นอกจากการสนับสนุนภาพยนตร์ของ ตูน บอดี้สแลม เรื่อง “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” เพื่อให้คนไทยได้ดูหนังเรื่องนี้ฟรี ต่อเนื่องจากการร่วมบริจาคเงินถึง 100 ล้านบาท โครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศไปเมื่อปีก่อน

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังเล่าถึงโครงการซีเอสอาร์ด้านอื่นๆ ของ คิงเพาเวอร์ที่กำลังเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ทั้ง 4 ด้าน คือ กีฬา ดนตรีชุมชน การศึกษา-สุขภาพ รวม 17 โครงการ ภายใต้ชื่อ “คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” มุ่งกระจายการสนับสนุนนี้ไปสู่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาคกว่า 500 ชุมชน

เริ่มที่กีฬา สปอร์ตเพาเวอร์ กันก่อน เพราะคิงเพาเวอร์มีสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ชูโรงโดดเด่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากเคยคว้าแชมป์ฤดูกาล 2015/2016 มาแล้ว จึงจัดโครงการที่มุ่งพัฒนาส่งเสริม ศักยภาพเยาวชนไทยซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศให้มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลในทุกมิติตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

หนุ่มต๊อบ อัยยวัฒน์ กล่าวว่า คิงเพาเวอร์ ไทยเพาเวอร์ มี โครงการฟ็อกซ์ฮันต์ ตามล่าจิ้งจอกสายพันธุ์สยาม มอบทุนการศึกษาและโอกาสสำคัญในชีวิต ด้วยการไปฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ และสโมสรเอาด์-เฮเฟอร์เลเลอเฟินของเบลเยียม เพื่อต่อยอดอนาคตของนักเตะเยาวชนไทยได้มีช่องทางเข้าไปเล่นในลีกฟุตบอลระดับยุโรป ซึ่งปีนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว มีนักเรียนรุ่นแรกประสบความสำเร็จกลับมา 12 คน ได้ไปเล่นในไทยลีก

นอกจากคัดเลือกนักเตะเยาวชนและส่งเสริมให้ก้าวสู่สนามอินเตอร์แล้ว ยังมีโครงการ “ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย” มอบลูกฟุตบอล จำนวน 1 ล้านลูกให้กับเยาวชน ภายใน 5 ปี ซึ่งปีนี้มอบไปแล้ว 400,000 ลูก

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ 100 สนามพลังเยาวชนไทย ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จำนวน 100 สนามทั่วประเทศภายใน 5 ปี หวังให้เยาวชนมีพื้นที่ออกกำลังกาย และการมอบโอกาสให้กับเด็กๆ ที่รักกีฬาได้สานฝันของตัวเองให้เป็นจริงต่อไป

ต่อมา ดนตรี มิวสิค เพาเวอร์ “หนุนดนตรีไทยสู่โชว์ระดับนานาชาติ” ซีอีโอหนุ่มกล่าวว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์จัดโครงการแข่งขันวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทยขึ้น ด้วยความร่วมมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้เวทีแห่งนี้จุดประกายเสียงดนตรีให้โลกได้รู้พลังด้านดนตรีของคนไทยก็พร้อมอวดโฉมในระดับสากล และผลักดันให้เยาวชนต่อยอดในวิชาชีพนี้ได้

ต่อด้วยกิจกรรม ด้าน ชุมชน คอมมิว นิตี้ เพาเวอร์ ที่มาจากการสนับสนุนสินค้าไทยเป็นหัวใจสำคัญของคิง เพาเวอร์ เสมอมา จึงอยากบอกให้โลกรู้ว่าของไทยนี้ดี อาศัยที่คิงเพาเวอร์มีธุรกิจอยู่ต่างประเทศ มีช็อปของสโมสรเลสเตอร์ จึงสร้างเป็นเวทีเปิดโอกาสให้สินค้าไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม อาหาร ขนม และของที่ระลึกได้เฉิดฉายในสายตาคนต่างชาติ ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้หลายชุมชนทั่วประเทศ ตลอดจนคนพิการ เพราะคิงเพาเวอร์เข้าใจดีว่า สิ่งที่ชาวบ้าน ตลอดจนผู้พิการต้องการไม่ใช่ความสงสาร แต่ต้องการใช้ความสามารถและศักยภาพที่ตัวเองมีเติบโตไปพร้อมกับสังคม

อย่างผ้าครามคอลเล็กชั่น INDIGO (อินดิโก้) สำหรับเป็นของที่ระลึกสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ คิงเพาเวอร์ ทำหน้าที่เป็น คู่คิดและคู่ค้าร่วมกับชุมชนบ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร โดยยังคงชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้านไว้ และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้า

สำหรับโครงการด้านการศึกษาและสุขภาพ หรือเอ็ดดูเคชั่นแอนด์เฮลธ์ เพาเวอร์ มุ่งไปยังชุมชนต่างๆ ที่ทำมานานแล้ว เช่น สนับสนุนอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียน การสอน ช่วยซ่อมแซมอาคารเรียนและ สร้างห้องสมุด จนมาถึงการร่วมกับมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทให้กับคนไทย

ในเรื่องสุขภาพอนามัย ผู้บริหารหนุ่ม กล่าวว่า คิงเพาเวอร์มีโครงการที่ยินดีให้เอกชนรายอื่นๆ มาขอแบบไปขยายกระจายต่อได้เลย นั่นคือโครงการ “พลังคนไทย สุขาสุขใจ” เพื่อให้เป็นห้องน้ำของทุกคนอย่างแท้จริง สะดวก สบาย ปลอดภัย ติดตั้งยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เสริมสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวไทยให้กับชาวไทยและต่างชาติครบทุกมิติ โดยปีนี้จัดสร้าง 6 แห่งใน 6 จังหวัด ให้ชุมชนดูแลรักษาความสะอาดกันต่อเพื่อความยั่งยืน

โครงการนี้ อัยยวัฒน์เล่าว่า มาจากการสังเกตปัจจัยสำคัญในด้านการท่องเที่ยว นั่นคือห้องน้ำ นักท่องเที่ยวจะจดจำและพูดถึงประเทศไทยในแง่บวก เหมือนเวลาที่เราไปญี่ปุ่นแล้วก็ชมความสะอาดและความสบายใจในการใช้ห้องน้ำ

ส่วนทางด้านสาธารณสุข อัยยวัฒน์กล่าวถึงโครงการมอบตู้อบเด็กให้โรงพยาบาลแห่งต่างๆ ว่า มาจากคุณแม่ซึ่งทำมานานแล้ว ด้วยความรู้สึกว่าถ้าเด็กแรกเกิดคนนั้นๆ รอดชีวิตเขาคงคิดถึงเรา และเด็กคนนั้นๆ อาจเติบโตขึ้นได้เป็นนายกฯ หรือเป็นนักฟุตบอลในโครงการฟ็อกซ์ฮันต์ หรือติดทีมชาติไทยก็ได้

ตบท้ายกับกิจกรรมมากมายของคิงเพาเวอร์ด้วยการย้อนไปยังการสนับสนุนภาพยนตร์ “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” เพื่อให้คนไทยได้ดูหนังเรื่องนี้ฟรี คิงเพาเวอร์จะเพิ่มรอบพิเศษให้ทุกคนได้ดูฟรีกันที่อาคารนิมิบุตร วันที่ 14-16 กันยายน วันละ 4 รอบ เวลา 12.00 น. 14.30 น. 17.00 น. และ 19.30 น. รอบละ 2,500 ที่นั่ง

“ผมว่าคำว่าไทยเพาเวอร์มันชัดเจนมาก เพราะถ้าเราพลังคนไทยมารวมกัน แล้วก็ทำในสิ่งที่ดีต่อสังคม ช่วยกันพัฒนาประเทศ ผมว่าสิ่งที่ดีและสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน” อัยยวัฒน์กล่าวด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน