จั๊กจั่น เสียบแทน พิ้งกี้ ใน เรือนชฎานาง กดดันไม่ได้เล่นละครนาน

ในที่สุดต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวนักแสดงนำเรื่อง เรือนชฎานาง จาก พิ้งกี้ สาวิกา ที่กำลังถูกดำเนินดคี ล่าสุด ต่าย นัฐฐพนท์ ลียะวณิช ผู้จัดละครเรื่อง เรือนชฎานาง จัดพิธีบวงสรวง พร้อมเปิดตัว จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข ที่มารับบทแทนพิ้งกี้ หลังจบพิธี ทั้งคู่ได้เปิดใจว่า


ต่าย : “จริงๆ ก็อย่างที่หลายๆ คนทราบกันว่าเรื่อง เรือนชฎานาง ได้มีการหยุดถ่ายทำไปช่วงหนึ่ง และมีการปรับเปลี่ยนนักแสดงนะครับ วันนี้ก็มีจั๊กจั่นที่จะมารับบท ชฎาภร สำหรับเรื่อง เรือนชฎานาง ก็ทำให้ละครสามารถถ่ายทำต่อไปได้ (ถ่ายทำไปเยอะแล้วหรือยัง?) ประมาณ 20 คิวครับ”

ในส่วนของจั๊กจั่นที่มาแทนพิ้งกี้คือเริ่มใหม่หมดเลยไหม?
ต่าย : “เริ่มใหม่บางส่วนครับ เพราะมันจะมีบางอันที่ถ่ายทำไปแล้ว พอเรามีปรับเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ อะไรที่เป็นคาแร็กเตอร์ของ ชฎาภร อาจจะต้องถ่ายทำใหม่ครับ และมีการปรับเปลี่ยนเส้นความรักด้วย ก็ถ่ายทำใหม่สำหรับเส้นรักครับ แต่ซีนที่ไม่ได้เกี่ยวพันกับชฎาภรเยอะ มีเส้นแฟมิลี่อยู่ อย่างพี่อ๋อม พี่อ่ำ หรืออย่างแอริณ”

พอมีข่าวออกมาเรามีแผนสองมั้ยว่าจะต้องทำยังไงต่อ?
ต่าย : “ตอนแรกเลยก็อยากคุยกับน้อง เพราะเราก็ต้องสื่อสารกับนักแสดงก่อนเป็นหลัก แต่เราก็ไม่ได้ติดต่อ อาจจะด้วยน้องที่อาจจะไม่สะดวกที่จะสามารถคุยกับเราได้ และทางผมเองก็พยายามที่อยากจะเข้าไปเจอกับน้องข้างใน ซึ่งก็มีนักแสดงท่านอื่นอยากจะเข้าไปด้วย อยากจะพูดคุยก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะยังไงต่อ แต่พอด้วยการที่อาจจะไม่ได้คุยเลยก็ทำให้เราต้องเดินหน้าต่อ ประชุมร่วมกับช่อง สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าควรจะเปลี่ยนนักแสดง ก็ต้องขอบคุณจั๊กจั่นมากที่มารับบท ชฎาภร จริงๆ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ก็เคยติดต่อไปตั้งแต่แรกด้วย ติดต่อจั๊กจั่นไปตอนรอบแรก แต่ตอนนั้นน้องก็ติดภารกิจ”

จั๊กจั่น : “ไปผ่าหัวเข่ามาตอนนั้นยังไม่หายดีค่ะ ก็รู้สึกว่ายังลงบันไดแบบก้าวชิดอยู่เลย ขายังใช้งานได้ไม่เต็มที่ จะมาเป็นผีแล้วหลอกคนก็เกรงใจกอง(หัวเราะ) พอมาตอนนี้ก็รู้สึกว่าเราพร้อมแล้ว สุขภาพโอเคแล้ว จังหวะได้พอดี”

พอมารับบทตอนนี้เรากดดันมั้ย?
จั๊กจั่น : “ถ้าถามว่ากดดันมั้ย จั่นไม่ได้โฟกัสตรงนั้น ส่วนใหญ่เวลาจะกดดันก็จะกดดันละครรีเมกที่เคยมีชื่อเสียงในอดีตมาก่อน อันนี้ก็พยายามจะไม่กดดัน ถ้าจะกดดันก็จะกดดันที่ตัวเองห่างละครไปเกือบ 2 ปี เวลากลับมาเล่นก็รู้สึกว่าเรายังจะทำได้มั้ย จะทำได้ดีมั้ย และนักแสดงบางคนเราก็ไม่เคยร่วมงานด้วยเลย แต่เราก็อยากร่วมงานด้วย จะตื่นเต้นตรงนี้มากกว่า”

ตอนที่ติดต่อไปครั้งแรกเราพร้อมเล่นมั้ย?
จั๊กจั่น : “ตอนที่ติดต่อครั้งแรกจั่นรู้เลยว่าสุขภาพจั่นยังไม่โอเค เลยปฎิเสธพี่ต่ายไป แต่พี่ต่ายก็ติดต่อมาเรื่อยๆ นะ เราก็รู้สึกว่าพี่เขาก็อยากร่วมงานกับเราจริงๆ และความที่เริ่มอยากทำงานด้วย เพราะว่าตอนนี้เราพร้อมแล้ว ก็ดีใจที่นึกถึงเรา ช่อง 8 นึกถึงเรา”








Advertisement

ต่าย : “ก่อนหน้านี้เคยคุยกันหลายเรื่องครับ ก็จะมีเรื่องที่เหมาะกับน้องจริงๆ แต่ช่วงนั้นก็จะมีเรื่องชีวิตความรักที่ยังไม่สามารถรับงานได้ ชีวิตครอบครัว ตอนนี้พอส่งบทเรื่องนี้ไป แต่จริงๆ จั่นก็แพลนจะเดินทางไปต่างประเทศนะครับ 2 เดือน ก็ยกเลิกตั๋ว ยกเลิกทุกอย่าง”

จั๊กจั่น : “เลื่อนไปก่อน อยากเล่นด้วยค่ะ และจั่นก็ไม่เคยเล่นกับพี่กบ (ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) เลย ไม่เคยเล่นกับพี่อ๋อม (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) ก็อยากร่วมงานด้วย กับ พี่นิว (วงศกร ปรมัตถากร) ก็เหมือนกัน ไม่เคยเจอเลย เจอแค่ผ่านๆ ตามงาน ก็รู้สึกว่านักแสดงเรื่องนี้หลายท่านเลย”

ต้องมาเล่นเป็นพี่น้องกัน รู้สึกยังไงบ้าง?
จั๊กจั่น : “เรารู้สึกว่าเราเป็นน้องใหม่เพิ่งเข้าวงการ เพราะว่าเรามากองแล้วทุกคนเขารู้จักกันหมดแล้ว เราก็เลยมาเนียนๆ กับเขา ก็สนุกสนานดี กองนี้คนเยอะดีค่ะ (ยิ้ม)”

ทำไมถึงต้องเปลี่ยนบท?
ต่าย : “จริงๆ ต้องแจ้งว่าตอนก่อนที่จะตัดสินใจมาถ่ายใหม่ก็มีการเอาที่ถ่ายทำทั้งหมดมาเรียงและร้อยตามกัน ตอนแรกก็ดูโซลูชั่นอยู่ เราก็เห็นว่ามีบางส่วนที่น่าจะขยี้เพิ่มนะ สองคือในบทเดิมรวมตัวกันเยอะมากครับ ทุกซีนอยู่กัน 17 คน ซึ่งมันมีความยากต่อการถ่ายเยอะมาก อย่างฉากโต๊ะอาหาร รับอินเสิร์ททุกคน คิวนักแสดงทุกคน อย่างพี่อ๋อม พี่กบ พี่พิม พี่ฝน พี่อ่ำคือคิวทองหมดทุกคน ยากมาก ก็เลยต้องมีการปรับบทให้การรวมตัวน้อยลงเฉพาะซีนที่สำคัญเท่านั้น เป็นซีนการตาย งานศพ ที่แฟมิลี่ต้องเข้ามา”

20 คิวที่ถ่ายไปแล้วประมาณกี่เปอร์เซ็นต์?
ต่าย : “30% ครับ”

แต่ตอนที่มีข่าวพิ้งกี้เรายังไม่มีแพลนจะเปลี่ยนตัวใช่ไหม?
ต่าย : “จริงๆ เราอยากรู้ก่อนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางน้องมันจะยังไง และอยากจะให้ทางเรารอมั้ย มีอะไรที่เราซัพพอร์ตได้บ้างหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นครับ”

แจ้งนักแสดงก่อนมั้ยว่าจะมีการเปลี่ยนตัว?
ต่าย : “ต้องแจ้งว่าก่อนหน้านี้อาจจะไม่ได้แจ้งนักแสดงเลยครับ เพิ่งจะมาแจ้งช่วง 2-3 อาทิตย์นี้ เพราะประชุมกับช่องประมาณ 2 เดือนครับ มีการเอาของเดิมมาตัดกัน ประชุมกันดูหาแนวทาง และในกรณีที่เปลี่ยนคนน่าจะเป็นใคร และมีการปรับบทเพื่อจะให้เข้ากับคาแร็กเตอร์ใหม่ด้วย และคุยเรื่องโครงเรื่องว่าถ่ายต่อเดือนหน้า ก็ค่อยๆ แจ้งทีละคนได้ (ยิ้ม) คือตอนนี้ต้องแจ้งว่าจากเส้นเรื่อง นักแสดงแต่ละคนได้รับผลกระทบไม่เหมือนกัน สมมติเส้นหลักต้องบอกว่าใหม่ 100% แต่สมมติพี่อ๋อมหรือแอริณก็ยังมีบางอันที่ยังใช้ได้”

แต่จั๊กจั่นไม่ต้องเวิร์กช็อปใช่ไหม?
ต่าย : “ไม่ต้องแล้วครับ แต่เดี๋ยวของจั่นอาจจะต้องมีไปเรียนรำ แต่รอให้เข้าที่เรื่องบท เรื่องคาแร็กเตอร์ให้เรียบร้อยก่อน”

เรื่องโลเคชั่นยากมาก?
ต่าย : “ต้องบอกว่าของเดิมที่ถ่าย อย่างบ้านหลักเราห่างกันประมาณ 4-5 โล ห้องรับแขกที่หนึ่ง ห้องทานข้าวอีกที่หนึ่ง ห้องนอนอีกที่หนึ่ง 5 โลครับ คือพากันไป ทีนี้พอเกิดเรื่องก็อาจจะเหลือประมาณ 2 โลครับ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็พยายามรวบทุกอย่างให้มันเกิดขึ้นใน 1 กิโลครับ พยายามเดินทางในการทำงานให้เร็วขึ้น”

คาดว่าจะปิดกล้องเมื่อไหร่?
ต่าย : “มีนาคมครับ”
จั๊กจั่น : “จั่นก็เต็มที่ค่ะ ก็มีพี่กบ ทรงสิทธิ์ แซวว่าจั่นอย่าเพิ่งท้องนะ พี่ไม่อยากถ่ายอีกรอบ (หัวเราะ)”

งบบานปลายไหม เพราะต้องมาถ่ายใหม่?
ต่าย : “ช่วงนี้รักษาสุขภาพ งดข้าวเย็นไปครับ จริงๆ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติครับที่จะต้องกระทบ และอาจจะมีกระทบนักแสดงในบางส่วนด้วย เนื่องจากเดิมเรามีบทประมาณ 27 ep. ตอนนี้ก็ด้วยระยะเวลาที่อยากจะทำงานให้เร็วขึ้น และนโยบายช่องด้วย ก็มีการปรับให้เหลือประมาณ 24 ep. ถามว่ากระทบมั้ย ก็กระทบอยู่แล้วครับ”

ตอนนี้ถ่ายกันแน่นเลยใช่มั้ย?
ต่าย : “ตอนนี้รอบทอยู่ครับ วันนี้ก็จะประชุมบท เพราะจะมีการดึงอันเดิมมาใช้อยู่บ้าง เพราะถ้าใหม่หมดเลยอาจจะทำงานไม่ทัน ก็จะมีการใช้อันเดิมมาเพื่อปะติดปะต่อและเล่าเรียงเพื่อเดินหน้าอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะต้องแจ้งว่ามีต่างประเทศที่เขาซื้อไปแล้วด้วย จริงๆ ตอนแรกเหมือนต้องออนแอร์ในต่างประเทศประมาณเดือนธันวาคม ซึ่งตอนนี้ก็ขอมีการผลัดเปลี่ยนเป็นเดือนมีนาคม ก็อาจจะต้องรีบเร่งในการจัดส่ง”

ความน่ากลัวของผีจะเป็นยังไง?
ต่าย : “คือจริงๆ เรื่องนี้ผีเป็นส่วนหนึ่ง แต่จะเป็นเรื่องของการตามหาว่าจริงๆ แล้วชฎาภรตายเพราะอะไร และใครเป็นคนฆ่า และในขณะตามหามันไม่ได้เจอแต่เรื่องของฆาตกรว่าใครเป็นคนฆ่า แต่มันเจอความเลวของคนในบ้าน ที่ทุกคนที่เราเคยเห็นว่าเป็นอีกอย่าง พอไปรื้อหรือไปสืบค้นก็ดันไปเจอว่าแต่ละคนมันมีอีกมิติหนึ่งที่เขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น อันนี้คือความสนุก ที่เห็นว่านักแสดงเยอะแต่ละคนคือจะมีเส้นของตัวเอง แต่จะต้องติดตามไปกับหนูนาที่เขาจะต้องเป็นคนไปตามและไปเปิดเรื่องราวแต่ละอัน และกับนิวที่เขาจะเป็นเหมือนผู้สืบสวนสอบสวนและไปเจอเรื่องต่างๆ ครับ ส่วนจั๊กจั่นก็จะเป็นผู้นำทาง ต้องสิงร่าง ต้องมาบอกว่าไปตามเรื่องนี้สิ ทางนี้ก็จะเป็นผู้จัดการเยอะ”

จั๊กจั่น : “ละครเรื่องนี้สนุกแน่นอนค่ะ เป็นละครที่จั่นตัดสินใจกลับมารับในรอบ 2 ปี รับรองไม่ผิดหวังค่ะ (ยิ้ม)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน