FootNote : ความผิดประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตรา 161 162 รัฐธรรมนูญ
ไม่ว่าจะมองผ่านแว่นแห่งนิติรัฐ นิติธรรม ไม่ว่าจะมองผ่านแว่นแห่งจริยธรรม กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณ กรณีการแถลงนโยบาย มีความแหลมคมอย่างยิ่งยวด
เพราะว่าเด่นชัดยิ่งว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณมีความผิดพลาดอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161
เห็นได้จากคำสารภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ขณะเดียวกัน เด่นชัดยิ่งว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลในห้วงระหว่างวันที่ 25-27 กรกฏาคม ในที่ประชุมรัฐสภามีความผิด พลาดอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162
เห็นได้จากเอกสารที่ตีพิมพ์โดยรัฐบาล เผยแพร่ในที่ประชุมรัฐสภา และที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำไปอ่าน
ไม่เพียงขัดหลัก “นิติธรรม” หากแต่ยังขัดหลัก “จริยธรรม”
หากเริ่มต้นจากที่มีการทักท้วงในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ก็จะสัมผัสได้ในความพยายามดึงดันและไม่ยอมรับในข้อเท็จจริงอันเกิดขึ้น
เป็นการทักท้วงว่าคำถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม มีความผิดพลาด
ไม่เพียงข้อความขาดหาย หากยังมีการเติมข้อความใหม่
นี่เป็นเรื่องสำคัญเพราะไม่เพียงแต่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 หากแต่ยังทำให้การแถลงนโยบายอันจะนำไปสู่การบริหารราชการแผ่นดินมีความไม่สมบูรณ์ครบถ้วน
แต่ท่าทีอันมาจากครม.ก็ดี ท่าทีอันมาจากสมาชิกรัฐสภาในพรรครัฐบาลก็ดี แทนที่จะมีการตรวจสอบเพื่อนำเอาความจริงมาแสดง
ตรงกันข้าม กลับพยายามตัดบทและไม่ยอมให้มีการตรวจสอบด้วยความรับผิดชอบ
กว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมารับผิดชอบก็เมื่อเวลาผ่านมาถึงวันที่ 7 สิงหาคม
ท่าทีต่อหลัก “นิติธรรม”และ “จริยธรรม”เช่นนี้น่าเป็นห่วง
ความน่าเป็นห่วงเพราะความเป็นจริงสะท้อนให้เห็นทั้งในวันที่ 16 กรกฎาคม และระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคมว่า รัฐบาลไม่ได้กระการอันขัดต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น หากยังมิได้มีการแก้ไขให้ถูกต้อง
นั่นก็คือ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ขัดต่อมาตรา 161 นั่นก็คือ เมื่อวันที่ 25-27 กรกฎาคม ขัดต่อมาตรา 162
แสดงให้เห็นว่าเป็นความผิดสำเร็จชัดแจ้ง
