วันที่ 5 ธ.ค. ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ พระเอกหนุ่ม พร้อมด้วยลูกชายคนโต น้องภู-ภูดิศ สกิดใจ มาร่วมงาน Happy Father’s day : Big Hug บอกรักพ่อ จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ได้พาลูกมาร่วมทำกรรม ในงานวันพ่อปีนี้

จะมาทางเดียวกับคุณพ่อเลยไหม
“แต่วันนี้รู้สึกดีกับเขานะ ตอนแรกจะวิตกว่าจะงอแง ไม่เอาลงเวทีดีกว่า พอมาบังคับให้ขึ้นก็ร้องไห้ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ที่เราซักซ้อมกันมา เช่น ระบายสี เอาพวงมาลัยมอบให้พ่อ และการกอดพ่อ เขาทำได้หมดเลย เราให้หลายแต้มเลย แปดเต็มสิบไปเลยครับ วันนี้ต้องชมต้องจัดชุดใหญ่ให้เลย มีรางวัลซื้อของเล่นให้สักนิดนึง”

ตอนที่ลูกนำพวงมาลัยมาให้รู้สึกอย่างไรบ้าง
“จริงๆ เราก็รู้ว่าจะมีช็อตนี้ แต่ว่าทุกครั้งมันจะสะท้อนถึงตัวเองกับพ่อของเราด้วย และตัวเขาการที่มาทำแบบนี้ เด็กเขาก็จะค่อยๆ ซึมซับ พี่เชื่อว่าปีหน้าเขาจะซึ้งกว่านี้ ปีนี้เขาอาจจะไม่เข้าใจพวงมาลัยคืออะไร ทำไมต้องเอาพวงมาลัยมาให้ แต่มันเป็ตแอ็กชั่นที่เด็กเปิดใจยอมทำแล้ว ปีที่แล้วไม่ทำแบบนี้ ปีนี้ยอมทำแล้ว ปีหน้าอาจจะซึ้งมีน้ำตาไหลได้เดี๋ยวคอยดูปีหน้า เราค่อยๆ ปลูกฝัง คือเด็กต้องมีความเข้าใจและเขาต้องไว้ใจเราก่อน บางทีเราไปอัดข้อมูลว่าต้องรักพ่อ เพราะพ่อเป็นบุคคลอันประเสริฐ เด็กเขาไม่เข้าใจ ทำไมต้องมาปลูกฝังเขา เราพยายามเอากิจกรรมพวกนี้ มาปลูกฝังให้เด็ก หนึ่งอย่างน้อยเขากล้าแสดงออก สองเขาไม่กลัวคนไม่กลัวเวที สามเขาก็สุภาพไม่ได้ก้าวร้าวเกินไป บนเวทีเขาฮาสไดร์ตัวมาจากโซฟา พี่ใจเสียเลย พี่กลัวสไดร์ลงไปด้านล่างสู่ประธานของงานมากเลย(หัวเราะ)”

ประชาชนโหวตให้เราติดอันดับสาม คุณพ่อตัวอย่าง
“(หัวเราะ) จริงเหรอ พี่ขอไม่รับรางวัลนี้ได้มั้ย พี่ไม่ใช่คุณพ่อตัวอย่างอะไรหรอกครับ พี่เป็นพ่อธรรมดามากเลย และกิจกรรมของพี่ก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ได้น่าสนใจมาก แต่พยายามจะปลูกฝังความเป็นมนุษย์ ความธรรมดาให้ลูก ตอนนี้กิจกรรมที่ทำอยู่คือให้ลูกดูพี่ตูน บอดี้สแลม แล้วก็ไปวิ่งกับลูก ภูดิศเขามาทำงานวันนี้ เขาบอกจะนำตังค์ส่วนนึงไปให้พี่ตูนด้วย พี่บอกเขาไม่ได้วิ่งผ่านหน้าบ้านจะเอาไปให้ที่ไหน ภูดิศจะไปรอเขาที่จ.นนทบุรี แถวบ้านเก่า บอกเขาเลยไปแล้วลูก(หัวเราะ) เราก็พยายามจะปลูกฝังเขา ให้เขาวิ่งเพื่อคนอื่นบ้าง จะได้เรื่องสุขภาพความแข็งแรง และสุขภาพจิตด้วย”

มีโอกาสจะพาลูกไปเจอพี่ตูนไหม
“ถ้ามีโอกาสนะครับ น้องมีกระปุกออมสินของเขาเอง กระปุกออมสินอันนี้เขารักมากเลย เป็นกระปุกเล็กๆ มันเต็มแล้ว ตอนนี้เขามีกระปุกใหม่ล่ะ กระปุกเก่าเขาจะเอาไปให้พี่ตูน เดี๋ยวต้องรอโอกาสว่ายังไง เราอยู่ในวงการสิ่งที่กลัวที่สุดสำหรับการเลี้ยงลูก คือความก้าวร้าว ไปก้าวร้าวใส่คนอื่น เพราะเราก็ไม่ชอบเด็กก้าวร้าวป่ะ การที่เขาได้รับความสนใจเยอะๆ ก็กลัวทุกคนจะไปสปอยตามใจ อยากกินอะไรก็ต้องให้กิน ณ วันนึงพอไม่ได้อะไรอย่างที่ตัวเองต้องการ ก็แสดงความก้าวร้าวออกมา ตรงนี้พยายามควบคุมอยุ่ ถามว่ามันมีมั้ย มันเกิดขึ้นได้มั้ย มันเกิดขึ้นได้กับเด็กวัยนี้นะ เพราะเขามีความคิดเป็นของตัวเอง และเขามีความอยากได้ต้องได้ เราต้องควบคุมโดยการไม่ค่อยให้อะไร อยากได้ไม่ค่อยได้ ให้เขาอยู่กับความน้อยๆ บ้าง พี่เป็นคนไม่ค่อยซื้อเสื้อผ้าให้ลูก อย่างมาทำงานวันนี้ก็จะมีกติกาว่า ถ้ามาวันนี้นะ ภูดิศอยากได้ของเล่นอะไร ก็จะซื้อให้ 1 ชิ้น เพราะภูดิศน่ารัก แต่ก็จะมีคนให้เหมือนกันนะ อันไหนลูกทำดีก็ให้ของเล่นไป”

ล่าสุดควงภรรยาไปสวีตเที่ยวฮ่องกงมา
“ไปไหว้พระครับ เป็นช่วงว่างพอดี ปิดกล้องละคร แล้วรอเปิดกล้องเรื่องใหม่ เอ๋เขาก็อยากไปไหว้พระ แต่ละวัดจะมีจุดดีจุดเด่นแตกต่างกัน บางวัดก็ขอลูก ถามว่าอยากได้ลูกสาวหรือเปล่า ไม่ใช่ เอ๋เขาก็โพสต์ให้มันงงงวย ต้องเรียนว่าไม่ได้อยากมีคนที่สาม เพราะสองคนก็อ่วมแล้ว คิดว่าพอแล้วล่ะ สองคนเราจะดูแลลูกได้อย่างดีเลย แต่ถ้าสามคนป๋อจะต้องทำงานเยอะ เราเรียนรู้กับความพอดีดีกว่า ทำงานไม่ต้องเยอะมาก ได้วิ่งเล่นปั่นจักรยานกับลูกได้บ้าง ถ้าสามคนพี่ต้องทำงาน 7 วันก็จะไม่ได้อยู่กับลูก แล้วพี่ก็ไม่มีความสุขแน่ๆ เอ๋ก็ไม่อยากมี เขาก็รู้ว่ามันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมีค่าใช้จ่ายนะ ความอยากมันก็อยากได้ทุกคนแหละ แต่ในโลกความเป็นจริง เราต้องอยู่กับความเป็นจริงก่อน ว่าเอาแค่นี้พอแล้วมั้ย มันสะดวกกว่า ตอนนี้เราเริ่มสบายแล้ว เพราะลูกสองคนเริ่มโตกันหมดแล้ว อีกคนก็จะ 2 ขวบ กำลังจะเข้าโรงเรียนแล้ว เราก็เริ่มสบายใจ พี่เริ่มมาทำอะไรของตัวเอง เราเริ่มไปฮ่องกงกันได้ พี่ทุกข์กันมา 4-5 ปี ไม่ได้ไปไหนกันเลย เดี๋ยวนี้ปล่อยให้คุณยายเลี้ยง เราก็ไปเที่ยวกันสองคน”

สวีตกันมากไหม
“ก็โอเค ประมาณนึง เราได้มีเวลากอดกันมากขึ้น หมายถึงได้เดินกอดกันไป ได้สวีตกันมากขึ้น เราบอกเอ๋ ความรู้สึกดีๆ มันก็กลับมานะ ตอนเราเลี้ยงลูกมันอุดมไปด้วยความเครียด ความเหนื่อย ความลุ้น แต่ถามว่าเลี้ยงลูกดีมั้ย มันก็ดีไปอีกแบบนึง แต่ตอนนี้เราก็เริ่มเบาขึ้น”

วันเกิดที่ผ่านมาภรรยาให้ของขวัญอะไร
“ให้กล้องไลก้า พอดีบ่นว่าอยากเปลี่ยนกล้อง พี่ก็คิดว่า เราชั่งบ่นได้ถูกเวลาดีจริงๆ พอบ่นปุ๊ปเขาก็เลยได้ไอเดีย ถามว่าเขามีเซอร์ไพรส์มั้ย ปีนี้เขาเซอร์ไพรส์อีกแล้วนะ พี่คิดไว้อยู่แล้วว่าเซอร์ไพรส์แน่ๆ ดูเงียบๆ มันต้องมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราอีกแน่นอน พอกลับเข้าบ้านพี่รู้เลย เพราะมีรถมาจอดหน้าบ้านเต็มไปหมด มันมากันอีกแล้ว พี่เดินเข้าไปบ้านเงียบหมดเลยนะ รู้ว่าต้องไปแอบซ่อนกันในห้องใดห้องหนึ่ง พี่เดินขึ้นห้องนอนเข้าส้วมเลย ปล่อยให้เขารอ จุดเทียนจนละลายหมดดอก แล้วพี่ก็เปิดกล้องวงจรปิดดู โอ้โห มันยืนกันเต็มเลย สักพักเอ๋ก็โทรมาพี่อยู่ไหน ก็เข้าส้วมอยู่ เอ๋บอกให้ลงมาดูลูกเล่นเปียโน ลูกเล่นก็อัดคลิปไว้สิ แกล้งๆ สุดท้ายพอเดินเข้าไปเราก็บอก จุดเทียนนานมั้ย โป๊ะแตกครับ มันเชยแล้วมุขนี้ เอ๋ก็เลยบอกไม่มัน เซ็ง พี่จับได้ เราบอกก็เอ๋ทำมา 8 ปีแล้ว ปีหน้าก็ซ่อนอีกป่ะ เอ๋บอกปีหน้าเซอร์ไพรส์กว่าไม่มีอะไรเลย ซวยล่ะ เราก็เรื่อยๆ ไม่ได้หวานกันมากมาย ก็อยู่กันไปแบบธรรมดาๆ”

ลูกโตแล้วเป็นช่วงเติมความรักให้กันไหม
“มากครับ เพราะเวลาเรามีลูก เราไปโฟกัสที่ลูกเยอะมาก ถ้าใครมีลูกก็คงเข้าใจ ไหนจะเรื่องสุขภาพ ไหนจะเรื่องไปเรียนหนังสือ พอลูกเริ่มโตเราเริ่มปล่อยลูก เพราะเขาต้องไปอยู่ในโรงเรียน เราก็เริ่มมากินข้าวด้วยกันมากขึ้น ปรึกษาหารือกันมากขึ้น ชวนกันไปออกกำลังกายมั้ยมากขึ้น เมื่อวานก็ชวนเอ๋ไปวิ่ง เราจะได้ไปวิ่งสวีตกันสองคนน่ารักจะตาย เผื่อมีคนถ่ายคลิปแบบพี่ตูนกับพี่ก้อย แต่พี่ไม่ได้ดูซีรีส์เกาหลีกับเอ๋ด้วยนะ ตอนไปเกาหลีเขากรี๊ดมาก เจอโปสเตอร์พระเอก กงยู เอ๋เขาชอบมาก ก็ให้ผมเป็นคนถ่ายรูปคู่ให้ แล้วเขาก็แสดงความสวีตวี๊ดวิ้วกับกงยูต่อหน้าผม ผมก็ถ่ายไปงั้น ถ่ายให้มันย้อนแสงไปเรื่อยๆ เขาก็สวยนะ แต่ต้องไปปรับแอพให้วุ่นวายไปหมดเลย เราก็เข้าใจ บอกเลยพี่ยอมกงยูคนเดียว เพราะว่าหล่อจริงๆ ส่วนเรื่องความรักเราก็รักกันอยู่แล้ว แต่เหมือนได้ปัดฝุ่นความรักของเราให้มากขึ้น บางทีเราทะเลาะกันเรื่องลูก ก็ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ คุยกัน บางทีโกรธกัน ก็ไม่โกรธดีกว่าชวนไปกินข้าวกันเถอะ เมื่อก่อนเครียด เลี้ยงลูกนอนน้อยด้วย โอ้โห ฉุนเฉียว แต่เดี๋ยวนี้ดีมากเลยครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน