ไม่ลือแล้ว! ‘แบมแบม’ ย้ำมาแน่ GOT7 คัมแบ๊กครบ 7 คน แจงโพสต์เดือดดราม่างานราชมังฯ ล่าสุด แฟนๆ มองเป็นกระบอกเสียง
วันที่ 15 ม.ค.67 ที่ เพลนารี ห้อง 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือ แบมแบม GOT7 ไอดอลเกาหลีชื่อดังเชื้อสายไทย เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว “Redmi Note 13 Series” ในฐานะแอมบาสเดอร์คนแรกของ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังจบงาน แบมแบม เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยสัมภาษณ์ถึงการมาร่วมงานกับเสียวหมี่ พร้อมเปรยข่าวดีให้อากาเซ่ใจฟู หลังมีข่าวลือ GOT7 จะคัมแบ๊กในปี 2025 ก่อนเคลียร์ดราม่างานล่าสุดที่ราชมังคลาฯ จนตัวเองต้องโพสต์ลง X (ทวิตเตอร์) เผยดีใจที่ได้เป็นกระบอกเสียงให้กับแฟนๆ แม้ว่าจะแอบหวั่นใจอยู่เหมือนกัน แต่ที่สุดแล้วผู้บริโภคสำคัญที่สุด
ถามถึงการร่วมงานกับเสียวหมี่ในฐานะแอมบาสเดอร์คนแรก?
“ตื่นเต้นมากครับ เพราะว่าเป็นแบรนด์ใหญ่ ซึ่งรอบนี้ไม่ใช่ที่ประเทศไทยอย่างเดียว แต่ว่าเป็นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หมดเลย อีกอย่างการนำเสนอแบรนด์ของเขามันเข้ากับตัวผมด้วย รวมถึงหลังจากที่ได้พูดคุยกันมาหลายครั้ง รู้สึกว่าการทำงานหลายๆ น่าจะราบรื่นดี สำหรับจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Redmi Note 13 Series น่าจะเป็นเรื่องกล้องที่ความละเอียดสูงสุดถึง 200MP กับดีไซน์ใหม่ๆ ที่น่าจะตอบโจทย์ให้กับหลายๆ คน”
ช่วงหลังนี้มาทำงานที่เมืองไทยบ่อย?
“ใช่ครับ เอาจริงๆ ก็ดีใจที่ได้มาทำงานที่บ้านเกิดตัวเอง แต่ว่ามันก็มีหลายงานที่กองอยู่ ผมอยากที่จะเคลียร์แต่ละงานให้เสร็จก่อนที่จะไปทัวร์ที่อเมริกา เพราะว่าหลังจากที่ไปอเมริกาจนถึงประมาณกลางปีก็อาจจะไม่ได้มีช่วงกลับไทยเยอะเท่าไหร่ ก่อนที่จะไปทัวร์ก็น่าจะได้เจอกันอีกครั้งหนึ่งสำหรับที่เมืองไทย แต่ก็มาแป๊บเดียว แล้วก็จะไม่ได้เจอกันอีกประมาณ 3-4 เดือน”
เตรียมตัวหนักเลยไหมสำหรับการไปทัวร์ที่อเมริกาครั้งนี้?
“เอาจริงๆ ก็พร้อมอยู่แล้วครับ ผมเองก็ทัวร์ฝั่งเอเชียมาสักพักนึงแล้ว แต่อาจจะต้องมีเตรียมเซอร์ไพรส์อะไรสองสามอย่างไปโชว์ที่โน่นด้วย ถ้าถามถึงความแตกต่างระหว่างเอเชียกับอเมริกา ผมว่ามันอยู่ที่คนดูมากกว่า คนดูฝั่งอเมริกาจะมีความคึกหน่อย ผมก็อาจจะต้องเตรียมโชว์อีกแบบหนึ่งไปให้พวกเขา”
แล้วจะมีโอกาสกลับมาปิดเวิลด์ทัวร์ที่ประเทศไทยอีกรอบไหม?
“เอิ่ม…(หัวเราะ) เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยหลุดแล้ว ถามว่ามีหวังมั้ยก็อาจจะครับ แต่ก็ต้องดูว่าหลายๆ คนเรียกร้องมากแค่ไหน ยิ่งเรียกร้องเยอะการที่มันจะเป็นจริงก็มีเปอร์เซ็นต์เยอะขึ้น”
ถ้าจะกลับมาปิดเวิลด์ทัวร์คือปิดที่ราชมังฯ เลยไหม?
“อืม…ราชมังฯ เหรอ ผมว่ามันก็ต้องดูสถานการณ์ของการทัวร์ที่อเมริกาก่อนด้วยว่าเป็นยังไง”
แต่เราเคยทวีตว่าอีกครั้งต้องราชมังฯ แล้ว?
“อีกครั้งหนึ่งที่ผมบอกหมายถึงเวิลด์ทัวร์รอบหน้า ซึ่งถ้าจะมาปิดอังกอร์ก็ยังนับว่าเป็นเวิลด์ทัวร์รอบนี้อยู่ ถามว่าราชมังฯ มีโอกาสมั้ย ถ้าให้พูดจริงๆ ก็คือมี แต่สำหรับผมมันก็ 2 ใจ ใจหนึ่งคือผมก็อยากเก็บไว้ให้มันเป็นของ Got7 อีกใจหนึ่งก็ไม่รู้ว่าด้วยตัวผมคนเดียวมันจะออกมาเป็นยังไง แล้วถ้าสมมติมีโอกาสได้ทำจริงๆ ผมไม่อยากทำแนวนอน ผมอยากทำคอนเสิร์ตแนวตั้งเพราะไม่ค่อยมีคนทำเท่าไหร่ ซึ่งผมมองว่ามันสามารถเล่นกับพื้นที่ได้มากขึ้น”
เวิลด์ทัวร์เดี่ยวที่ผ่านมาในเมืองไทยทำมาตรฐานไว้สูงมาก ครั้งต่อไปคนก็จะยิ่งคาดหวัง ส่วนตัวกดดันไหม?
“เอาจริงๆ ไม่ค่อยกดดัน ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ออกมาโชว์ให้ทุกคนได้เห็น ผมเชื่อว่าน่าจะยังทำโชว์ที่ดีกว่านี้ได้อีกในอนาคต”
หลายคนรอคอยการรวมตัวของ Got7 หลังมีข่าวหรือว่าจะคัมแบ๊กปี 2025?
“ผมว่าไม่ใช่ข่าวลือแล้วนะครับ เพราะว่าหัวหน้าทีมผม (เจบีย์) เขาบอกไปแล้ว ซึ่งผมมองว่าตอนนั้นมันน่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้วครับที่จะกลับมาคัมแบ๊กพร้อมกัน 7 คนอีกรอบนึง เพราะตอนนั้น 2 คนที่เขาอยู่ในกรมก็จะออกมาด้วย เรามีเวลาหนึ่งปีที่จะสามารถเตรียมตัวและเคลียร์งานเดี่ยวของแต่ละคนให้มาเจอกันครบ 7 คนได้ จริงๆ เรื่องนี้คุยกันตั้งแต่เขาเข้ากรมแล้วครับ เพราะว่าเราก็ต้องเตรียมเวลาไว้นิดนึง”
เจอแน่มาแน่ปี 2025?
“คงโอเคมั้งครับ(หัวเราะ) (กลับมาก็ต้องรัชมังคลาเท่านั้น?) ผมก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้น มันต้องจองล่วงหน้าเป็นปีเลยเหรอครับ อันนีัไม่รู้แล้วยังไง(หัวเราะ)”
ถามถึงประสบการณ์ในงานล่าสุดที่ราชมังฯ ดูเหมือนเราไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่?
“(หัวเราะ)ผมไม่รู้จะพูดยังไงครับ เอิ่ม…ถามว่าเสียใจมั้ยที่ราชมังฯ ครั้งแรกของผมเป็นอย่างนั้น ยอมรับว่าแอบเสียดายและเสียใจ แต่ผมมองว่างานมันคนละแบบกันเนอะ แล้วก็คนละคนกันด้วยที่จัด”
หลายคนยกแบมแบมเป็นไอดอลในการที่จะกล้าออกมาพูดอะไรแบบนี้?
“ผมก็รู้สึกดีที่หลายคนยอมรับกับการที่ผมกล้าออกมาพูด เพื่อที่จะนำวงการบันเทิงไปในจุดที่สูงขึ้น และคนดูแฮปปี้มากขึ้น แต่อีกใจหนึ่งผมก็รู้สึกกังวล มันจะดูเหมือนผมเป็นคนบ่นเยอะ หลายๆ ครั้งที่ผมโพสต์อะไรไป ถามว่าผมเสียวมั้ยก็เสียวครับ เพราะว่าเขาก็บริษัทใหญ่ๆ กันทั้งนั้น แต่ว่าผมเองก็ต้องมั่นใจกับคนดูเอาไว้ก่อน เพราะสุดท้ายแล้วบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้ถ้าเกิดเขาไม่มีคนดูเขาก็ไม่มีอะไรเลย ฉะนั้นเราต้องเอาผู้บริโภคเป็นหลักก่อน”
รู้สึกยังไงที่แฟนๆ มองว่าเราเป็นกระบอกเสียงให้พวกเขา?
“จริงๆ ก็ดีใจครับ เดี๋ยวนี้โลกเรามันก็เปลี่ยนไป คนดูเดี๋ยวนี้เขาดูเป็นครับ ทั้งเรื่องโปรดักชั่น เรื่องเสียง รวมไปถึงเสื้อผ้าหน้าผม ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราขึ้นมาเต้นและร้องแล้วเขาก็พอใจแล้ว มันไม่ใช่ยุคนั้นแล้วเนอะ ผมก็เลยต้องตามโลกหน่อย อีกอย่างหนึ่งผมคิดว่าสิ่งที่ควรจะต้องทำก็คือไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตของเมืองนอกหรือเมืองไทยหรือเคป๊อปก็ตาม ถ้าทำทั้งทีมันก็ต้องทำให้ดีกว่าคนอื่น ผมเลยพยายามที่จะทำทุกอย่างให้มันออกมาดีที่สุด”
