เทศกาลบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ เทศกาลศิลปะนานาชาติครั้งแรกของประเทศไทย
เทศกาลบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ – เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดงาน เทศกาลศิลปะนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2018 (Bangkok Art Biennale 2018) งานได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ภายใต้แนวคิด “สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต” (Beyond Bliss)
มหกรรมศิลปะยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ได้รวบรวมผลงานศิลปินไทยและต่างประเทศจำนวนกว่า 70 คนมาแสดงตามสถานที่สำคัญหลากหลายทั่วกรุงเทพถึง 20 แห่งด้วยกัน ตั้งแต่โรงแรมแมนดารินโอเรียลเต็ล หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองอย่างสยามพารากอน เซ็นทรัลเวิร์ล เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ และเอ็มควอเทียร์
นอกจากนี้ เทศกาลยังได้ขยายพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะไปยังวัดวาอารามที่อยู่คู่บ้านเมืองของเรามาช้านาน ซึ่งได้แก่วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 3 แห่งด้วยกันคือ วัดอรุณฯ วัดโพธิ์ และวัดประยุรวงศาวาส
วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
เริ่มกันที่วัดเก่าแก่และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติอย่าง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า วัดโพธิ์ ซึ่งควรค่าแก่การกลับไปเยี่ยนเยือนอีกครั้งเพื่อชมงานศิลปะนับหลายชิ้นจากศิลปินหลายท่าน ตั้งแต่ผลงาน “ตะกอนแห่งการเดินทาง” (Sediments of Migration) ของศิลปินหญิงดาวรุ่ง ปานพรรณ ยอดมณี เป็นงานภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังแบบผสมผสานที่ถ่ายทอดเรื่องราวการถ่ายทอดอารยธรรมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ จัดแสดงอยู่ตามสวนหิน ใกล้รูปปั้นอับเฉาและฤาษีดัดตน
ไม่ไกลจากงานของปานพรรณคือผลงานของศิลปินชาวจีนชั้นนำของโลกอย่าง หวง หย่ง ผิง (Huang Yong Ping) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งเซียะเหมิน ดาดา (Xiamen Dada) กระบวนการเคลื่อนไหวด้านศิลปะของศิลปินหัวก้าวหน้าในยุค 1980 ในครั้งนี้เขามาพร้อมกับผลงานประติมากรรมชื่อ “Zuo You He Che” แสดงให้เห็นเพียงหัวของสัตว์ ส่วนขาและเท้าเป็นของมนุษย์ไว้ให้ได้ชมภายในสวนมิสกวัน (เก๋งจีน) ซึ่งตั้งอยู่ข้างวิหารพระพุทธไสยาส (พระนอนวัดโพธิ์)
หากเดินต่อไปไม่กี่ร้อยเมตรจะพบว่าสระจระเข้ มุมเงียบสงบของวัดได้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงงานแบบติดตั้งชื่อ “Knowledge in Your Hands, Eyes and Minds” ของศิลปินไทย ภาพตะวัน สุวรรณกูฏ ที่นำเสนอความทรงจำส่วนตัวของเธอพร้อมกับสอดแทรกประเด็นร่วมสมัย ผ่านกลิ่นสมุนไพร กระดาษคัทเอาต์และจิตรกรรมฝาผนัง
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
ภายในพระอารามหลวงชั้นโทที่ตั้งอยู่ใกล้เชิงสะพานพุทธ หัวกะโหลกเซรามิก 125,000 ชิ้นที่สรรสร้างโดยศิลปิน นีโน่-สุวรรณี สาระบุตร เป็นเวลาร่วมหลายเดือน ได้รับการจัดวางอยู่รอบฐานเจดีย์สีขาว
ผลงานชื่อ “What Will You Leave Behind?” เชิญชวนให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนได้ถอดรองเท้า เหยียบบนหัวกะโหลก และเดินช้า ๆ เพื่อใคร่ครวญและตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิต
“ทุก ๆ วันที่เรายังมีลมหายใจ คือโอกาสที่เราจะได้สร้างสิ่งที่มีความหมาย ทำเรื่องดี ๆ ที่น่าชื่นชมและชวนภาคภูมิใจ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการง่ายเหลือเกินที่เราจะลืมคิดไปว่า โชคดีแค่ไหนกันที่เรายังมีชีวิตอยู่ เรามักละเลยในสิ่งที่คิดจะทำ หรือมัวแต่ผลัดวันประกันพรุ่ง” ศิลปินกล่าวผ่านป้ายอธิบายผลงาน
“เคยคิดบ้างไหมว่าคุณจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปอีกนานแค่ไหน? จะมัวรีรอถึงเมื่อไหร่ ในเมื่อความตายติดตามเราทุกย่างก้าว?”
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
หลาย ๆ คนคงรู้จัก “ยักษ์วัดแจ้ง” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถวัดอรุณฯ แต่เนื่องในโอกาสเทศการศิลปะบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ได้มียักษ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคู่
ผลงานของ คมกฤษ เทพเทียน ชื่อ “สองเกลอ” (Giant Twins) เป็นรูปปั้นยักษ์สไตล์ไทยและจีนสูงกว่า 3 เมตร ตัวติดกันคล้ายแฝดอิน-จัน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ
ใกล้ ๆ กันซึ่งเป็นผลงานของคมกฤษเช่นเดียวกัน คือ “ครุฑวัดแจ้ง” (Arun Garuda) รูปปั้นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งนก ทำจากไฟเบอร์กลาส
ส่วนผลงาน “ข้ามจักรวาล” (Across the Universe and Beyond) ของศิลปินและสถาปนิก สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ เป็นการนำแผ่นสีแดงมารอบล้อมสวนจำลอง เพื่อตีความงานสถาปัตยกรรมไทยใหม่และสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบศิลปะร่วมสมัย เชื้อเชิญให้ผู้ชมเดินเข้าไปสัมผัสจักรวาลด้วยตนเอง
เทศกาลศิลปะนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 3 กุมภาาพันธ์ 2562 สามารถติดตามข่าวสารและตารางกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Bkkartbiennale และ www.bkkartbiennale.com
อ่านเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ: Temples of Art: Biennale Brings Reason to Revisit Riverside Wats