พลอย เฌอมาลย์ ยันสัมพันธ์รัก คลอดีน แฮปปี้! แค่ไม่โชว์ออกสื่อ เผยเตรียมคัมแบ๊กหน้าจอหลังพักงาน 2 ปี กราบขอผู้จัดไม่รับบทที่ใช้ความรุนแรง
วันที่ 16 ส.ค.65 เบรกงานหน้าจอไปเกือบ 2 ปี สำหรับดาราสาวชื่อดัง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในงาน “Celebrating 20 Years of Empowering The Real You” ที่ แอบโซลูต บูทีก ฟิตเนส สตูดิโอ ชั้น5 RSU Tower สุขุมวิท 31 ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ถึงการกลับมาลุยงานอีกครั้งหลังไปท่องเที่ยวพักผ่อนมาอย่างเต็มที่ ยันไม่ได้ออกจากวงการ พร้อมเจตนารมณ์ไม่ขอรับบทที่ใช้ความรุนแรง
นอกจากนี้ สาวพลอย ยังอัพเดตสถานะความรักกับดาราสาวรุ่นน้อง คลอดีน อทิตยา เครก หลังโดนโยงข่าวอักษรย่อ คู่รักสายชิคเลิกเงียบ พร้อมเปิดใจว่ายังชอบผู้ชายเหมือนเดิม เพียงแค่ตอนนี้มองความรักเป็นเรื่องของตัวบุคคลมากกว่า
ก่อนหน้าโน้นที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะงดรับละครสักพักหนึ่ง กลายเป็นว่าหายหน้าไปเลยเกือบ 2 ปี?
“เบรกจริงๆ ค่ะ เบรกมาตั้งแต่ปลายปี 2020 พอเสร็จละครเรื่องนั้นไปก็เบรกมาเกือบ 2 ปีแล้วเนอะ ตอนนี้ก็กำลังมีผลงานแต่ว่าพลอยกำลังรอเปิดกล้อง อยากพูดแต่ว่ายังพูดไม่ได้เพราะเซ็นสัญญาไว้ หนึ่งชิ้นจะเป็นงานภาพยนตร์ สิ้นปีน่าจะเริ่มพูดได้ คือพลอยเพิ่งไปแคสต์มาและเพิ่งได้ ที่นี้เขาก็กำลังจะแคสต์นักแสดงอื่นๆ ที่เหลือ ส่วนอีกชิ้นเป็นซีรีส์อีกหนึ่ง แต่ซีรีส์เดี๋ยวจะเปิดกล้องเร็วๆ นี้ซึ่งจะเป็นการไปรับเชิญก่อน นอกจากนี้ก็ยังมีงานอื่นๆ เข้ามาเป็นงานหนังนอกที่ให้เราเข้าไปแคสต์เช่นกัน ซึ่งการไปแคสต์ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ เขาก็ต้องดูความเหมาะสมด้วยแต่พลอยก็รู้สึกตื่นเต้น อย่างที่บอกว่าเราจบบางอย่างเพื่อที่จะได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ บ้างในชีวิต พลอยเองก็อยู่กับวงการละครมาตั้งแต่อายุ 12 เรารู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่เราทำมานาน เราต้องการหาอะไรต้องให้โอกาสตัวเองได้ทำสิ่งใหม่ๆ บ้าง แล้วพอรู้สึกว่าชีวิตการเล่นละครของตัวเองพักหลังมันวนลูป พลอยฟังเสียงผู้ชมทางบ้านเขารู้สึกว่าเล่นบทแบบนี้อีกแล้วเหรอ พลอยก็เล่นได้อยู่แล้วนี่ หรือว่าถ้าเล่นบทที่มันเบากว่านั้นก็กลายเป็นว่าง่ายไปสำหรับพลอยอีก พลอยก็เลยคิดว่างั้นก็พอเหอะตรงนี้ หาอะไรใหม่ๆ ทำดีกว่า”
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่างานภาพยนตร์และซีรีส์ที่จะได้เห็นกันจะต้องเป็นความแปลกใหม่ใช่ไหม?
“ถามว่าแปลกใหม่ไหมก็แปลกใหม่นิดหนึ่ง แต่ถามว่าเหมาะสมกับเราไหมมันก็เหมาะสม มันเป็นอะไรที่มันถูกตีความไปอีกความคิดหนึ่ง พลอยรู้สึกว่ามันน่าสนใจดีแต่ก็ต้องรอลุ้นว่าในสิ่งที่เขาพูดว่าเขาจะทำเนี่ยเขาจะทำได้อย่างที่เขาพูดหรือเปล่า อันนี้เราก็ต้องลุ้นอีกทีเพราะเราเป็นลูกจ้าง”
ในช่วง 2 ปีที่ได้พักไปรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นไหม?
“มีความสุขมาก(ยิ้ม) ละครเรื่องล่าสุดก็คือพลอยไปตบกันอยู่บนเมรุวัดอ่ะ ณ วันนั้นที่ถ่ายละครเป็นซีนที่พลอยต้องถูกกระชากหัวขึ้นไปขอขมาศพโดนตบโดนด่าแล้วก็ร้องไห้ พลอยก็รู้สึกว่าทำไมชีวิตพลอยต้องเล่นอะไรแบบนี้ แล้วพลอยไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องของความรุนแรง รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องแรงขนาดนี้ในการเล่นละคร พลอยเหนื่อยพลอยก็เลยพัก พอพักก็หาความสุขกับตัวเองก่อนเพราะว่ารู้สึกว่าหมดไฟแล้ว เลยไปท่องเที่ยว ไปดำน้ำ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำคือการพักผ่อนขี้เกียจบ้างนอนอ้วนอยู่บ้านบ้าง แล้วก็มาออกกำลังกาย เหงาไหมก็มีเหงาก็มีคิดถึง แต่พลอยแค่รู้สึกว่า ณ จุดหนึ่งมองตัวเองก็เห็นว่าเมื่อก่อนนี้เราโน่นนี่นั่นทุกวันไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน แต่พอมันได้มีความว่างเปล่าเข้ามาในชีวิตบ้างพลอยรู้สึกว่ามันก็เป็นรางวัลชีวิตอย่างหนึ่ง ซึ่งพลอยก็มีความสุดในที่พลอยอยู่ค่ะ”
ที่บอกว่ากลับมาครั้งนี้ก็จะต้องมีการไปแคสต์งานต่างๆ หลายคนอาจจะตกใจว่าระดับ พลอย เฌอมาลย์ ต้องแคสต์ด้วยเหรอ?
“อุ๊ย! เป็นใครก็แคสต์ค่ะ ฮอลลีวู้ดเขาก็ต้องแคสต์กันหมดเลย เพียงแต่ว่าคนไทยอาจจะยังไม่ชินความที่เห็นเราเป็นนักแสดงมา 20 กว่าปีแล้วยังต้องแคสต์เหรอ มันต้องแคสต์ เขาก็ต้องดูเพราะใช่ว่าเราเก่งแล้วเราจะไปเหมาะสมกับบทนั้นหรือเปล่า เขาก็ต้องดูหน้างานอีกที”
ตอนไปแคสต์มั่นใจแค่ไหน?
“ตื่นเต้น ไม่มั่นเลย เหงื่อแตก มือสั่นจำบทไม่ได้ด้วย(หัวเราะ) เราอาจจะผ่านงานภาพยนตร์มาเยอะแต่ก็มีหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ ฉะนั้นในการแคสต์เราก็เลยรู้สึกว่ามันตื่นเต้น คือเหมือนจะมั่นใจแต่แอบไม่มั่นใจ จะตีความยังไง จะได้ไหม ตรงนั้นมันเหมือนกับเป็นการชาเล้นจ์เราตลอดเวลา”
ตอนนี้คือพร้อมกลับมารับงานเต็มที่?
“ตอนนี้พลอยพร้อมเลยเพราะว่าเราพักมานานแล้ว พลอยเติมพลังบวกมาเยอะแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองพร้อมที่จะกลับมาลุยอีกครั้งหนึ่ง แล้วที่บอกว่าจะออกจากวงการอ่ะ ออกจริงหรือว่าสร้างกระแสข่าว ไม่…อย่างแรกเลยพลอยไม่ได้ออกจากวงการค่ะ แค่ถอยออกมานิดหนึ่ง ช่องแบบ 3 5 7 9 ละครเนี่ยพอก่อนค่ะ แต่ว่าทีวีซีรีส์หรือภาพยนตร์ยังรับอยู่ แล้วก็พลอยไม่อยากเล่นละครที่ใช้ความรุนแรงหรือทำร้ายร่างกายกันที่มันไม่ให้อะไรกับคนดู แต่กลับไปส่งเสริมให้คนฮึกเหิมอีก ซึ่งพลอยไม่อยากทำอะไรแบบนั้นแล้ว พลอยขอเลยกราบล่ะ แต่มันก็ยังมีบทอย่างนั้นติดต่อมา เอาเป็นว่าให้เล่นเป็นอะไรก็ได้ เล่นเป็นคนใช้ก็ได้แต่ไม่ขอความรุนแรง อย่างละครซีรีส์เกาหลีสังเกตดีๆ บทนางร้ายอ่ะเขาแย่งสามีกลั่นแกล้งกันแทบตาย แต่เห็นไหมว่าเขาไม่มีแตะเนื้อต้องตัวกันเลย เมียน้อยเมียหลวงไม่มีมาตบตีกัน มีแต่เชือดเฉือนกันด้วยวาจาและสมอง พลอยอยากเล่นอะไรแบบนั้นมากกว่า มันดูขนลุกดี พลอยอยากให้วงการละครไทยเดินหน้าละครไทยเดินหน้า ซึ่งมันควรจะเดินหน้าได้แล้ว แล้วพลอยก็เบื่อละครรีเมก เราอยากได้คอนเทนต์อะไรใหม่ๆ”
อัพเดตหัวใจกันหน่อย?
“สบายดีค่ะ ยังดีอยู่ ยังได้อยู่ ยังไม่เลิก(หัวเราะ) แต่ว่าก็ตามนิสัยคือไม่ค่อยโพสต์ ไม่ค่อยโชว์เพราะว่าเราชอบอยู่แบบเงียบๆ ไม่ชอบให้คนมาโฟกัสมากมันรู้สึกว่าเขินและทำตัวไม่ถูก แล้วตัวน้องเองเขาก็ยิ่งเป็นคนอินโทรเวิร์ต(Introvert-กลุ่มคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง) เก็บตัวแล้วเขาไม่ชอบให้ใครมาจับจ้องเพราะเขาจะรู้สึกเกร็ง ซึ่งอันนี้เราพอเข้าใจได้เพราะว่าเวลาเราอยู่กันแค่สองคนเราก็มีความสุข แต่เวลาใครมาพูดถึงเยอะๆ เอาไปลงทวิตเตอร์หรือเอาไปอะไรอย่างเนี้ยมันก็จะรู้สึกว่าความรักมันไม่ได้อยู่กันสองคนแล้ว กลายเป็นเรื่องสนุกของคนอื่นฉะนั้นก็เอาให้มันพอดีแต่ถามว่าปิดไหมก็ไม่ได้ปิด เปิดมากไหมก็ไม่ได้ทำให้มันแบบเว่อร์เกิน หรือว่าต้องมานั่งลงคลิป ลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แฮปปี้วาเลนไทน์ เพราะรู้สึกว่าความรักมันเป็นเรื่องของเรา แล้วก็ถ้าใครนานๆ ทีถามพลอยก็จะบอกว่ายังโอเคอยู่ นานๆ ทีโพสต์รูปให้เขาเห็นบ้าง แต่ว่าก็ไม่อยากให้มันเยอะเกิน ในโซเชียลมีเดียพลอยใช้ชีวิตเพื่อความสุขของตัวเองไม่ใช่เพื่อความสุขของคนดูหรือคนอื่น เพราะฉะนั้นมันก็เลยไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องโพสต์ภาพหรือว่าทำอะไรเพื่อให้คนอื่นประทับใจ หรือทำในสิ่งที่คนในโซเชียลมีเดียต้องการ นี่คือสิ่งที่พลอยเป็นอยู่ก็เลยอาจจะไม่ได้ให้เห็นภาพ แต่ถ้าวันนี้สัมภาษณ์ก็เดี๋ยวโพสต์แล้วกันนิดหนึ่ง(หัวเราะ)”
การเงียบของคู่เรากลายเป็นว่าโดนโยงไปถึงข่าวอักษรย่อ คู่รักสาวชิคเลิกเงียบ ที่มีออกมาก่อนหน้านี้?
“ความรักมันก็ดีบ้างไม่ดีบ้างนั่นแหละ ตีกันบ้าง แล้วเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งคู่บางทีก็อยากจะแบบเอานิ้วจกตา มีความแง้วๆ มีความเป็นเสือใส่กันบ้าง แต่เวลาทะเลาะกันเราไม่ได้เอามาออกโซเชียลไง อยู่ก็อยู่กันสองคน ตีก็ตีกันเอง คืนดีก็คืนดีกันเองก็จบ”
ส่วนใหญ่เวลาทะเลาะกันตัวเราต้องเป็นคนยอมน้องไหม?
“ ด้วยความที่เราเป็นผู้ใหญ่กว่าเราต้องยอมแต่ตอนหลังพลอยไม่ยอมแล้ว เพราะพลอยรู้สึกว่าการที่เรามีความรักกับใครก็แล้วแต่ ความรักมันควรจะเท่าเทียมกัน ควรจะแฟร์ซึ่งกันและกัน ซึ่งการเป็นผู้ใหญ่กว่าพลอยอาจจะมีประสบการณ์มากกว่า แล้วเราก็จะเสียสละให้เขาเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็ก แต่ตอนนี้พลอยคิดว่ามันไม่มีการเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่แล้วล่ะ ต้องเป็นความยุติธรรมซึ่งกันและกัน คือพลอยก็ต้องสอนเขาไป”
น้องเขางงไหมว่าทำไมเมื่อก่อนยอมได้ แล้วตอนนี้ถึงยอมไม่ได้?
“เขาก็มีงงนิดหน่อย แต่ว่าเราก็อธิบายให้เขาฟัง ด้วยความที่เขาเด็กกว่าประสบการณ์ไม่เยอะ แต่เขาก็เข้าใจ พลอยว่าสนุกดีนะเหมือนมีเพื่อนและคนรู้ใจ บางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่หรือเปล่า มีนะตอนที่ไปเมืองนอกด้วยกันคนถามว่าลูกสาวเหรอ พลอยก็ยิ้มแล้วบอก…ใช่ค่ะ(หัวเราะ) อย่างที่เมืองนอกคุณแม่มีลูกสาวโตอย่างนี้เป็นเรื่องปกติ แล้วเราก็ไปไหนกับเขา คนคนที่เห็นก็คิดว่าจะน้องสาวก็ไม่น่าจะใช่เพราะดูอายุห่างกัน โอ๊ย! ลูกสาวเหรอ เราก็หันไปยิ้ม เหมือนโดนไม้จิ้มก้นอ่ะ”
นอยด์ไหมพอคนถามแบบนั้น?
“ไม่นอยด์เพราะมันเป็นเรื่องจริง เราห่างกันเยอะ มองเป็นเรื่องตลกไปมากกว่า จะให้เราปฏิเสธละบอกว่าเรายังเด็กอยู่เหรอมันก็ไม่ใช่ไง เราดูเหมือนผู้ปกครองเขาได้ก็คือเรื่องจริงอ่ะ”
ความรักครั้งนี้พลอยดูสดใสมาก ส่วนตัวคาดหวังบ้างไหม?
“จะคาดหวังอะไรอ่ะ คาดแล้วไม่เคยได้สักอย่าง(หัวเราะ) ไม่คาดเลยค่ะ ถามว่ามีความสุขไหม พลอยมีความสุขมากเพราะว่ามันลงตัว มันสบาย แล้วก็การที่ไม่คาดหวังนี่แหละมันเลยทำให้มีความสุข เพราะชีวิตพลอยไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว แล้วพลอยก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปคาดหวังกับใครด้วย คาดหวังกับตัวเองยังคาดหวังไม่ได้ เอาอะไรกับตัวเองยังไม่ได้เลย แล้วก็รู้สึกว่าถ้าความรักมันดีก็ให้มันดีไปเรื่อยๆ เดินทางกันไปอาจจะมีขรุขระบ้างตีกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าไม่มีใครรู้อนาคต”
“แล้วถ้าจะถามว่ายังชอบผู้ชายอยู่ไหม ชอบ(หัวเราะ) (ไม่กลัวน้องหึงเหรอ?) เขาก็ชอบผู้ชาย กลายเป็นว่าทั้งคู่หึงไปหึงมางงกันเอง เราทั้งคู่โอเพ่นเรื่องความรักอยู่แล้ว มันไม่ใช่ว่าพลอยไม่ชอบผู้ชายแล้วนะ พลอยยังมองผู้ชายเป็นแบบอะไรที่น่ารัก แต่ว่าตอนนี้มันคือเรื่องของบุคคลแล้วจริงๆ เพราะว่าเราก็ยังไม่คิดเลยว่าเราจะคบผู้หญิง แล้วถ้ามีคนถามว่าอ้าว! แล้วพลอยเป็นอะไร พลอยก็ยังเป็นพลอยเหมือนที่ทุกคนเห็นอยู่ ไม่ได้เดินมาแบบเจ้าฮะอะไรอย่างนั้น กระโปรงก็ยังใส่ ยังใส่บรา ยังใส่ชุดว่ายน้ำสวยๆ ทุกวันนี้สองคนแย่งเสื้อผ้ากันใส่นะคะ อย่างที่บอกว่ามันเป็นเรื่องของบุคคลมากกว่า แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเราไม่ชอบผู้ชายแล้ว ไม่ค่ะ เราก็ยังชอบผู้ชายและยังมองผู้ชายเหมือนเดิม แล้วก็คิดว่าเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม”
เบื่อไหมกับข่าวอักษรย่อ?
“บอกว่าพูดชื่อจริงมาเลยเหอะจะได้จบๆ มีคนเลิกกันเยอะแยะ (ใครบ้างคะ?) ไม่รู้…ลั่นเฉย(หัวเราะ)”