ข่าวสดบันเทิง
“ก็ตามนั้นค่ะ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โต ไตร่ตรองกันมาระยะนึงแล้ว” ม่ายสาวพราวเสน่ห์ “แป้ง”อรจิรา แหลมวิไล เปิดใจระหว่างมาร่วมงาน “Slim Concept MAI The ICON of Perfection” ถึงสาเหตุที่เลิกรากับแฟนหนุ่มนักร้อง “แหนม”รณเดช วงศาโรจน์
จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “บางทีคนเรามุมมองทางด้านความรักไม่เหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องเวลา มุมมองการใช้ชีวิตมันแตกต่างกันจริงๆ เป็นอะไรที่คนสองคนเข้ากันได้ กับเข้ากันไม่ได้ ซึ่งพอเข้ากันไม่ได้ เป็นเพื่อนกันอาจจะดีกว่า แป้งว่าแป้งทำเต็มที่แล้วนะ”
เป็นคนขอเลิกหรือเปล่า เจ้าตัวปฏิเสธ “ไม่ค่ะ คุยกันทั้งสองคน ไม่ใช่ด่วนตัดสินใจหรือฟ้าผ่า คุยกันมาประมาณนึงแล้วและตัดสินใจตรงกัน คนอื่นอาจจะมองว่าแป้งแรง ตอนเด็กๆ อาจใช่ แต่ตอนนี้ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว มุมมองด้านความรัก อะไรที่ทำได้เต็มที่ ก็ทำเต็มที่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าผลลัพธ์เป็นยังไงก็ไม่ได้เสียใจ เพราะแป้งเชื่อว่าอะไรที่ผ่านเข้ามาเป็นเรื่องดีๆ ทั้งนั้น ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้โอเค แต่ความเสียใจก็มีอยู่แล้ว แต่แป้งไม่ได้เป็นคนโชว์ ไม่ดราม่าลงไอจี หรือมานั่งให้ใครสงสาร แป้งมองโลกค่อนข้างบวก เวลาเศร้าไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้สึกเศร้าไปกับเรา อยากให้คนเห็นเราในมุมแฮปปี้ดีกว่า”
ห่างกันมาได้เท่าไหร่แล้ว แป้งตอบว่า “ประมาณเดือนนึงค่ะ ซึ่งมันก็เฮิร์ตด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ ณ วันนี้เรายังคุยกันบ้าง ยังคุยกันได้อยู่”
มีคนบอกสาเหตุที่เลิกเพราะแป้งลงภาพเงากับหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นปริศนา ใช่เป็นมือที่สามหรือเปล่า “คนนั้นเป็นเพื่อนสาวค่ะ ไม่มีมือที่สาม”
บางคนคิดว่ารักครั้งนี้ของแป้งจะถึงแต่งงาน “ไม่ๆ แป้งผ่านตรงนั้นมาแล้ว แป้งคงไม่คิดไปถึงขั้นนั้น เอาทุกวันให้มีความสุขดีกว่า ส่วนโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิม คือตอนนี้เป็นเพื่อนกันดีกว่า”
ถ้าโสดแล้ว หนุ่มๆ จีบได้ไหม “โสดค่ะ แต่อย่าเพิ่งจีบเลย ขออยู่คนเดียวมีความสุขกับตัวเองก่อน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเราเอง มันจะไม่เวิร์กเราก็ต้องยอมรับมัน ถ้ามานั่งเฟลมานั่งหดหู่มันก็ไม่ใช่ ยังไงชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทำทุกวันให้มีความสุข ไม่เข็ดความรัก แต่ก็ขอใช้เวลากับตัวเองสักพักก่อน”
ส่วนความรักครั้งต่อไป นักแสดงสาวกล่าวว่า “แป้งเป็นคนไม่ค่อยหวือหวากับความรักอยู่แล้วในการออกสื่อ แต่กับพี่แหนม เขาเป็น นักร้อง จะมาปิดบังมันก็คงไม่ได้ แต่อนาคตถ้าเกิดแป้งจะดูใคร ถ้าเลือกได้แป้งขอดูเงียบๆ และดูนานๆ เพราะเราเป็นผู้หญิงยังไงผู้หญิงก็เสียใจมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว”
