FootNote:เอกภาพ ความคิดพรรคฝ่ายค้าน กับสมรภูมิอภิปรายไม่ไว้วางใจ

แม้การกำหนดรายชื่อรัฐมนตรีที่จะอยู่ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจจะยังไม่สามารถระบุออกมาได้มีจำนวนเท่าใดแน่ แต่พรรคฝ่ายค้านก็มียุทธศาสตร์ร่วมกันอย่างแจ่มชัด

นั่นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายต่อรัฐมนตรีคนใด แต่ในที่สุดแล้ว ก็จะขมวดปมไปรวมอยู่ในจุดรวมศูนย์เดียวกัน

นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เอกภาพในทาง “ยุทธศาสตร์” เช่นนี้มีความสำคัญเป็นอย่างสูงในการออกหมัด หรือเคลื่อนไหวในทาง “ยุทธวิธี” อันดำเนินไปอย่างที่สำนวนฝรั่งระบุว่า

ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม เพียงแต่ ณ วันนี้ของพรรคร่วมฝ่ายค้านก็คือ ปลายหอกล้วนพุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อแม่นยำในทางความคิด ก็แม่นยำในทางยุทธศาสตร์

แท้จริงแล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เหมือนกับการจัดวางทัพ ไม่ว่าทัพหน้า ไม่ว่าทัพหลัง ล้วนต้องมีความสัมพันธ์ ยึดโยงระหว่างกันและกัน

พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ อาจมี ส.ส.มาก ยืนอยู่แถวหน้า

กระนั้น จะปฏิเสธบทบาทและความหมายของ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ได้อย่างไร

ขณะเดียวกัน เป้าหมายการรวมตัวกันของ 7 พรรคฝ่ายค้านตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2562 คือการสร้างแนวใหญ่ในการต้านการสืบ ทอดอำนาจของคสช.

จากเดือนมีนาคม 2562 มายังเดือนมกราคม 2563 ยิ่งมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นว่าพื้นฐานความคิดนี้ถูกต้อง

โดยเฉพาะการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะเดียวกัน บทสรุปของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่ว่า การจัดวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ

ข้อมูล ชัดเจน ยืนยัน สนามการซักฟอกนี้ไม่ใช่สนามการฝึกพูด

คำยืนยันนี้เท่ากับยอมรับในความเข้มข้นของสนามซักฟอกนี้ดำเนินไปในลักษณะอันเป็นพื้นที่สู้รบ ชี้ขาดระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน

บทสรุปเช่นนี้คือพื้นฐานในทางความคิดอันเป็นเส้นไหมแดงเชื่อม ร้อย 7 พรรคฝ่ายค้านร่วมเข้าด้วยกัน

กระหน่ำเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน