นอกจากนี้ เทศกาลยังได้ขยายพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะไปยังวัดวาอารามที่อยู่คู่บ้านเมืองของเรามาช้านาน ซึ่งได้แก่วัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 3 แห่งด้วยกันคือ วัดอรุณฯ วัดโพธิ์ และวัดประยุรวงศาวาส

วัดโพธิ์ หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

เทศกาลบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่

เริ่มกันที่วัดเก่าแก่และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติอย่าง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า วัดโพธิ์ ซึ่งควรค่าแก่การกลับไปเยี่ยนเยือนอีกครั้งเพื่อชมงานศิลปะนับหลายชิ้นจากศิลปินหลายท่าน ตั้งแต่ผลงาน “ตะกอนแห่งการเดินทาง” (Sediments of Migration) ของศิลปินหญิงดาวรุ่ง ปานพรรณ ยอดมณี เป็นงานภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังแบบผสมผสานที่ถ่ายทอดเรื่องราวการถ่ายทอดอารยธรรมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ จัดแสดงอยู่ตามสวนหิน ใกล้รูปปั้นอับเฉาและฤาษีดัดตน

ไม่ไกลจากงานของปานพรรณคือผลงานของศิลปินชาวจีนชั้นนำของโลกอย่าง หวง หย่ง ผิง (Huang Yong Ping) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้งเซียะเหมิน ดาดา (Xiamen Dada) กระบวนการเคลื่อนไหวด้านศิลปะของศิลปินหัวก้าวหน้าในยุค 1980 ในครั้งนี้เขามาพร้อมกับผลงานประติมากรรมชื่อ “Zuo You He Che” แสดงให้เห็นเพียงหัวของสัตว์ ส่วนขาและเท้าเป็นของมนุษย์ไว้ให้ได้ชมภายในสวนมิสกวัน (เก๋งจีน) ซึ่งตั้งอยู่ข้างวิหารพระพุทธไสยาส (พระนอนวัดโพธิ์)

หากเดินต่อไปไม่กี่ร้อยเมตรจะพบว่าสระจระเข้ มุมเงียบสงบของวัดได้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงงานแบบติดตั้งชื่อ “Knowledge in Your Hands, Eyes and Minds” ของศิลปินไทย ภาพตะวัน สุวรรณกูฏ ที่นำเสนอความทรงจำส่วนตัวของเธอพร้อมกับสอดแทรกประเด็นร่วมสมัย ผ่านกลิ่นสมุนไพร กระดาษคัทเอาต์และจิตรกรรมฝาผนัง

วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

ภายในพระอารามหลวงชั้นโทที่ตั้งอยู่ใกล้เชิงสะพานพุทธ หัวกะโหลกเซรามิก 125,000 ชิ้นที่สรรสร้างโดยศิลปิน นีโน่-สุวรรณี สาระบุตร เป็นเวลาร่วมหลายเดือน ได้รับการจัดวางอยู่รอบฐานเจดีย์สีขาว

ผลงานชื่อ “What Will You Leave Behind?” เชิญชวนให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนได้ถอดรองเท้า เหยียบบนหัวกะโหลก และเดินช้า ๆ เพื่อใคร่ครวญและตั้งคำถามเกี่ยวกับชีวิต

“ทุก ๆ วันที่เรายังมีลมหายใจ คือโอกาสที่เราจะได้สร้างสิ่งที่มีความหมาย ทำเรื่องดี ๆ ที่น่าชื่นชมและชวนภาคภูมิใจ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการง่ายเหลือเกินที่เราจะลืมคิดไปว่า โชคดีแค่ไหนกันที่เรายังมีชีวิตอยู่ เรามักละเลยในสิ่งที่คิดจะทำ หรือมัวแต่ผลัดวันประกันพรุ่ง” ศิลปินกล่าวผ่านป้ายอธิบายผลงาน

“เคยคิดบ้างไหมว่าคุณจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปอีกนานแค่ไหน? จะมัวรีรอถึงเมื่อไหร่ ในเมื่อความตายติดตามเราทุกย่างก้าว?”

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

หลาย ๆ คนคงรู้จัก “ยักษ์วัดแจ้ง” ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถวัดอรุณฯ แต่เนื่องในโอกาสเทศการศิลปะบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ได้มียักษ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคู่

ผลงานของ คมกฤษ เทพเทียน ชื่อ “สองเกลอ” (Giant Twins) เป็นรูปปั้นยักษ์สไตล์ไทยและจีนสูงกว่า 3 เมตร ตัวติดกันคล้ายแฝดอิน-จัน แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองประเทศ

ใกล้ ๆ กันซึ่งเป็นผลงานของคมกฤษเช่นเดียวกัน คือ “ครุฑวัดแจ้ง” (Arun Garuda) รูปปั้นสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งนก ทำจากไฟเบอร์กลาส

ส่วนผลงาน “ข้ามจักรวาล” (Across the Universe and Beyond) ของศิลปินและสถาปนิก สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ เป็นการนำแผ่นสีแดงมารอบล้อมสวนจำลอง เพื่อตีความงานสถาปัตยกรรมไทยใหม่และสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบศิลปะร่วมสมัย เชื้อเชิญให้ผู้ชมเดินเข้าไปสัมผัสจักรวาลด้วยตนเอง

เทศกาลศิลปะนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale) จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 3 กุมภาาพันธ์ 2562 สามารถติดตามข่าวสารและตารางกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/Bkkartbiennale และ www.bkkartbiennale.com

อ่านเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ: Temples of Art: Biennale Brings Reason to Revisit Riverside Wats

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน