คอลัมน์ ข่าวสดสตรี
เป็นงานที่จัดอย่างสวยสดงดงามอยู่ในขณะนี้ สำหรับ “ดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวง” ที่ฮอลล์ ออฟ เฟม ชั้นเอ็ม ศูนย์ การค้าสยามพารากอน งานมีระหว่างวันที่ 3-11 ธันวาคม 2559 ผู้ที่สนใจและยังไม่ได้ไปชมจึงยังมีโอกาสโดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์นี้
รศ.ธัญญะ เตชะศีลพิทักษ์ หัวหน้าโครงการ โครงการบุหงา โครงการหลวง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงที่มาของงานว่า บุหงาโครงการหลวง เกิดจากไม้ประดับอบแห้ง ซึ่งแต่เดิมภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านได้ก่อตั้งโครงการหลวง ช่วงที่บนดอยต่างๆ มีการปลูกฝิ่น ท่านก็หาพืชสวน ผัก ผลไม้ และดอกไม้ ที่เข้าไปทดแทน และ รศ.ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม ถวายงานในเรื่องของเฟิร์น ท่านเอาใบเฟิร์นมาฟอกเป็นสีขาว ประมาณปี 2524 ที่ สวนอัมพรมีการจัดงาน แล้วท่านได้นำใบเฟิร์นฟอกขาวไปโชว์ ปรากฏว่าคนชอบมาก ท่านเลยคิดว่าจะพืชอื่นที่มาจากธรรมชาติ อย่างเช่น ดอกด้วง ดาวอังคาร ฐานบัวตอง ฟักประดู่ เอามาฟอกย้อม เอามาประดิษฐ์ กลายเป็นดอกไม้ประดับแห้งของโครงการหลวง
“ผมเป็นลูกศิษย์ของ รศ.ม.ล.จารุพันธ์ ท่านก็ชวนผมเข้ามาช่วยทางโครงการหลวงในเรื่องของการพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ๆ ปีแรกผมไปส่งเสริมปลูกดอกยิปโซฟิลลา แล้วก็เอาฟอกย้อม หลังจากนั้นก็มีการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ดอกไม้แห้งฟอกย้อมเพิ่มขึ้นมาทุกปี พอเราได้พืชจากการวิจัย เราก็จะเอาไปส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก อย่างตอนนี้เราก็ทำผัก อย่าง ดอกกระเจี๊ยบ ก็สามารถทำเป็นดอกไม้แห้ง พอดีท่านจารุพันธ์ ท่านอายุมากแล้วท่านให้ผมขึ้นมาเป็นหัวหน้าโครงการแทน เมื่อประมาณเดือนมีนาฯ ผมก็ให้หลายๆ ท่านขึ้นมาเป็นกรรมการ เพื่อให้โครงการนี้พัฒนาดีมากยิ่งขึ้น อย่างคุณภูเบศร์ เจษฎ์เมธี หนึ่งในกรรมการ ได้ให้เสนอข้อคิดเห็นหลายข้อ และเสนอตัวมาช่วยจัดงานดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวงนี้ขึ้น”
รศ.ธัญญะกล่าวต่อว่า เรามีดอกไม้เป็นร้อยชนิด อย่างใบเฟิร์นฟอก มีอยู่ในงานนี้แน่นอน เพราะว่าเป็นสินค้า ตัวแรกของเรา แต่งานนี้ที่สำคัญคือแต่เดิมเราก็มีการประดิษฐ์โน้นนี่ แต่ทางคุณภูเบศร์ ได้เชิญสถาบันมาทั้งหมด 12 แห่ง เอาวัตถุดอกไม้ไปประดิษฐ์ จึงเกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่ทำจากดอกไม้แห้ง และทำให้เห็นถึงศักยภาพของดอกไม้แห้งมากขึ้น
โซนที่เป็นไฮไลต์สำหรับงานนี้คือโซนรวมใจภักดิ์ถวายความอาลัย มีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แล้วเราก็มีดอกไม้แห้งประดับสวยงาม จุดเด่นคือคนที่เข้ามาในงานมีส่วนร่วมด้วยการนำดอกไม้แห้งที่เราแจกไปปักในโครงสร้างที่เราทำไว้แล้วให้ได้ 9,999 ดอก เพื่อสร้างเป็นประติมากรรม แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ขณะเดียวกันภายในงานยังมีสินค้าหลากหลายมาจำหน่าย เป็นของขวัญของชำร่วยต่างๆ มีหลากหลายสีสัน สินค้าที่เป็นเครื่องหอม พร้อมจัดแสดง พวงหรีด ดอกไม้จันทน์ แต่ไม่ได้เอามาขายในงานนี้ เพียงจัดแสดงเป็นพานพุ่ม
ด้าน ภูเบศร์ เจษฎ์เมธี รองประธานสภาดอกไม้โลก กล่าวเสริมว่า “งานนี้เราคิดขึ้นเองว่าดอกไม้แห้ง เป็นหนึ่งในงานของโครงการหลวง แต่ประชาชนส่วนนึงอาจจะไม่รู้ว่าโครงการหลวงมีดอกไม้แห้งด้วย เราก็เลยอยากให้รู้ว่าดอกไม้แห่งนี้มาจากไหน แล้วทำงานอย่างไร เพื่อใคร นี้คือจุดที่เราอยากสื่อสารในงานนี้ เรียกว่าเป็นการบอกว่าในโครงการหลวงเรามีดอกไม้แห้ง และมีการตั้งชื่อแบรนด์เรียกว่า “ดอกบุหงา” เพราะอย่างส่วนอื่นๆของโครงการหลวง อย่าง ดอยคำ เรารู้แล้วว่าคือการแปรรูปผลไม้ ขณะเดียวกันเราก็อยากที่จะได้คำคำหนึ่งที่รู้ว่านี้คือดอกไม้แห้ง”
“ในงานที่เราโชว์ ดอกไม้จะเข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานคือแสดงความอาลัย แต่บางส่วนที่เราเตรียมเอาไว้ มีสีที่หวานๆ สีเย็นๆ สีสดใส ลูกค้าที่อยากได้เราก็สามารถหยิบมาให้ได้ เพียงแค่เราไม่ได้เอามาโชว์ เพราะว่างานนี้เป็นงานแสดงความอาลัย แต่เราตอบโจทย์ได้ทั้งหมด งานจะมีขึ้นถึงวันที่ 11 ธ.ค. ถึงงานนี้จบแล้ว สินค้าพวกนี้ก็ไปหาซื้อได้ตามโครงการหลวงหลายสาขา”
ภูเบศร์กล่าวด้วยว่า “อยากให้ดอกไม้แห้งมีส่วนร่วมในการแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยที่เชิญชวนประชาชนมาร่วมกับเรา อันที่สอง เราอยากสื่อสารว่านี้คือดอกไม้ของโครงการหลวง ดอกไม้ของพระเจ้าอยู่หัว ผลิตประเทศไทย สิ่งที่เราทำคือไปส่งเสริมให้ประชากรปลูกให้เรา แล้วเราก็รับซื้อ เป็นการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร”
“ที่สำคัญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ก่อตั้งโครงการหลวง ท่านไปช่วยให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น เราจึงอยากที่จะจัดงานนี้เพื่อแสดงความอาลัย นี้คือจุดประสงค์ของงาน” รศ.ธัญญะกล่าวทิ้งท้าย