สลา คุณวุฒิ ยก เสี่ยแหบ วิทยา เป็นครูในวงการลูกทุ่ง

วันที่ 22 เม.ย. ที่วัดราชวรินทร์ ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน21 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร สถานที่ตั้งสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุลศพ เสี่ยแหบ วิทยา ศุภพรโอภาส นักจัดรายการวิทยุชื่อดัง ที่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ในวัย 72 ปี

ครูสลา คุณวุฒิ นักประพันธ์เพลงแนวลูกทุ่งอีสานและหมอลำชื่อดัง ได้เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพ และได้เปิดใจถึงการสูญเสีย คุณวิทยา ศุภพรโอภาส

“ผมเข้ามาวงการ แกเหมือนเป็นครูของพวกเราทุกคน ด้วยความที่พี่วิทยามีบทบาทสำคัญต่อวงการเพลงลูกทุ่งมาก คือการเกิดขึ้นของลูกทุ่ง FM มันทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเพลงลูกทุ่ง แล้วความมีน้ำใจของพี่วิทยา ก็เมตตาน้องๆ ทุกคน

แล้วผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น ที่ได้เจอพี่เขาครั้งแรกก็ตื่นเต้นมาก ถ้าทุกวันนี้ก็คือเรียกว่าเป็นไอดอล เราได้เจอแกตั้งแต่เป็นนักจัดรายการ เวทีไหนเราก็เห็นแก เราไม่คิดว่าอยู่มาวันหนึ่ง เราจะได้นั่งใกล้ๆ แล้วแกก็เดินมาตบบ่า

โดยส่วนตัวที่ผมรู้จักแก อย่างตอนที่เจอครั้งแรกที่ตึกลูกทุ่ง FM แกก็เดินมาตบบ่าว่า สลานายคือซุปตาร์นักแต่งนะ แกพูดคำนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ปลื้มกับคำนั้นหรอก แต่ผมดีใจที่คนที่มาตบบ่าผมคือ ‘วิทยา ศุภพรโอภาส’

ซึ่งเป็นคนที่เราชื่นชมมาก ในทุกมิติที่เห็น ที่เขาอยู่บนพื้นที่สื่อ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ท่านมาเมตตาแล้วก็ให้กำลังใจเรา แล้วก็มีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันเพลงลูกทุ่ง จนแข็งแรงมาจนวันนี้ ผมว่าพี่วิทยาน่าจะเป็นเรี่ยวแรงสำคัญคนหนึ่งนะ ที่ทำให้เพลงลูกทุ่งของเราเดินทางมาถึงวันนี้ได้

เพราะฉะนั้นความผูกพัน ก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ รวมไปถึงพี่วิทยากับแกรมมี่ ก็ถือว่าใกล้ชิดกัน แล้วล่าสุดก็คือหลังจากวันเวลาผ่านไป มาสู่โลกสังคมโซเชียล ก็สื่อสารกันทุกวัน

พี่วิทยาส่งไลน์หาผมทุกเช้า แล้วก็ส่งข้อมูลชิ้นงานของท่าน ไปให้ช่วยกันแชร์ ก็เป็นอยู่อย่างนี้ประมาณ 3-4 ปีหลัง แกเพิ่งหยุดส่งไลน์ให้ผม เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะมีบางช่วงห่างหายบ้าง 2-3 วัน แล้วก็ส่งมาใหม่

แล้วมารู้ข่าวอีกที ก็คือกลางดึกของคืนวันที่เสียครับ พี่โน้ต เชิญยิ้ม โทรศัพท์มาบอกว่าครูครับ พี่วิทยาไปแล้วนะ มันเหมือนเราได้รับข่าว ว่าญาติประสบอุบัติเหตุ เราไม่รู้สึกว่าท่านป่วยแล้วไปรักษาเลย ก็เลยยังช็อกอยู่ ไม่มีเรื่องอาการป่วยเลย

พี่วิทยาไม่เคยพูดเรื่องนี้ อย่างคลิปล่าสุดที่ผมได้ดู ก็คือวันที่แกพูดถึงพี่เอก สรพงศ์ ชาตรี แกก็ไว้อาลัย ผมก็เข้าไปดูในยูทูบแกก็แข็งแรงปกติ ห่างกันไม่นานเองนะ เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้คิด ว่าพี่วิทยาป่วย เขาไม่เคยแสดงอาการป่วยให้เห็น ยิ่งกับน้องๆ ยิ่งไม่มีทางเลย”

ถามว่าจะมีงานที่อยากจะสานต่อไหม? “ด้วยความที่พี่วิทยา มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องหลายคน ตัวผมเองก็ขอรอเป็นส่วนหนึ่งของทุกงาน ที่จะทำให้ เพราะเชื่อว่าผู้ใหญ่ในวงการ คงจะต้องพูดคุยกัน แล้วเราก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ

ที่สำคัญก็คือ ในนามของคนทำเพลงลูกทุ่งคนหนึ่ง ผมว่าผมจะไม่ลืมคนๆ นี้เลย โดยเส้นทางพี่วิทยาอาจจะไม่มาทางลูกทุ่งอย่างที่เราเห็นนะ แต่แกมีพลังอย่างยิ่ง ในการทำลายกำแพงบางอย่าง ทำให้ลูกทุ่งเข้ามาอยู่ใน FMได้”

“ถ้ามองในวันนี้ มันเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ นะ แต่ในวันนั้นมันยาก แต่พี่วิทยาก็เป็นกำลังสำคัญ ที่ทำให้เพลงลูกทุ่งเรา สามารถข้ามกำแพงมาอยู่ใน FM และต่อมาทุกอย่างก็ไหลเข้าหากัน เขาเป็นศูนย์รวมของวงการลูกทุ่ง เป็นกำลังหลักเลยที่ทำให้วงการเพลงบ้านเราพัฒนามาจนถึงวันนี้

เราจะเห็นว่าวันนี้เพลงมันไม่มีกำแพงแล้ว คนร้องสตริงก็ร้องลูกทุ่งได้ คนร้องหมอลำก็ร้องสตริงได้ มันอยู่ด้วยกันได้หมดเลย แต่กว่ามันจะเป็นแบบนี้ได้ มันเคยมีกำแพง แต่คนที่ทำลายกำแพงได้คือ พี่วิทยา ศุภพรโอภาส”

ได้คุยอะไรกับภรรยาและลูกสาวของพี่วิทยาบ้างหรือยัง? “แกก็เล่าถึงอาการป่วย แล้วก็เล่าถึงว่าพี่วิทยาเคยจะชวนไปเยี่ยมห้องอัด แล้วก็ให้กำลังใจเขาไป อยากบอกพี่วิทยา ว่าน้องๆ ทุกคน (เสียงสั่น) ผมว่าเราสำนึก

พี่เขามีบุญคุณกับวงการเพลงลูกทุ่ง มาจากไปอย่างกะทันหันเราก็คิดถึง แล้วผมก็อยากจะบอกทุกคนว่า ชื่อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างเพลงลูกทุ่งหรือสังคมเพลงเรา ให้แข็งแรงร่วมกันได้ เราคิดถึงและเราจะสานต่อเจตนารมณ์ของพี่เขาครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน