ในแต่ละวัน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกว่า 3,000 ครั้ง ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่น้อยกว่า 30 รายต่อวัน ยังไม่นับรวมเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เพื่อบรรเทาและคลี่คลายสถานการณ์นั้นๆ ให้ดีขึ้น และจากประสบการณ์ 108 ปี ในการช่วยชีวิต รักษาชีวิต และสร้างชีวิต ของมูลนิธิฯ ทำให้ตระหนักได้ว่า ความเร็วในการเข้าถึงเหตุฉุกเฉิน

ทั้งอุบัติเหตุไปจนถึงภัยพิบัติทุกรูปแบบ จะช่วยลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมาก ทำให้ “สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418” จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ความช่วยเหลือส่งไปถึงผู้ที่ต้องการได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

โดยนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานกล่าวเปิดงาน เปิดตัวสายด่วนกู้ชีวิตป่อเต็กตึ๊ง ตอนหนึ่งว่า เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนคนไทยกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุฉุกเฉิน เหตุด่วนที่อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ไปจนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ จะมีผู้ที่มีประสบการณ์ และมีความสามารถในการช่วยบรรเทาความสูญเสียจากเหตุนั้นๆ และสามารถลำเลียงผู้ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วน สู่มือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างทันท่วงที

นายวิเชียร กล่าวว่า ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้เปิดตัว “สายด่วน 1418” เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงทีที่สุด โดยหวังเพียงว่า ประสบการณ์และความชำนาญในการช่วยชีวิต รักษาชีวิต และสร้างชีวิต ของเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งทุกคน จะสามารถลดความสูญเสีย โดยเฉพาะความสูญเสียต่อชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกคน

ด้าน นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ ผู้ช่วยกรรมการเลขาธิการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง อธิบายเพิ่มเติมว่า “สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418” ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบการติดต่อสื่อสารมาจากการดำเนินการของศูนย์วิทยุกรุงเทพ ซึ่งกว่า 30 ปีที่ผ่านมา รับแจ้งเหตุผ่านทางหมายเลข 02-226-4444-8 ตั้งแต่อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ไปจนถึงการร้องขอความช่วยเหลือ จับสัตว์เลื้อยคลาน การช่วยเหลือเด็กติดในรถ ไปจนถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเป็นอันตรายทุกรูปแบบ

โดยเป็นสถานีแม่ข่ายในการประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งล่าสุดจากการทดลองดำเนินการและพัฒนาเป็นระบบคอลเซ็นเตอร์ ผ่านหมายเลขสายด่วน 1418 มากว่า 4 ปี ทำให้ขณะนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมั่นใจว่า “สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418” มีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ และจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกรูปแบบ

นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีประสบการณ์ตรงจากการโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางสายด่วนของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่บอกเล่าถึงสถานการณ์จริงที่เคยเผชิญเหตุฉุกเฉินแล้วพยายามที่จะติดต่อโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ เท่าที่จำได้ แต่บางช่องทางมีความล่าช้าในการติดต่อสื่อสาร จนตัดสินใจโทรศัพท์เข้ามาติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งโดยตรง ซึ่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว และสามารถคลี่คลายสถานการณ์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ภารกิจเพื่อสังคมของป่อเต็กตึ๊ง ไม่ได้มีเฉพาะงานกู้ชีพ กู้ภัยเท่านั้น ยังมีสายงานสังคมสงเคราะห์ สายงานกิจกรรมมูลนิธิ และกิจกรรมสาธารณประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งภายในงาน ก็ได้มีอาสาศิลปิน ที่เข้ามาเป็นจิตอาสาในการร่วมงานกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพาเยี่ยมชมความพร้อมของอุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือในแต่ละสถานการณ์

ทั้งรถและอุปกรณ์สำหรับประดาน้ำ, รถดับเพลิง, อุปกรณ์ตัดถ่าง, รถกู้ชีพกู้ภัยที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย และยังมีสาธิตการโรยตัวให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินจากที่สูง เพื่อแสดงถึงศักยภาพและความพร้อมที่จะคอยให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง”นายอรัญ กล่าว

ทั้งนี้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำลังจะมีการจัดงานประเพณีทิ้งกระจาด ประจำปี 2561 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ ที่จะเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง และน้ำดื่มให้แก่ผู้ยากไร้ และสักการะหลวงปู่ไต้ฮง ซึ่งมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 108 ปี

สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถร่วมทำบุญประเพณีทิ้งกระจาดประจำปี 2561 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 6 กันยายน 2561 ซึ่งเครื่องอุปโภค-บริโภคทั้งหมดจะนำไปแจกจ่าย 3 ครั้งด้วยกันคือ วันที่ 14 สิงหาคม 2561 ณ สุสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร วันที่ 21 สิงหาคม 2561 ณ คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา วันที่ 7 กันยายน 2561 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย เขตป้อมปราบ กรุงเทพฯ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน