แตงโม นิดา รับบทแม่ค้า หาเงินค่าเทอมโรงเรียนในฝันของลูก

ดาราสาว แตงโม นิดา รับบทแม่ค้าชั่วคราว ขอบคุณแฟนหนุ่มเป็นธุระให้ ไม่สนโดนมองตกอับ ลั่นเป้าหมายหลักทำเพื่ออนาคตลูก

ผันตัวมาเป็นแม่ค้าชั่วคราว สำหรับดาราสาวชื่อดัง แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังเจ้าตัวขนเสื้อผ้าและรองเท้าชุดใหญ่มาตั้งร้านขายกลางตลาดนัด โดยมีแฟนหนุ่มนอกวงการเป็นธุระจัดการเรื่องที่ทางให้

ล่าสุด สาวแตงโม ได้เล่าให้กับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ฟังถึงที่มาของการขนเสื้อผ้าออกมาขาย พร้อมตอบคำถาม…ตกอับหรือเปล่า?!

อยู่ดีๆ มาเป็นแม่ค้าได้ยังไง? “ตอนนี้ผันตัวมาเป็นแม่ค้า เพราะว่าเสื้อผ้าที่บ้านตั้งแต่สมัยสาวๆ คือโมเป็นคนบ้าสมบัติมาก ไม่ยอมทิ้ง ไม่ยอมให้คนอื่น มีครั้งหนึ่งที่เราเคยไปขายของที่ตลาดนัดดารา ประสบความสำเร็จมาก โมได้เงินกลับมาเยอะมาก”

“พอทีนี้โมมีเสื้อผ้าที่มันคาอยู่ในตู้แล้วใส่ไม่ได้แล้ว ต้องเข้าใจว่าบางครั้งนักแสดงออกงานครั้งหนึ่งก็ใส่ได้แค่ครั้งเดียว โมก็เลยรู้สึกว่าเอามาแชริ่งดีกว่า ได้ให้คนอื่นได้ช่วยใส่ต่อ ดีกว่าทิ้งไปเลย”

คัดมากี่ชุดได้? “เป็นร้อยๆ เลยค่ะ อันนี้คือแค่ส่วนเดียว เพราะว่ามันใส่รถมาไม่หมดแล้ว (เสื้อผ้าดาราแบบนี้ราคาแพงไหม?) ไม่แพงค่ะ มีตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย ส่วนใหญ่จะอยู่หลักสิบกับหลักร้อยค่ะ หลักพันจะเป็นชุดราตรีที่ค่อนข้างรายละเอียดเยอะที่มีปักอะไรแบบนั้น”

มาตั้งร้านขายที่ทำเลนี้ได้ยังไง? “คุณหนวด(เบิร์ด แฟนหนุ่ม) เป็นคนจัดแจงเป็นคนประสานงานให้เราว่าตรงนี้มีแบบนี้ๆ ค่าที่เท่านี้ๆ มาขายได้นะ ต้องขอบคุณเขาด้วย เขาเห็นว่าโมอยู่บ้าน แล้วพอโควิดค่อนข้างระบาด สเก็ตบอร์ดก็ไม่ค่อยได้เล่นเพราะเราค่อนข้างกลัวที่จะออกไปข้างนอก ถ้าอย่างนั้นก็หาอย่างอื่นทำ เพราะของพวกนี้ทิ้งไว้มันก็จะเสียหายไปเปล่าๆ”

“แล้วโมก็มีความรู้สึกว่าในยุคสมัยนี้ถ้าเราอยู่เฉยๆ แล้วมันไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีกับใคร โมคิดว่าออกมาทำแบบนี้เพื่อให้ลูกได้เห็นดีกว่า ว่าวันนึงถ้าลูกเจอเหตุการณ์สภาพบ้านเมืองแบบนี้ ลูกจะทำอะไรได้บ้าง สอนก็ไม่ได้ดีเท่ากับการทำให้เห็น”

“จริงๆ อยากเชิญชวนให้หลายๆ คนออกมาค้าขาย หรือว่าสมบัติที่มีในบ้านอย่างมาก ทยอยเอาออกมาจะรู้สึกว่าบ้านเราโล่งมากเลย ถึงจะเป็นเงินไม่เยอะแต่เวลาร่วมกันมามันได้กระเป๋าหลายใบเลยนะคะ(หัวเราะ) แต่สำหรับโมแล้วหลักๆ คือโมหาค่าเทอมให้ลูก โรงเรียนที่โมฝันจะให้ลูกเข้าค่าเรียนค่อนข้างสูงเหมือนกัน หลักๆ แล้วก็ทำเพื่อลูกค่ะ”

ฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง? “ฟีดแบ็กดีมากขายได้เฉยเลยขนาดวันแรกอยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดี บางคนมาซื้อแต่บางอันเรารู้สึกว่ามันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเราก็แจก แม่ค้าใจดีค่ะ (ลูกค้าจำได้ไหม?) เราปิดแมสก์คนจะไม่ค่อยเห็น แต่พอเวลาเราพูดคนก็จะเริ่มคุ้นสำเนียง เขาก็จะอุ๊ย! คุณแตงโมเหรอคะ โมตั้งร้านขายอยู่ที่ เดอะ สตรีท รัชดา พระราม9 แวะมาเจอกันได้ โมอยู่จนสองสามทุ่มค่ะ”

ขนเสื้อผ้ามาขายแบบนี้กลัวคนมองว่าตกอับแล้วหรือเปล่า? “โมอยากจะอธิบายคำว่าตกอับ คนที่ตกอับคือเป็นคนที่ไม่สามารถทำงาน หรือว่าเป็นคนที่ไม่มีรับประทานอะไรแบบนี้ แต่ว่าคนที่สามารถใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส แล้วก็สามารถเอาทรัพย์สินมาเปลี่ยนเป็นเงินทองเพื่อดำรงอยู่ต่อไป อันนี้โมมองว่าเป็นเรื่องของความขยันมากกว่าค่ะ”

แสดงว่าไม่กลัวสายตาถ้าใครจะมองอย่างนั้น? “สมัยนี้นักแสดงทุกคนก็ขายของกันหมดเลย แต่พอมาเป็นโม โมกลับโดนข่าวว่าตกอับทำไมไม่รู้อ่ะค่ะ ยืนยันว่าไม่ตกอับ ยังมีพรีเซ็นเตอร์ ยังมีงานปกติ ยังมีถ่ายรายการเข้ามาอยู่ปกติเหมือนเดิมค่ะ แต่ว่าเราอยากเก็บหอมรอมริบเพื่อค่าเทอมลูกมันแพงจริงๆ ค่ะ”

ออกมาขายของในช่วงที่สถานการณ์โควิดยังไม่โอเคเท่าไหร่ ต้องระมัดระวังยังไงบ้าง? “มาตรการของเรายังไงก็ต้องมีอยู่แล้ว เพราะว่าคนที่เดินตลาดเขาค่อนข้างเดินใกล้กัน แต่เราจัดร้านให้กว้างหน่อย เผื่อเวลาเลือกซื้อจะได้รักษาระยะห่าง เจลแอลกอฮอล์ ทิชชูเปียก น้ำเปล่าก็ต้องมี เผื่อเหตุฉุกเฉินอะไรเราไม่รู้ ความปลอดภัยต้องมีสูงเพราะเราไม่รู้จริงๆ เนื่องจากตลาดมันเป็นที่ชุกชุม”

“ฝากสำหรับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โมอยากให้พยายามค้นหาสิ่งที่ตัวเองยังพอทำได้ ตอนแรกโมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะมาตั้งร้านขาย โมอาจจะไลฟ์ขายของ แต่โมรู้สึกว่าอยากพบเจอกับลูกค้าโดยตรงก็เลยมาทำแบบนี้ สำหรับบางคนอาจจะคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดีก็ลองค้นหาตัวเองว่าถนัดอะไร”

“แล้วลองเริ่มจากไม่เกี่ยงเงินน้อยไม่คอยวาสนา ท่องไว้ คือเราอยากเลือกงานให้มากนักเพราะว่างานสมัยนี้มันมีให้เลือกน้อย พยายามอดทนทำในสิ่งที่คุณไม่ค่อยอยากจะทำสักเท่าไหร่ไปสักพักจนกว่าประเทศจะดีขึ้นนะคะ”