องว่า “Folklore : Pob” ความลับของผีปอบ
งานนี้ “ข่าวสดบันเทิง” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ความรู้สึกและขั้นตอนการถ่ายทำเรื่องดังกล่าว และการทำงานกับทางเอชบีโอว่ายากง่ายแค่ไหน ทำไมถึงเป็นเรื่องเดียวในบรรดา 6 ตอน ที่ทำเป็นภาพขาวดำทั้งหมด
ผู้กำกับฯ คนดังเผยว่า “จริงๆ เรื่องนี้จะตลกไม่น่ากลัวมาก คือมันบาลานซ์กันพอดี ส่วนว่าทางเอชบีโอเข้ามาควบคุมในการทำงานเราแค่ไหน คือเขาก็คอมเมนต์บท แล้วให้อิสระเรามาก มีความเคารพเรามาก ซึ่งดีเพราะผลลัพธ์ที่ออกมามันดีจริงๆ เขาก็ได้หนังที่คุ้มค่ามาก แต่ของเราคือทำฉีกจากโจทย์เยอะ แล้วเราก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาห้ามทำเป็นหนังขาวดำ แต่เราก็ไม่ได้ไปโน้มน้าวอะไรเขา คงมีคนไปจัดการให้แทน ความขาวดำของหนังมันช่วยเรื่องบรรยากาศหนังด้วยนะ แต่หนังต้องไม่ยาวเกิน 55 นาที เราพยายามทำหนังที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง หนังเรื่องนี้เราทำต่างจาก เรื่องอื่นๆ ตรงนี้เรามีโจทย์ต้องตอบ คือต้องเป็นเรื่องราวของผีที่มีชื่อเสียงในประเทศ ต้องน่ากลัว เวลาห้ามเกินเท่านี้ๆ กำหนดส่งงานวันนี้ๆ ทั้งที่ปกติเราไม่มีต้องทำแบบนี้ เราทำหนังแบบชิล ทำตามใจ ซึ่งตัวมันเองก็กำหนดเราเต็มไปหมดแล้ว เราก็ทำไปตามสัญชาต ญาณแต่อยู่ในโจทย์”
พอมีกำหนดกฎเกณฑ์ ทำให้เราทำหนังแล้วเสียความเป็นตัวเองไหมเพราะมีลิมิต “ลิมิตไม่ใช่เรื่อง อาร์ทิสติก แต่ถ้าได้ดูหนังแล้วจะรู้สึกเลยว่าโคตรจะหนังเป็นเอกเลย แต่ข้อจำกัดที่พูดถึงมันเป็นเรื่องของการผลิต ทางเอชบีโอเขาไม่มาวุ่นวายกับเรื่องอาร์ทิสติก พอเราอธิบายเขาก็เข้าใจ”
ทำไมถึงเลือกทำภาพขาวดำ “ทำไมถึงไม่ล่ะ(หัวเราะ) ผมไม่มีเหตุผลเลย แต่ว่าตอนที่เขียนสคริปต์ก็นึกภาพออกมาเป็นขาวดำเลย ถ้าคุณได้ดู จะรู้สึกว่ามันเหมาะกับภาพขาวดำแล้ว ส่วนว่าทำไมถึงใช้การถ่ายทำแบบเดิมๆ ไม่ใช้ซีจี คือผมไม่ค่อยถนัดซีจี จริงๆ ทำได้นะ แต่คิดว่าเทคนิคนี้มันเหมาะกับเรื่องนี้ คือตอนที่ทำก็คิดว่าถ้าทีมงานบอกว่าที่ผมทำมันยาก ผมก็จะใช้ซีจี แต่หลังจากลองเทสต์กันแล้ว ทุกคนโอเคกับวิธีนี้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“สำหรับตัวนักแสดงผมไม่ได้คัดเลือก แต่ที่มาเล่นเป็นเพื่อนของเพื่อน คนอเมริกัน กับคนที่เล่นเป็นนักข่าว ก็ไม่เคยเล่นหนัง ส่วนคนที่เป็นผีปอบเป็นเอ็กซ์ตร้าในทีมไทย มีประสบ การณ์บ้างแต่ไม่เยอะ”
ดีกว่าไหมที่ทำงานกับคนที่ไม่ใช่นักแสดงมาก่อน “ผมก็ชอบร่วมงานกับคนที่ไม่ใช่นักแสดงนะ การแสดงเขามันจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่มันก็มีความเสี่ยง เพราะเวลาเข้าหน้าเซ็ต ที่มีทั้งกล้อง คนเยอะแยะ เขาอาจตื่นเต้น แต่การเทก 40-50 ครั้ง สำหรับเขาจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าทำงานกับนักแสดงมืออาชีพ ถ้าเทกสัก 10 ครั้ง เขาจะมีคำถามว่า เขาทำงานไม่ดีหรือเปล่า”
เรื่องนี้มีอะไรที่นำมาจากเรื่องใกล้ตัวหรือเปล่า “ก็มีอย่างตัวนักข่าวในเรื่อง กับแม่ที่ป่วย อันนี้มาจากเรื่องตัวเอง คือแม่ผมเสียชีวิต 4-5 ปีที่แล้ว และในช่วงบั้นปลายของแม่ เขาพยายามใกล้ชิดผม แต่ผมพยายามออกห่าง จนมาตอนนี้ผมรู้สึกผิดว่าเราน่าจะดีกับแม่และใกล้ชิดแม่มากกว่านี้ ดังนั้นมันก็เหมือนกับว่าอะไรที่เราทำไม่สำเร็จในชีวิตจริง เราก็พยายามมาทำให้สำเร็จในหนังแทน”
ที่บอกว่าอยากนำเสนอผีปอบ ในยุค 2018 คือจะเป็นอย่างไร “เราไม่เคยเห็นหนังผีปอบ ที่ผีปอบเจอฝรั่ง แต่เราก็เอามาจากสิ่งรอบตัวเรานะ อย่างบ้านผมอยู่กลางกรุงเทพฯ แถวสุขุมวิท ทุกวันเราเดินตามถนน ได้ยินแต่คนพูดภาษาต่างชาติ ได้ยินคนพูดไทยน้อยลงเรื่อยๆ เลยเอามาเขียนเป็นพล็อต เพื่อสะท้อนยุค เพราะกรุงเทพฯมันไม่ใช่กรุงเทพฯที่เรารู้จักเมื่อ 15 ปีที่แล้ว อย่างผีมันต้องไม่มีกาลเวลา ไม่รู้กรุงเทพฯพัฒนาไปถึงไหน แล้วพอกลับมาเจอฝรั่งถึงช็อก เพราะโลกมันเปลี่ยนไปเยอะมาก”
สำหรับ FOLKLORE จะออนแอร์ทุกวันอาทิตย์ เวลา 22.00 น. ทาง HBO Asia สัปดาห์ละเรื่อง โดยเริ่มเรื่องแรก A Mother”s Love จากอินโดนีเซีย ในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม ตามด้วย Tatami จากญี่ปุ่น อาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม, Nobody จากสิงคโปร์ อาทิตย์ ที่ 21 ตุลาคม, POB จากไทย อาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม, Toyol จากมาเลเซีย อาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน และปิดท้ายกันที่ Mongdal จากเกาหลีใต้ อาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน
