‘หมาก’ตกผลึกอารมณ์! เลิกหัวร้อน-ประสบการณ์บ่มเพาะ : อาทิตย์ใส

‘หมาก’ตกผลึกอารมณ์! เลิกหัวร้อน-ประสบการณ์บ่มเพาะ : อาทิตย์ใส

‘หมาก’ตกผลึกอารมณ์! เลิกหัวร้อน-ประสบการณ์บ่มเพาะ – เผลอแป๊บเดียวอยู่วงการ 9 ปีแล้ว สำหรับพระเอก ‘หมาก’ ปริญ สุภารัตน์ ผ่านประสบการณ์มากมายหลากหลาย ล่าสุดโกยวิชาแสดงในภาพยนตร์ “จอมขมังเวทย์ 2020” ค่ายสหมงคลฟิล์มฯ

ประฝีมือพระเอกรุ่นใหญ่ ‘นก’ ฉัตรชัย เปล่งพานิช พร้อมนักแสดงฝีมือฉกาจ ‘ก๊อต’ จิรายุ ตันตระกูล, ‘นก’ สินจัย เปล่งพานิช, ‘คิทตี้’ ชิชา อมาตยกุล และ ‘แพร์’ พิชชาภา พันธุมจินดา ผลงานการกำกับฯ ของ ‘ต้อม’ ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์

วันนี้โอกาสดี ได้จับเข่าพูดคุยกับหนุ่มหมาก

◆ บทหมากในหนัง “จอมขมังเวทย์ 2020” เป็นอย่างไร?

หมาก – “เรื่องนี้ผมรับบท วิน เป็นเด็กสมัยใหม่ที่ชื่นชอบการต่อสู้ ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ แต่วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์โดยไม่รู้ว่าทำไมพ่อถึงโดนทำร้ายขนาดนี้ เลยออกไปสืบ เจอเรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์ ทำให้เขากลายเป็นอีกคนที่เข้าไปอยู่ในโลกไสยศาสตร์ ตอนได้รับการติดต่อมา ความรู้สึกแรกคือเหนื่อยแน่ๆ (หัวเราะ) เรื่องเหนื่อยไม่กลัว เพราะตอนถ่าย คมแฝก อันนั้นเหนื่อยมากจริงๆ แต่ที่อยากทำเพราะได้ผู้กำกับฯ ที่ทำงานด้วยกันแล้วรู้ใจกัน ได้มาเล่นกับพี่นก-ฉัตรชัย โอกาสแบบนี้ทำไมจะไม่เล่น ขอบคุณมากที่เลือกเรา”

◆ ตอนถ่ายเหนื่อยอย่างที่คิดไหม?

หมาก – “เหนื่อยกว่าที่คิดครับ เราคิดว่าบางคิวจะไม่มีบู๊บ้าง แต่นี่ทุกคิวมีบู๊หมด ต้องฟิตร่างกายให้พร้อมทุกวัน แล้วถ่ายตั้งแต่เช้าจนดึกทุกวัน ซึ่งเป็นปกติของหนัง แต่เราไม่เคยเจอไง เรื่องนี้ฟิตร่างกายพร้อมมาก เตรียมมาพร้อมเหนื่อยพร้อมบู๊ ตอนนั้นลีนที่สุด เพราะช่วงนั้นถ่ายละคร ‘อกเกือบหัก แอบรักคุณสามี’ ก็โดนควบคุมหุ่นด้วย เรื่องนี้จะได้เห็นความแตกต่างของผม อาจจะเคยเห็นผมในลุกส์ใสๆ เป็นบอสบ้าง ใส่สูท แต่เรื่องนี้มีลายสักทั้งตัว แล้วจะเห็นผมแบบนี้ทั้งเรื่อง”

◆ “จอมขมังเวทย์” ภาคที่แล้วดูหรือเปล่า?

หมาก – “ดูครับ ชอบมาก ภาพก็ยังจำ ภาคนี้แตกต่างจากภาคที่แล้วตรงที่ภาคก่อนจะมีความดิบของการไล่ล่า ไม่ค่อยมีภาพแอ๊กชั่น จะเป็นภาพดาร์กๆ แต่ภาคนี้จะมีแอ๊กชั่นเข้ามาเยอะมาก แล้วก็มีเรื่องของซีจีสมัยใหม่เข้ามามากๆ มีความแฟนตาซีมากขึ้น”

◆ ร่วมงานกับนักแสดงในเรื่องเป็นอย่างไรบ้าง?

หมาก – “สุดยอดครับ อย่างพี่นก-ฉัตรชัย คนนั้นเขาเก่งอยู่แล้ว ซึ่งพี่นกก็เปลี่ยนจากภาคที่แล้ว ดูขลังขึ้น มีหนวดเท่มากๆ สำหรับพี่ก๊อต (จิรายุ) มีจินตนาการที่ดีมากๆ เขามีอะไรเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเขาก็ส่งให้เรา ส่วนคิทตี้-ชิชา เวลาเขาแสดงมันโดดออกมาทำให้เราเห็นคาแร็กเตอร์เขาชัด เป็นนักแสดงอีกคนที่เรารู้สึกว่าเวลาเล่นด้วยเขาเก่ง เรื่องนี้นักแสดงแต่ละคนเก่ง มีของกันทั้งนั้น เราก็เข้ามาหาประสบการณ์ กับงานที่ออกมาก็พอใจมาก อยากเปิดใจดูว่า จอมขมังเวทย์ รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ พอมาเจอกันเป็นอย่างไร ภาคที่แล้วกับภาคนี้มีกลิ่นอายต่อเนื่องนิดๆ มีตัวละครต่อกันคือพี่นก-ฉัตรชัย แล้วก็มีนักแสดงใหม่เพิ่มเข้ามา เรื่องนี้ได้ประสบการณ์เยอะ และมีเจ็บเยอะมาก แต่ไม่ได้เกิดจากแอ๊กชั่นที่พลาด แต่เป็นเพราะเราทุ่มเทมากไปหน่อย เซฟตัวเองแล้ว แต่ด้วยอารมณ์ตอนนั้นมันสนุก เราชอบด้วย”

◆ ในเรื่องเพนต์ลายสักทั้งตัว แพ้บ้างไหม?

หมาก – “แพ้ครับ หลับเลย (หัวเราะ) มันนานครับ ใช้เวลาการเพนต์ลายสักอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ถ้าเต็มตัวอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ทุกซีนต้องออกมาแก้ เขียนใหม่ เพราะลายมันลบ พอบู๊ลายก็หาย แล้วต้องเผื่อเวลาในการลบอีก 30-40 นาที ต้องให้ที่กองลบให้ ลบเองไม่ได้ มันเต็มตัวไปหมด แล้วอีกวันต้องไปถ่ายละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ต่อ ช่วงนั้นโหดมาก ทำงาน 7 วัน แต่ก็มันส์ดี ที่รับหนังเรื่องนี้อีกอย่าง เพราะอยากท้าทายตัวเอง ผมรู้อยู่แล้วว่ากองหนังจะนัดเช้ามาก แล้วถ่ายทั้งวันจนดึกมาก แล้วเป็น 7 วันที่ไม่ได้หยุดเลย อยากรู้ขีดจำกัดของตัวเองด้วยว่าได้แค่ไหน ปรากฏไม่มีน็อก แสดงว่าผมเตรียมตัวมาดี (หัวเราะ)”

◆ ที่ยากที่สุดในหนังเรื่องนี้คืออะไร?

หมาก – “แอ๊กชั่นครับ ภาคที่แล้วเน้นความดาร์ก ภาคนี้เน้นแอ๊กชั่น แต่ความดาร์กยังมีอยู่ จะเห็นซีนที่ผมถูกจับอยู่ในคุก อันนี้เป็นซีนขลังของเขา ผมชอบมาก ฉากนี้ทำให้เราเชื่อว่านั่นคือคุกจริงๆ”

◆ ถ่ายเรื่องนี้ มีของขลังติดตัวบ้างไหม หรือเจออะไรแปลกๆ บ้าง?

หมาก – “ผมไม่เจอนะ ไม่ได้ยินใครเล่าอะไรให้ฟัง แต่เรื่องของขลังของเราก็มีไม่น้อย (หัวเราะ) พูดไป เรียกว่าเตรียมตัวมาดี แล้วของของนักแสดงแต่ละคนก็แรงทั้งนั้น เราจะไปกลัวอะไรล่ะ”

◆ หลังจากเล่นเรื่องนี้แล้ว อยากสักยันต์แบบในเรื่องนี้บ้างไหม?

หมาก – “มีครับ แต่เก็บไว้ก่อน รอแก่ก่อน (หัวเราะ) เพราะต้องทำอะไรหลายอย่าง แล้วต้องมีวิธีการรักษามนต์อะไรต่างๆ เรายังเป็นวัยรุ่นที่ต้องทำงานและไปไหนมาไหนอยู่”

◆ ตอนนี้มีงานอะไรอีกบ้าง?

หมาก – “มีละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี, ตราบฟ้ามีตะวัน กำลังถ่ายอยู่ เล่นคู่กับน้องเก้า-สุภัสสรา เป็นเคมีใหม่ คนนี้เล่นเอาตายเหมือนกัน น้ำตามาเต็ม เล่นเก่ง แล้วก็มีละครอีกเรื่อง เป็นแอ๊กชั่นจ๋า แต่ยังบอกไม่ได้ ถือว่าชอบ เรื่องนี้บู๊ใช้เครื่องทุ่นแรง”

◆ เข้าวงการมากี่ปีแล้ว?

หมาก – “9 ปีครับ รู้สึกว่าตัวเองเพิ่งเข้ามา รู้สึกว่าตัวเองยังเด็กอยู่เลย ด้วยความที่เราทำงานทุกวัน ไม่รู้ตัวเลย อยู่ดีๆ 9 ปีแล้วเหรอ ถือว่านานเหมือนกันนะ จะ 10 ปีแล้ว”

◆ คนจะพูดกันว่า พระเอกรุ่นหมากอยู่กันนาน?

หมาก – “สาธุ (ยกมือไหว้) อยากให้เป็นแบบนั้น เอาจริงๆ ตอนนี้ถ้าไม่เป็นพระเอกแล้วเราจะไปทำอะไร เพราะเราทำหน้าที่ตรงนี้ รักหน้าที่ตรงนี้ โอกาสเราดีขนาดนี้ เราจะไม่ทำให้มันออกมาดีเหรอ เราก็ต้องทำมันต่อไปอย่างนี้”

◆ เราประคองตัวเองยังไง ให้ผ่านสิ่งเร้ามาได้ถึงตอนนี้?

หมาก – “มันผ่านมาจริง มันเข้ามา แล้วเราก็เข้าไปตอบสนองสิ่งเร้าด้วยแหละ แต่พอถึงจุดนึงเราดึงตัวเองกลับมาได้ทันเวลา แล้วก็ดูแลตัวเอง อ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อฟังผู้ใหญ่ ความหัวร้อนของเราตอนนี้อาจจะหายไปเยอะมาก แต่การเป็นคนตอบไว พูดไว ยังอยู่ เป็นคนที่คิดอะไรก็พูดเลย ผมเป็นแบบนี้มานานแล้ว มีคนเตือนเหมือนกัน แล้วเราก็เตือนตัวเองด้วย แต่ว่าด้วยเรื่องอารมณ์ร้อนความร้อนแรง หายไปเยอะ ด้วยอายุมากขึ้น เราผ่านการบวช ผ่านคำแนะนำอะไรมามากมาย จนทำให้พวกนั้นมันดับหายไป”

◆ แต่เราก็เป็นนักท่องโซเชี่ยล ซึ่งก็อันตรายกับคนอารมณ์ร้อน?

หมาก – “อันนี้ชอบมาก แต่ชอบเข้าไปดูรูปเท่านั้นเอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องคอมเมนต์ที่เข้ามา บอกเลยว่ามันแรง ถ้าใครไปใส่ใจกับมัน หรือยึดติด ให้ใจกับมัน แย่เลยนะ เพราะยุคนี้ มีแค่ชอบกับไม่ชอบ ชอบก็ชม ไม่ชอบก็ด่า แค่นี้เลย แล้วเราจะไปสนใจเหรอกับคำของคนที่ไม่รักเรา คนที่เกลียดเรา จะไปสนใจทำไม มีไม่กี่คนหรอก ส่วนคนที่รักเรามีเยอะแยะมากมาย คนที่แคร์เรามีมากมาย ส่วนคนพวกนั้นเราแค่ตัดออกไป แล้วก็มองข้ามแค่นั้นเอง”

◆ เรื่องการวางตัวในวงการล่ะ?

หมาก – “ผมรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรมาก แค่มุ่งมั่นกับงาน ตั้งใจทำการบ้าน เชื่อฟังผู้ใหญ่ อ่อนน้อมถ่อมตนเวลาเจอผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ได้ลำบากอะไรเลย ส่วนการรับงาน อย่างละคร ช่องเป็นคนเลือกมาให้แล้ว เขาคงคิดว่าเราเหมาะถึงเลือกให้เราเล่น ผู้ใหญ่ก็มีมาปรึกษาเรา เราก็ได้ปรึกษาผ้ใหญ่ แชร์กัน แต่ส่วนใหญ่เราให้ทางผู้ใหญ่เป็นคนตัดสินใจ”

◆ อยากเล่นบทแบบไหนอีก?

หมาก – “ไม่รู้ แต่ผมชอบแนวดราม่า ทางถนัด ผมพร้อมเล่นทุกอย่าง พระเอกร้ายๆ ก็เคยเล่นแล้ว ถ้าให้เล่นเป็นตัวร้ายเลยก็ดีนะ มันเล่นอะไรได้เยอะกว่าพระเอก ลีลาเขาเยอะกว่า พระเอกต้องเป็นคนดี ถ้าเล่นร้ายมันสามารถออกแบบได้เยอะ”

อนงค์ จันทร