สหรัฐฯ พอใจ ภารกิจค้นหาอัฐิ “นักบินอเมริกัน” ถูกไทยยิงตก ที่ดอยฝรั่งลำปาง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 11 พ.ย. จะครบรอบ 80 ปี
วันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่ ดอยฝรั่ง ม่อนพระยาแช่ บ้านทรายใต้ ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต ทีมงานสำนักงานค้นหาเชลยศึกและผู้สูญหายของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (Defense POW/MIA Accounting Command: DPAA) ยังคงเดินหน้าค้นหาอัฐิของ ร.ท. Henry Francis Minco นักบินสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตจากการสู้รบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังถูกฝ่ายอักษะ (ไทย) โดย ร.ท.คำรบ เปล่งขำ ยิงเครื่องบินพี 51 มัสแตง ของอเมริกา ตกจากน่านฟ้า จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2487 ซึ่งในปีนี้จะครบรอบ 80 ปี สำหรับการค้นหายังคงเจอเศษชิ้นส่วนโลหะ ชิ้นเล็กชิ้นน้อย ที่จะนำส่งพิสูจน์ต่อไป เพื่อหาข้อสรุปในการสูญหายของนักบินสหรัฐที่ จ.ลำปางพล.อ.อ.ศักดิ์พินิต พร้อมเทพ อดีตเจ้ากรมสารบรรณทหารอากาศ อดีตผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ที่ร่วมภารกิจค้นหา เปิดเผยว่า จุดที่เครื่องบินตกอยู่ในประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศอยู่แล้ว ว่าเคยมีการรบทางอากาศเหนือท้องฟ้าลำปาง ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา เป็นความสนใจส่วนตัวและพยายามค้นคว้าหาข้อมูลมาเรื่อยๆ
พล.อ.อ.ศักดิ์พินิต กล่าวต่อว่า ตนเริ่มอ่านมาตั้งแต่ปี 2508 และกว่าจะค้นพบว่านักบินชื่ออะไร คือปี พ.ศ. 2543 ใช้เวลาถึง 35 ปี นอกจากนี้ได้พบหลักฐานในเอกสารของทั้งไทยและอเมริกา ต่อมาได้ติดต่อกับ แดน แจ็คสัน จากกองทัพอากาศสหรัฐ ที่สนใจในเรื่องเดียวกัน รวมทั้ง ริชาร์ด แฮกเคนสัน ซึ่งเกษียณแล้วและพำนักอยู่ที่เชียงใหม่พล.อ.อ.ศักดิ์พินิต กล่าวอีกว่า ตนดูแลในเรื่องข้อมูล แต่แดนและริชาร์ดลงพื้นที่เริ่มค้นหาจนมาพบจุดเครื่องบินตก ก่อนมีการสำรวจเพิ่มเติมจาก DPAA นำมาสู่การขุดค้นและค้นหากันอยู่หลายครั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเจอชิ้นส่วนร่างกายของเขา เพื่อนำกลับบ้านเกิดเมืองนอน หลังเหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 80 ปี
“กว่าจะรู้จุดตกนั้น ริชาร์ดลงมาสอบถามคนเฒ่าคนแก่ คนมีประสบการณ์ และชาวบ้านหลายคนบอกว่า ระหว่างที่เดินป่าได้พบเศษชิ้นส่วนโลหะ ซึ่งน่าจะเป็นของเครื่องบิน จนเป็นจุดเริ่มต้นที่เรากำหนดวงได้แคบลง จนสุดท้ายมีการสำรวจโดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐจนได้รับการยืนยันว่าเป็นจุดที่เครื่องบินตกที่นี่ เลยเริ่มขุดค้นกันที่นี่” อดีตเจ้ากรมสารบรรณทหารอากาศ กล่าวอีกว่า จริงๆ โอกาสที่จะเจอนั้นยากมาก เนื่องจากผ่านมา 80 ปีแล้ว ในตอนที่สงครามสงบลง สหรัฐฯ ก็มีทีมเข้ามาค้นหานักบินของเขาที่สูญหายในประเทศไทยแล้ว แต่ไม่สามารถเข้ามาถึงตรงจุดนี้ได้ ซึ่งทำให้เกือบจะปิดกรณีนี้ไปแล้วว่าไม่สามารถค้นหาได้เนื่องจากภูมิประเทศยากลำบาก คือตอน 80 ปีที่แล้ว เส้นทางจะยากลำบากกว่านี้มาก
อดีตเจ้ากรมสารบรรณทหารอากาศ กล่าวต่อว่า กระทั่งฝ่ายเราได้ร่วมมือกันจนค้นจุดตกตรงนี้พบ เป็นการจุดประกายว่านักบินคนนี้มีโอกาสได้กลับบ้านเสียที หลังจากรอมา 80 ปี ส่วนที่ผ่านมามีการขุดพบอะไรนั้น ตรงนี้ต้องให้ทีมสหรัฐฯ เป็นคนตอบ แต่เท่าที่ทราบคือมีข่าวดีอยู่เรื่อยๆด้าน ร.อ.โจนาธาน ฮูทนิก หัวหน้าทีม (Capt. Jonathan Hootnick, team leader) ให้สัมภาษณ์ว่า เป้าหมายของภารกิจคือตามหาชาวอเมริกันที่สูญหายในช่วงสงครามเท่าที่จะทำได้ ซึ่งได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากเจ้าหน้าที่ของไทย ในการขุดตรงนี้ถ้าเราเจออะไร ต้องส่งกลับไปที่ห้องแล็บให้พิสูจน์ว่าคือชิ้นส่วนที่ต้องการตามหาหรือไม่
ร.อ.โจนาธาน กล่าวต่อว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่าชิ้นส่วนที่พบคือส่วนไหน จนกว่าจะส่งให้ห้องแล็บที่ฮาวายพิสูจน์ว่าคือชิ้นส่วนอะไร จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งที่กำลังตามหาอยู่ ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าชิ้นส่วนนั้นคืออะไร จนกว่าจะได้ผลตรวจร.อ.โจนาธาน กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะพูดได้ตอนนี้คือมีความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับนักบินที่สูญหาย แต่จะยืนยันได้ก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ออกมาก่อนว่าใช่สิ่งนั้นจริงๆ ณ ตอนนี้ที่ทำงานพอใจ ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากไทย และมีความคืบหน้าอย่างมาก ในการค้นหานั้นอาจจะใช้เวลาหลายปี เพราะการขุดค้นยาก และไม่สามารถบอกได้ว่าจะสิ้นสุดตอนไหน
ต่อมานายโรเบิร์ต โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พร้อมนางลิสา บูเจนนาส กงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา ประจำจังหวัดเชียงใหม่ นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการค้นหานายโรเบิร์ต กล่าวหลังลงตรวจพื้นที่ว่า ครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญมากที่ใกล้บรรลุเป้าหมายในการหาข้อสรุปให้กับครอบครัวผู้สูญเสียบุคลลอันเป็นที่รักในสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนความคืบหน้าในการค้นหานั้นเป็นได้ด้วยดี สำหรับชิ้นส่วนกระดูกของนักบินถ้ายังหาไม่เจอ ต้องดูความจำเป็นในส่วนของหลักฐาน ถ้าจำเป็นก็ต้องค้นหาต่อไปเรื่อยๆ
Advertisement
ขณะที่เจ้าหน้าที่ DPAA เปิดเผยว่าว่า ในด้านรายละเอียดว่าขุดค้นเจอหลักฐานอะไรบ้างยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ยังอยู่ในกระบวนการที่เราส่งไปให้ห้องแล็บที่ฮาวายเพื่อทำการวิเคราะห์ แต่ถ้าถามในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จและคืบหน้าไปได้ด้วยดี พอใจกับการขุดค้นของเรามาก
ทั้งนี้ ในระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพา (พ.ศ. 2484-2488) มีการวางกำลังทหารญี่ปุ่นในประเทศไทย กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรจึงส่งหน่วยทางอากาศเข้ามาปฏิบัติการทางภาคเหนือของไทย เพื่อยับยั้งและขัดขวางการส่งกำลังบำรุงของญี่ปุ่นที่มีฐานในไทย
วันที่ 11 พ.ย. 2487 เครื่องบินขับไล่แบบ P-51 และ P-38 ของสหรัฐฯ 16 ลำ ออกเดินทางจากฐานบินในมลฑลยูนนานทางตอนใต้ของจีน เพื่อค้นหาและโจมตีหน่วยปฏิบัติการสนับสนุนของญี่ปุ่นทางเหนือของไทย
หน่วยของสหรัฐฯ มุ่งหน้าสู่ จ.ลำปาง และถูกสกัดกั้นจากเครื่องบินขับไล่แบบ Ki-27 หรือ “โอตะ” ของไทย จำนวน 5 ลำ ซึ่งบินออกจากสนามบินลำปาง จึงเกิดการต่อสู้ระยะประชิดในอากาศระหว่างเครื่องบินของไทย 5 ลำ และของสหรัฐฯ 16 ลำ ซึ่งในเวลาต่อมาเรียกว่า “ยุทธเวหา 5 ต่อ 16 เหนือนครลำปาง”
จากการรบดังกล่าว ส่งผลให้เครื่องบินของไทยถูกยิงตก 4 ลำ เสียหายอย่างหนัก 1 ลำ นักบินเสียชีวิต 1 คน สำหรับฝ่ายสหรัฐฯ เครื่องบิน P-38 เสียหายอย่างหนัก 1 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และเครื่องบิน P-51 ลำหนึ่งถูกยิงตกในเทือกเขา จ.ลำปาง จนนำมาสู่การค้นหาดังกล่าวที่ดอยฝรั่ง