นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ เดอะ ลักชัวรี มิกซ์ ยูส บนถนนอโศก-เพชรบุรี เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้ว และมีผู้เช่าแล้ว 82% พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างยื่นขอก่อสร้างทางใต้ดินเพื่อเชื่อมอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ กับ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เพชรบุรี โดยจะใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท และเมื่อรวมพื้นที่เช่าอาคารซันทาวเวอร์ส บนถนนวิภาวดี ที่บริษัทได้เข้าซื้อโครงการไปก่อนนี้

ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่ารวม 130,000 ตร.ม. ประกอบกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่สิงห์ เอสเตท ให้ความสำคัญ ทำให้มีการกำหนดแผนลงทุน 5 ปี 17,000 ล้านบาท จะมีพื้นที่สำนักงานให้เช่าเพิ่มขึ้นอีก 200,000 ตร.ม. หรือมีเป้าหมายภายใน 5 ปีจะมีพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 300,000 ตร.ม. และทำให้สัดส่วนรายได้จากการขายและให้เช่าใกล้เคียงกัน 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากการขาย 70%

โดยในส่วนของการลงทุนคอมเมอร์เชียลโครงการใหม่ๆ เริ่มจากโครงการโอเอซิส บนถนนวิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นมิกส์ยูส 36 ชั้น ประกอบด้วยสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก ที่จะมีการก่อสร้างสะพานเชื่อมต่อกับอาคารซันทาวเวอร์ ถนนวิภาวดี-รังสิต ด้วยมูลค่าลงทุน 3,695 ล้านบาท โดยมีพื้นที่ให้เช่า ประมาณ 53,000 ตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 รวมถึงโครงการครอสโร้ด ประเทศมัลดีฟส์ ขณะที่การลงทุนใหม่ๆ จะมีทั้งพัฒนาโครงการตั้งแต่เป็นที่ดินเปล่า และการซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งผู้เสนอขาย หลายโครงการ และยังอยู่ระหว่างการเจรจา

“แนวโน้ม 2-3 ปีข้างหน้าจะมีการแข่งขันโครงการมิกซ์ยูส เกรดเอ ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีหลายโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ประกอบกับเนื่องจากในปัจจุบันที่ดินมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้การลงทุนโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีกและอาคารชุดพักอาศัย จะให้ผลตอบแทนสูงสุด 12-13% เมื่อเทียบกับการลงทุนอาคารสำนักงานอย่างเดียวที่ให้ผลตอบแทนแค่ 6-7%”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน