คอลัมน์ อาทิตย์ใส

‘แคท’30ปีในโลกมายานางเอกใสสู่ดาราเจ้าบทบาท – ร่ายฝีมือแสดงในบท ‘ศรีประไพ’ ภรรยาสุดโหดในละคร “เพลิงภริยา” ทางช่อง 8 เพิ่งจบไป สำหรับสาวมากความสามารถวัย 44 ปี ‘แคท’ แคทรียา อิงลิช อดีตนักร้องยุค 90 เจ้าของเพลงดัง “นอกสายตา” และ “โอเคนะคะ” ที่คร่ำหวอดวงการบันเทิงนานถึง 30 ปี

วันนี้โอกาสดี ได้จังหวะพูดคุยกับนักแสดงสาวถึงเรื่องงานแสดงและชีวิตส่วนตัว รวมถึงอาการป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้า

บทบาทในละคร “เพลิงภริยา” ที่เพิ่งจบไป ดูโหดเหมือนกัน?

แคท – “โหดใช้ได้เลย จริงๆ เป็นบทที่ไม่เคยเล่น เคยเล่นบทร้ายแต่ก็เป็นร้ายที่ชัดเจนทั้งสีหน้าท่าทาง แต่เรื่องนี้เหมือนหลอกคนในบ้านว่าเรารักครอบครัวนี้ เป็นคนดี แต่เรามาเพื่อแก้แค้น โดนบังคับให้เป็นเมียน้อย ก็วางแผนยาว เหมือนเราโดนอะไรบ้าง ครอบครัวนี้ก็ต้องโดนเหมือนที่เราโดน เป็นการแก้แค้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่โดนกระทำ จะมีเหตุมีผล ต้นเรื่องของเพลิงคือเรา เป็นเพลิงความแค้นที่อยู่ในใจเรา”

เล่นกับพี่หนุ่มเป็นยังไงบ้าง?

แคท – “สนุกดี ต่างจากที่เคยเล่นมาด้วยกันเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ตอนเล่นน้ำใสใจจริง เป็นนักศึกษาแป๋วๆ ตอนนี้มาเจอกันอีกในบทที่โต เราผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะแล้ว ก็เป็นอีกบทบาทที่เล่นด้วยกัน สนุกดี ได้เล่นอะไรที่ท้าทายเราทั้งสองคน”

เรื่องนี้ใช้อารมณ์เยอะ?

แคท – “ทั้งเรื่องต้องวางมาดนิ่ง ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ คนจะเดาไม่ออกว่าศรีประไพคิดอะไร ทุกอย่างจะอยู่ข้างใน เรื่องนี้ท้าทายมาก การบ้านเยอะ ถึงกับร้องไห้เลย จะมีอยู่ฉากหนึ่ง พูดต้องหน้านิ่งแล้วต้องเดิน บทพูดก็ยาวต้องรีบพูด ตายแล้วจำบทไม่ได้ นอยด์กับตัวเอง ทำไมเล่นไม่ได้ ก็เลยไปบอก พี่บุ๋ม (ปกาสิต กิ่งศักดิ์) ผู้กำกับฯ เขาก็บอกว่ามันเพิ่งวันสองวันแรก ยกไปเลยฉากนี้ พอบอกว่ายกฉากนี้ ฉันอยู่ในวงการมา 30 ปี ไม่เคยยกฉากเพราะว่าฉันเล่นไม่ได้ เป็นครั้งแรกในชีวิต รู้สึกแย่มากๆ ก็ร้องไห้ พี่บุ๋มถามว่าร้องทำไม เราก็บอกว่าหนูไม่เคยยก พี่บุ๋มบอกว่าเล่นแล้วมันออกมาไม่ดีพี่ปล่อยไปไม่ได้ ไม่ต้องนอยด์ เอาไว้เราชินกับคาแร็กเตอร์ เริ่มเข้าใจ อินกับมันมากขึ้น ค่อยมาถ่ายให้ออกมาดีที่สุด หลังจากนั้นเรานอยด์ยาวไปเลย”

ทำไมรับแต่บทหนักๆ?

แคท – “ไม่ได้ตั้งใจ เราอยู่วงการมา 30 ปี เล่นบทบาทน่ารัก ตลก สดใส มาตลอด เป็นนางเอ๊กนางเอก อาจจะด้วยอายุเรา จะมาเป็นนางเอกใสๆ มันขัด รู้สึกเราอยู่วงการมานานขนาดนี้ น่าจะทำงานที่ท้าทายความสามารถเราดีกว่า ลองดูก็แล้วกัน ตอนแรกไม่ค่อยอยากเล่น รู้สึกว่าฉันไม่อยากเล่นเป็นคนร้ายเลย อยากเป็นนางเอ๊กนางเอกอยู่ แต่พอลองเล่นแล้วรู้สึกเล่นได้ อยากให้แฟนๆ ได้รสชาติใหม่ๆ ว่าเราเล่นแบบนี้ได้ แล้วเลเวลความร้ายความแรงก็มากขึ้นเรื่อยๆ มันท้าทายนะ”

เล่นร้ายหนักจนวูบกลางกอง?

แคท – “ตอนนั้นป่วย ถ่ายเรือนสายสวาท ถ่ายกันวันละ 30 กว่าฉาก จากปกติเราจะถ่ายกัน 20 กว่าฉาก แต่นี่ถ่ายกัน 30-40 ฉากทุกวัน แล้วบทหนักเป็นเราเกือบทุกฉาก มีร้องไห้ กรี๊ด เยอะมาก แล้ววันนั้นเป็นไข้ บทหนักตั้งแต่เช้าไม่มีเว้น พอพักนั่งกินข้าว รู้สึกวูบ ไม่ไหวแล้ว หรือว่าร่างกายช็อก เลยบอกธุรกิจกองเราไปฉีดยาหน่อยนะ แล้วก็บอกว่าให้ดูฉากให้หน่อย ให้หนักเบาสลับกัน พอฉีดยาเสร็จกลับมาเล่นต่อ วันนั้นถ่าย 42 ฉาก เข้าฉากคนเดียว เยอะมาก ถ่ายเสร็จปุ๊บขับรถเข้า โรงพยาบาลนอนให้น้ำเกลือ”

อย่างที่บอกเป็นโรคซึมเศร้า แต่บทที่รับแต่ละเรื่องโหดมากเลย?

แคท – “ตอนนี้เรารับกับบทหนักๆ ได้แล้ว พอเราได้เล่นเหมือนเราได้ปลดปล่อย เหมือนเวลาที่เราอยากกรี๊ด ก็ได้กรี๊ดในฉาก ทำให้รู้สึกดี เหมือนได้ปลดปล่อย มันก็แปลกนะ (หัวเราะ)”

ได้ไปอัพเดตอาการกับคุณหมอบ้างไหม?

แคท – “เรื่อยๆ ค่ะ ถ้าวันไหนรู้สึกไม่โอเคก็จะเข้าไป ถามว่าตอนนี้หายหรือยัง ไม่มีคำว่าหาย มันก็จะอยู่ติดตัวเราไปตลอด แต่อยู่ที่ว่าเรารับมือกับมันได้ไหม รับมือกับอารมณ์เราได้ไหม ถ้ารู้สึกว่าเราเริ่มอารมณ์ดิ่ง เราต้องดึงตัวเองออกมาจากตรงนั้นให้ได้ บางคนปล่อยอารมณ์มันก็จะดิ่งลงๆ แล้วมันก็จะไปเลย มันดึงออกมาไม่ได้ สาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมด้วย อาจจะบทบาทที่เราได้รับ แล้วเรารับมือกับมันไม่ทัน”

ของเราเกิดจากการเล่นละคร?

แคท – “ใช่ เราอินกับมันมาก ทุ่มสุดตัว เข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ แล้วเอาตัวเองออกมาจากนั้นไม่ได้ อยู่บ้านก็มันเขี้ยวตัวเอง โขกหัว คือมันรู้สึกอึดอัดมันเขี้ยวก็เลยไปหาหมอ คือเราอยู่แบบนี้เป็นปี มันคอนโทรลตัวเองไม่ได้ ถ้าอยากเจ็บก็ต้องเจ็บ ห้ามตัวเองไม่ได้ ไม่ชอบอยู่กับคน เพราะพออยู่กับคนเขาก็จะบอกว่าอย่าคิดมาก นะ โอเคไหม ฉันไม่ชอบคนถามแบบนี้ หรือคำพูดแบบนี้ไม่ชอบ อันนี้จริงๆ นะ คนที่เป็นแบบนี้เขาจะไม่ชอบให้พูดว่า อย่าคิดมากนะ เป็นอะไรหรือเปล่า จะไม่ชอบ จะมีความรู้สึกว่า ถ้าบอกว่าอย่าเครียดนะ เหรอ มีอะไรให้ไม่เครียดบ้างอ่ะ คือจะมองทุกอย่างแง่ลบหมด สมมติเพื่อนๆ ออกไปเที่ยวไม่ชวน แล้วมาลงไอจี เฟซบุ๊กไปกินข้าว ไปเจอกัน เราก็จะรู้สึกว่าไม่ชวนฉัน ก็ใช่สิ ฉันไม่มีความสำคัญพอ เธอลืมฉัน ทั้งๆ ที่เขาอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้น เขาอาจจะคิดว่างานยุ่งไปไม่ได้หรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าพอเราเห็นก็รู้สึกว่า ใช่สิแกไปได้สิ พอเขาบอกว่าคราวหน้าเดี๋ยวไปนะ เราก็นึกในใจเหรอ คราวก่อนเธอก็ไปได้โดยไม่มีฉันนี่ อะไรแบบนี้ ทุกอย่างจะลบหมด”

เราก็เลยไปหาคุณหมอ?

แคท – “มันจะกลายเป็นว่าเราคิดในแง่ลบตลอด มันไม่ดีเลย เราก็รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว ไปคุยกับคุณหมอดีกว่า เรารู้ตัว แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยดี เรารู้สึกแย่ไปหมด”

คุณหมอไม่ได้ห้ามให้เล่นละครบทหนักๆ เพราะสาเหตุเกิดจากการที่เราเล่นละครบทหนักๆ?

แคท – “ไม่ได้ห้าม แต่พยายามหาวิธีดึงเราออกมาจากสิ่งนั้น เขาก็รู้ว่านี่มันคืออาชีพของเรา มันจำเป็นต้องเล่นแบบนี้ เขาก็จะหาวิธีให้ เราก็ผ่านมาได้”

มีนักแสดงอื่นๆ มาปรึกษาไหม?

แคท – “บางคนก็จะมาถาม คือคนที่ไม่เป็นก็จะไม่เข้าใจ เข้ามาถามว่ารู้สึกอย่างนี้จริงเหรอ ก็บอกว่าใช่ เรารู้สึกจริงๆ บางคนก็ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า เป็นแค่วิตกกังวล เป็นลักษณะนอยด์ ถ้าไปปรึกษาหมอก็ดี จะได้รู้ว่าเราเป็นอะไรกันแน่”

ถามเรื่องการดูแลรูปร่างหน่อย ทำอย่างไรที่ทำให้หุ่นยังเป๊ะขนาดนี้?

แคท – “ไม่ใช่ง่ายๆ เลยค่ะ (หัวเราะ) อาหารการกินต้องดูแลนิดหนึ่ง แต่ไม่อด เพราะเราใช้พลังงานขนาดนี้ ทั้งจำบท ไหนจะอารมณ์หลายอย่าง เราเหมือนรถยนต์ ต้องมีน้ำมันเข้าไป เราต้องกินข้าวให้ครบ 3 มื้อ แต่ก็ต้องระวังเรื่อง ของมัน ของทอด ของหวาน แล้วเป็นคนที่ชอบของหวานมาก แต่ขอคำเดียวให้หายอยาก กินให้รู้รสชาติว่าอร่อย (หัวเราะ) เรื่องอาหารสำคัญ การออกกำลังกายไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักโดยตรง แต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ระบบเผาผลาญดีขึ้น แต่ว่าถ้าเราเหนื่อยมากๆ อย่าออกกำลังกาย เพราะมันไม่ได้ช่วย เราต้องพักผ่อนให้มากๆ อันนี้คือจุดสำคัญ ถ้าเราไม่ได้พักผ่อนมันจะ ทำให้เราอ้วน เพราะระบบเผาผลาญมันจะรวน ถ้าพักผ่อนน้อยๆ มันก็จะพัง”

เรื่องการออกกำลังกาย ออกเยอะไหม?

แคท – “วันละ 15 นาทีเอง แต่เล่นแบบหนักเลยนะ เหงื่อท่วม เป็นการออกกำลังกายที่ไม่หยุดพัก เราจะเล่นทั้งหมด 5 ท่า 4-5 รอบภายใน 15 นาที แต่ถ้าเราอยากพักในระหว่างนั้นก็ได้ ในยูทูบมี คือแค่นั้นพอ ไม่ใช่ออกกำลังกายเป็นชั่วโมง แคทไม่มีเวลาออกกำลังกายเป็นชั่วโมง พอมาเจออันนี้มันใช่ มันได้เลย วันละ 15 นาที วันเว้นวัน ผิวหน้าก็มีครีมบำรุง แต่ไม่ได้บำรุงพิเศษอะไรมากมาย อะไรก็ได้ที่ถูกกับผิวเรา บางคนใช้ผลิตภัณท์แรงมาก เราก็บอกจะใช้ทำไม มันเหมาะกับคนอายุ 50 อัพ เดี๋ยวพอเธอ 50 เธอก็ไม่มีอะไรใช้แล้ว บางคนบอกว่าต้องใช้แรง เพราะว่ามันเห็นผลเร็ว อันนี้ไม่จริง พอคุณใช้แรงๆ ในอนาคตคุณจะใช้อะไรล่ะ เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ที่ถูกกับผิว อะไรที่บางเบาก็ได้ มันไม่จำเป็นต้องโบกของแรงๆ เข้าไป มีเข้าคลินิกบ้าง มันได้ผ่อนคลายทั้งผิวทั้งตัว ร่างกายก็รู้สึกดี เราต้องพยายามดูแล มันเป็นความรับผิดชอบของเรา เราต้องใช้รูปร่างหน้าตาของเราทำงาน”

แต่ก็เป็นผู้หญิงที่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ อะไรที่ทำให้เราชอบ?

แคท – “ชอบมานานแล้ว เป็นคนชอบผิวแทนไม่ได้กลัวแดด เราเซฟอยู่แล้ว การเข้าชมรมอิมมอร์ทัล ข้อบังคับคือต้องมีฮาร์เลย์เป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องมีฮาร์เลย์ 1 คัน แต่ก็ใช้ในบางโอกาส ในชีวิตประจำวันก็ใช้สกูตเตอร์ใหญ่ 300 ซีซี สำหรับแคทไม่ได้เป็นคนที่ขี่เร็ว แต่มีใครมาจี้หรือว่าแกล้งเราขี่หนีเขาได้ ก็เคยมีรถแบบกวนๆ ขี่รถมาตามจี้ เราก็รู้สึกว่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย เราก็ต้องมีกำลังในเครื่องเพื่อจะหนีให้ทัน”

ปกติจะใช้มอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์?

แคท – “ถ้าไปกองถ่ายไกลๆ จะใช้รถยนต์ เพราะสัมภาระเยอะ มีเก้าอี้ มีขนม แต่ถ้าวันไหนมีแค่ 2-3 ฉาก ก็ไม่ต้องแบกเก้าอี้ไป ใกล้ๆ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะมันสะดวกสบาย แต่ไปทริปไกลๆ ไม่ค่อย เพราะติดถ่ายละคร แล้วมันก็เป็นความรับผิดชอบของเราตรงที่ว่าไปไกลๆ อันตรายมันก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ บางทีไม่ได้เกิดเพราะเรา อาจจะเกิดจากคนอื่นที่ขับรถบนท้องถนนแบบตามใจฉัน เกิดมาชนเรา มันไม่คุ้ม แล้วถ้าเกิดเราถ่ายละครอยู่ ถ้าเราแขนหักขาหักขึ้นมา เราก็ต้องรับผิดชอบ แล้วกองถ่ายจะเดือดร้อน เลยเลือกที่จะไม่เอาดีกว่า”

ขอถามเรื่องความรักบ้าง ไม่ค่อยเปิดเลย?

แคท – “ไม่อยากพูดถึง รู้สึกเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้ายังไม่พร้อมว่าคนนี้ใช่ เราขอไม่พูดถึงดีกว่า อยากมีบาลานซ์ในชีวิต มีพื้นที่ที่เป็นห้องของเราคนเดียว คือถ้าพร้อมแต่งเลยทีเดียวเดี๋ยวบอก (หัวเราะ) บางทีคบๆ แล้วไม่ใช่ ทำไมต้องให้ทุกคนรับรู้ มันไม่ใช่แค่เราสองคน แต่จะกลายเป็นเราสองคนและคนทั้งประเทศ ซึ่งมันไม่ใช่”

แต่ไม่คิดว่าจะโสดไปตลอดใช่ไหม?

แคท – “เรื่องการแต่งงานไม่ใช่สิ่งสำคัญ ขอได้เจอคนที่เป็นคู่ชีวิต ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ตอนนี้ไม่ได้หาแฟน อายุขนาดนี้เวลาก็ไม่เยอะแล้ว เราต้องการคนที่เป็นอีกครึ่งหนึ่งของเรา เป็นคนที่ซัพพอร์ตเรา ได้ทุกเรื่อง พร้อมให้กำลังใจ เป็นคนที่เราไว้ใจได้ เข้าใจเรา เข้าใจหน้าที่การงานของเรา เห็นความสำคัญของเราในชีวิตเขา อยู่กันแบบแก่ตายไปข้างหนึ่ง ซึ่งตอนนี้หายากด้วยสังคมสมัยนี้ บางทีมีความรู้สึกว่าสังคมไทยขาดตรงนี้ไปเยอะมาก การให้เกียรติซึ่งกันและกัน และความสำคัญที่ให้ต่อกัน ความมั่นคงของจิตใจมันน้อยลงเยอะมาก เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะเราพึ่งตัวเองมาตลอด”

 

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน