ประเด็นการปรากฏตัวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ป.ป.ช.ก็เช่น เดียวกับการปรากฏตัวของ”ว่าที่”ผู้สมัครส.ส.ที่อ.ม่วงสามสิบ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
มิได้อยู่ที่คำถามว่า ไปทำอะไร
หากแต่อยู่ที่คำถามว่า ภาพและการเคลื่อนไหวเหล่านั้นได้มาอย่างไรอีกด้วย
ถามว่าความน่าสนใจอยู่ตรงไหน
คำตอบก็คือ อยู่ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำจิตวิญญาณแห่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
คำตอบก็คือ อยู่ที่ “ว่าที่”ผู้สมัครเป็นของพรรคพลังประชารัฐ
เพราะชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เพราะชื่อของพรรคพลังประชารัฐมีความเย้ายวนเป็นอย่างยิ่ง
กล่าวสำหรับภาพจาก อ.ม่วงสามสิบ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี มิได้มีความซับซ้อนมากนัก
เมื่อตกไปอยู่ในมือ นายสมคิด เชื้อคง
เพราะว่า นายสมคิด เชื้อคง เป็นอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี อยู่แล้ว
ย่อมไม่ยากที่จะได้ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
โดยเจาะจงไปยังภาพของ “ว่าที่”ผู้สมัครพร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33
แต่การได้ภาพ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จากป.ป.ช.น่าคิด
เป็นภาพของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างแน่นอนและไปตกอยู่ในมือของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้อย่างไร
คำถามก็คือ ใครเป็นคนถ่ายทำ ใครเป็นคนส่ง
ไม่ว่าภาพที่อุบลราชธานี ไม่ว่าภาพที่ป.ป.ช.เมื่อฉายจับไปยังพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
มีเป้าหมายในทางการเมืองอย่างแจ้งชัด ไม่น่าสงสัย
หากเรียงลำดับภาพอันสะท้อนสถานการณ์จากอุบลราชธานีมายังนครราชสีมาและลงเอยที่ ป.ป.ช.เหล่านี้ย่อมเป็นสัญญาณ
ไม่เพียงแต่คสช.จะสามารถส่งทหารตำรวจประกบคนของพรรคเพื่อไทย หากมีความเป็นไปได้ว่าคนของพรรคเพื่อไทยก็ตาม ประกบคนของคสช.และเครือข่ายเช่นเดียวกัน
ทุกอย่างดำเนินไปตามหลักการพื้นฐาน “รู้เขา รู้เรา ร้อยศึกก็บ่พ่าย”ครบถ้วนกระบวนความ