เปิดใจหลวงพี่ วิ่งไล่จับโจร เผยต้องการปกป้องทรัพย์สิน ไม่หวั่นอันตราย ถูกก่อเหตุมาแล้วถึง 2 ครั้ง แจ้งความแล้วแต่ยังจับโจรที่ก่อเหตุไม่ได้

จากกรณีโลกออนไลน์ แชร์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะที่พระสงฆ์รูปหนึ่ง พยายามดักจับและวิ่งไล่ตามหัวขโมยที่เข้ามาก่อเหตุขโมยเงินบริจาคถึงภายในวัด โดยหัวขโมยรายดังกล่าว พยายามหาทางวิ่งหลบหนีจนหนีรอดไปได้ในที่สุด ซึ่งคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้แชร์ต่อกันและเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดวันที่ 14 เม.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุคือ วัดหนองสองห้องผาสุกการาม ในพื้นที่หมู่5 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และได้พูดคุยกับ พระสนั่น มหาวิริโย พระลูกวัดหนองสองห้อง ซึ่งเป็นพระซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปวิ่งไล่จับหัวขโมยรายการกล่าว

พระสนั่น เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 13 เม.ย. 64 โดยในเวลาดังกล่าว กำลังจำวัดอยู่ที่กุฏิ ใต้พระมหามงคลเจดีย์ จากนั้นได้ยินเสียงดัง จากห้องที่มีการตั้งตู้บริจาคภายในพระมหามงคลเจดีย์ จึงรีบออกมาดู ก่อนจะพบว่าประตู ห้องที่เก็บตู้บริจาคถูกงัด เมื่อเข้าไปดูภายในห้องก็พบชายคนหนึ่งกำลังพยายามงัดตู้บริจาค เพื่อจะเอาเงินที่อยู่ด้านใน จึงตะโกนถาม ว่าเป็นใครและเข้ามาทำอะไร

ชายคนดังกล่าวจึงพยายามที่จะวิ่งหลบหนีโดยที่มีพระสนั่นวิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และพยายามที่จะจับตัวหัวขโมยรายดังกล่าวส่งตำรวจ แต่สุดท้ายหัวขโมยรายดังกล่าว ก็สามารถวิ่งหลบหนีออกไปจากวัดได้สำเร็จ แต่ก็ไม่สามารถ นำเอาทรัพย์สินและเงินภายในตู้บริจาคไปได้แต่อย่างใด ในช่วงเกิดเหตุตัดสินใจวิ่งไล่ตามหัวขโมยรายดังกล่าวไปนั้น เป็นเพราะตนต้องการที่จะปกป้องทรัพย์สินของวัด ที่ญาติโยมตั้งใจบริจาคทำบุญให้ปลอดภัย ถึงไม่ได้นึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเอง

วัดหนองสองห้องแห่งนี้ เคยถูกหัวขโมยเข้ามาก่อเหตุมาแล้วถึง 2 ครั้งภายในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ หัวขโมย 2 คนได้เข้ามายกตู้บริจาคออกไปจากวัด ส่วนครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 หัวขโมยได้เข้ามางัดขโมยเงินในตู้สแตนเลสที่เป็นตู้บริจาคของทางวัดไป กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ก็ได้เกิดเหตุการณ์เหมือนในคลิปดังกล่าว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ทางวัดก็ได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสำรอง อำเภอท่าม่วง เรียบร้อยแล้ว

ด้านผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสำรอง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางเข้าไปเก็บลายนิ้วมือในสถานที่เกิดเหตุพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายที่ก่อเหตุเอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ กับคนร้ายที่ก่อเหตุใน 2 ครั้งแรก เป็นคนร้ายคนละกลุ่มกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพอมีข้อมูลของบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ในระหว่างการ ติดตามตัวและสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน