หนิง ปณิตา ฟังไลฟ์สด ถึงกับเอ๊ะ เผย สามีฟาดหนัก แนะผจก.ควรเป็นบัดดี้ที่ดี

หนิง ปณิตา ฟังไลฟ์สด – จากการสูญเสียนักแสดงมากฝีมือ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ จนเกิดประเด็นทางสังคมที่ยังคงเคลือบแคลงใจ กระทั่ง แซน วิศาพัช ได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงผ่านไอจี ซึ่ง หนิง ปณิตา ดาราสาวได้คอมเมนต์ยิงคำถามเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่สามี ‘จิน’ ออกมาโพสต์เดือดถึงบุคคลบนเรือทั้ง 5 คน

ล่าสุด หนิง ปณิตา ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ถึงประเด็นข่าวดังกล่าวว่า

จากเมื่อคืนที่ได้คอมเมนต์คำถามส่งไปให้คุณแซนตอบ สิ่งที่เขาตอบมามันเมกเซ้นส์? “เมื่อคืนมีเพื่อนดาราคนหนึ่งโทรมาหาหนิงบอกว่า อีป้าสงสารอีกระติกมัน มันก็โทรร้องไห้กับหนู นี่ลูกก็ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะไม่รู้ว่าจะให้ลูกไปโรงเรียนได้ยังไง คือหัวอกเรานะ ความเป็นแม่คน เราก็สะอึก แล้วมันก็ทำให้ตัวเราเองถอยกลับมาตั้งหลักว่า หรือว่าจริงๆแล้ว เขาเหล่านั้นต้องการพูดในมุมของเขา

แต่เขาเองอาจจะไม่ใช่คนในสื่อที่จะมาตอบคำถามหรือพูดได้ดีเหมือนกับพวกเราที่อยู่ในสื่ออยู่แล้ว เราก็พยายามคิดเป็นกลางๆนะ แต่พอได้ดูไลฟ์ทั้งสองไลฟ์ มันก็มีอะไรที่เอ๊ะ เอ๊ะขึ้นมา แล้วด้วยความที่เราต้องทำงานในฐานะพิธีกรกับข่าวทุกวัน มันก็เป็นการเอ๊ะขึ้นมา เหมือนกับที่หลายๆคนคอมเมนต์เข้ามาเอ๊ะ แค่นั้นเอง”

ปมตกเรือยังเคลือบแคลงใจ? “หนิงต้องบอกว่าครั้งแรก ทุกคนคิดว่าน้องจะตกลงไปทั้งๆ ที่น้องไปปัสสาวะจริงเหรอ พอข่าวมีอีกวันหนึ่งทางฝั่งคนที่อยู่บนเรือออกมาพูด เราก็คิดว่าเอ๊ะก็มีความเป็นไปได้ พอฟังข้อความอีกฝั่งหนึ่ง เอ๊ะไม่ใช่ เหมือนกับว่าคำตอบของการสัมภาษณ์แต่ละครั้งมันทำให้เราเอ๊ะ

ทั้งๆ ที่เราก็พยายามอยากจะเชื่อ แต่ก็ทำให้เราเอ๊ะ แต่มันจะเกิดอะไรขึ้น เราไม่สามารถไปรู้ได้ เพราะเรื่องทั้งหมด มันมีแค่คนบนเรือ 5 คนเท่านั้นที่เขาจะรู้ดีที่สุด อย่างที่บอกตอนนี้ก็อยู่ในกระบวนการของเจ้าหน้าที่ซึ่งเราก็รอ ล่าสุดข่าวสดก็ออกมาไลฟ์สดว่า ผบ.ตร. จะเรียกประชุมกันอีก เราก็รอ

แต่อีกส่วนหนึ่งคือส่วนที่รู้สึกว่ามันคือมนุษยธรรม มันคือความเป็นเพื่อน หนิงอาจจะผิดนะคะที่หนิงเอามาตรฐานตัวเอง ในความเป็นเพื่อนมาตัดสินว่าถ้าเหตุการณ์ เราอยู่ตรงนั้น เราอาจจะตกใจ สมมุติตกใจสักครึ่งชั่วโมงก็ได้ สติแตก

แต่หลังจากเรียกสติกลับคืนมาได้ หนิงคงจะใส่เสื้อชูชีพ หรือลงเรือไปหา อย่างน้อยที่สุดหนิงจะอยู่ตรงนั้นและไม่มีทางกลับแน่นอน ประเด็นมันยู่แค่ตรงนี้ และที่มันเป็นประเด็น สังคมเขาก็คิดแค่นี้แหละ”

เห็นสามีออกมาโพสต์ฉะเดือดในไอจี? “เห็นค่ะ เห็นตอนที่ดูไลฟ์อยู่ คุณจินเขาอยู่ข้างล่างบ้าน ก็แอบตกใจเบาๆ ก็ตามความรู้สึกเขาค่ะ ต้องบอกว่าหนิงกับจินเวลามีอะไรก็คุยกันทุกเรื่อง เขาก็เห็นเรารู้สึกไม่ดีกับน้องคนหนึ่ง แล้วเขาก็ไม่ได้รู้จักแตงโมเป็นการส่วนตัว

แต่ก็ผ่านการบอกเล่าจากเรา แล้วจินเขาเป็นคนที่ดูรายการเรา เวลาเราทำงาน มันเป็นช่วงที่จังหวะที่เขาไปรับลูก เขาจะอยู่บนรถ ได้ดูรายการที่เราทำงานทุกวัน เขาก็คงรู้สึกไปกับเรา และหนิงเชื่อว่าประชาชนคนไทยที่ตามข่าว ก็จะรู้สึกแบบนี้ไปกับเราเหมือนกัน

เขาก็คือคนๆ หนึ่ง คนนอกวงการที่ได้ตามข่าว เขาก็จะมีความรู้สึกของเขาแบบที่เขาเขียนออกไป ซึ่งหนิงเองก็ตกใจ หนิงยังไปแซวเขาเลยว่าผัวขาขึ้นมานอนเถอะค่ะ เมียกลัวแล้ว”

การเป็นผจก.ดาราที่ดี มันต้องดูแลดาราดีมากน้อยขนาดไหน? “สำคัญที่สุดในการที่ผจก.คนหนึ่งจะต้องดูแลดารา มันก็ต้องดูแลภาพลักษณ์ อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ ภาพลักษณ์ การรับคิวงาน การจัดงาน การหางานให้ ผู้จัดการดาราส่วนใหญ่ที่เขามีผู้จัดการเพราะเขาเป็นคนหางาน และต้องดีลงาน จะพรีเซนต์อย่างไร ภาพลักษณ์งานจะออกมายังไง

เป็นการคุยร่วมกัน จริงๆผจก.ดารามันก็เหมือนบัดดี้ คือมันต้องรู้ใจกัน เพราะคนๆหนึ่งจะมาจัดการชีวิตเรามันก็แปลกๆ มันก็เหมือนบัดดี้ที่ต้องช่วยเหลือกัน แล้วผจก.ดาราส่วนใหญ่ก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์การทำงาน ฉะนั้นมันก็ยิ่งต้องยิ่งดูแลกันให้ดาราคนนั้นมีงาน มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ชื่นชมของคน”

มีดาราท่านหนึ่งแนะนำกระติกบอกในแช็ตว่าอย่าให้สัมภาษณ์ว่าแตงโมไปฉี่? “กรณีอย่างนี้มุมมองของแต่ละคน ส่วนใหญ่คนทุกคนตัดสินใจอะไรหรือคิดอะไร ก็จะตัดสินใจจากบรรทัดฐานการเป็นตัวของตัวเรา ซึ่งก็ไม่สามารถพูดได้ว่าคนที่บอกเขาจะยังไง

แต่ถ้าถามจากหนิง หนิงเป็นคนตรงๆ เป็นคนชัดเจน หนิงก็จะบอกว่าให้บอกไปเลย แต่ถ้าอีกคนหนึ่งเป็นอีกแบบหนึ่ง ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง คนที่รู้ดีที่สุดก็คือคนที่อยู่ตรงนั้น”

ในวันที่ไปเที่ยวกับผจก. ดารา โดยไม่ได้เป็นวันทำงาน ควรจะต้องดูแลเอาใจใส่กันและกัน? “ถ้าตัดคำว่าผจก.ดาราออกไปนะ แล้วไปในโหมดของเพื่อน มันก็ไม่ต่างจากการเป็นผจก.หรอก เพราะมันก็เป็นบัดดี้กันอย่างที่บอก อย่างหนิงเอง สมมุติว่าถ้าเพื่อนมีการดื่ม เราก็จะบอกว่าอย่าขับรถเลย

เพื่อนอาจจะบอกว่าไม่ได้เอารถมา เราก็จะบอกไปว่า ไม่ได้นะ เพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร หรือแม้กระทั่งเขากลับถึงบ้านแล้ว เรายังต้องโทรเช็กเลย ต่อให้ไม่มีการดื่มหรืออะไรทั้งสิ้นเมื่อแยกย้ายกันเสร็จ ในกลุ่มไลน์ก็จะถามถึงบ้านกันแล้วใช่ไหม ปลอดภัยดีนะ โอเคนะ”

อยากให้คดีนี้ยุติธรรมสำหรับแตงโม? “เราก็รอเหมือนกับที่ทุกคนรอแหละ ต้องเชื่อใจ ตำรวจเขาก็คงทำงานกันเต็มที่อย่างดีที่สุด คือเราต้องแยก 2 ส่วน ส่วนของความรู้สึกมันคือส่วนของความรู้สึก ส่วนของความถูกต้องแล้วเหตุผลที่เรารอคำตอบมันอีกส่วนหนึ่งนะ บางทีสิ่งที่ถูกต้องมันอาจจะไม่ถูกใจ หรือสิ่งที่ถูกใจมันอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน