คอลัมน์ หลากหลาย

หนังสือพิมพ์มติชน วางจำหน่ายฉบับแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2521 นับจากวันนั้นจนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 40 ปีแล้ว

บริษัท มติชน จำกัด ก่อตั้งโดย นายขรรค์ชัย บุนปาน จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2521 เพื่อประกอบธุรกิจการพิมพ์ เป็นผู้พิมพ์หนังสือ นิตยสารต่างๆ และรับจ้างโฆษณา ได้รับอนุมัติเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2532 ก่อนแปรสภาพเป็นบริษัท จำกัด มหาชน ต่อกรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2536

ภาพรวมของการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์อื่นๆ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ หนังสือพิมพ์รายวัน 2 ฉบับ คือ มติชน ข่าวสด ราย 3 วัน 1 ฉบับ คือ ประชาชาติธุรกิจ และยังมีนิตยสารรายสัปดาห์ นิตยสารรายปักษ์ รวมไปถึงหนังสือพ็อกเกตบุ๊กมากมาย

การทำหน้าที่ “สื่อมวลชน” ของ “มติชน” ตั้งแต่วันที่ออกหนังสือพิมพ์ฉบับแรก กระทั่งเริ่มเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในยุคนี้ มติชนยังคงยืนหยัด ยึดมั่นในหลักการ นำเสนอด้วยความถูกต้องเสมอมา

40 ปีที่ผ่านมามติชนได้รับรางวัลมากมาย ทั้งจากสมาคม นักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2524 ได้รับรางวัล “อิศรา อมันตกุล” ประเภท ข่าวยอดเยี่ยม จากข่าวศึกชิงเก้าอี้อธิบดีกรมอัยการ พ.ศ.2526 ได้รางวัลจากข่าวซื้ออุปกรณ์ การศึกษาของ สป.จังหวัด

พ.ศ.2530 ได้รางวัลจากข่าวทลายแก๊งมาเฟีย ทุจริตเครื่องราชฯ พ.ศ.2532 ข่าวทลายแก๊งมารศาสนา พ.ศ.2536 ข่าวเปิดโปงขบวนการผลาญงบประมาณ 5 แสนล้าน พ.ศ.2538 ข่าวทลายขบวนการยาม้า ปลุกสำนึกไทยต้านภัยยาม้า พ.ศ.2539 ข่าว ทลายขบวนการนักธุรกิจการเมืองกลุ่ม 16 ผลาญเงินบีบีซี 80,000 ล้านบาท

ล่าสุด พ.ศ.2558 กับผลงานข่าว “แฉขบวนเขมือบงบสร้างสนามฟุตซอล 17 จังหวัด เหนือ อีสาน เสียหาย 689 ล้าน” คว้ารางวัล เปิดโปงขบวนการทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล ในวันนักข่าว “5 มีนาฯ”

นอกจากนี้ บุคลากรของมติชนยังได้รับรางวัล “อิศรา อมันตกุล” ประเภทภาพข่าวยอดเยี่ยม

สำหรับมิติทางด้านช่วยเหลือสังคม มติชนดำเนินโครงการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โบราณคดี ศาลากลางน้ำ วัดศรีโคมคำ กว๊านพะเยา โครงการรณรงค์อนุรักษ์คลองแสนแสบสัมมนาสัญจร เวทีสาธารณะประชาชาติเศรษฐกิจการเมือง (รณรงค์ เลือกตั้ง) โครงการระดมหนังสือเข้าห้องสมุด โครงการระดมทุนซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดพร้อมปัญญา โรงเรียนไอซียู

โครงการจุดประกายปัญญา โครงการตู้อักษรซ่อนปัญญา โครงการร่วมฟื้นฟูประเทศไทย โครงการรณรงค์ฟื้นฟูคลองเปรมประชากร ปลูกป่า บูรณะศาลาการเปรียญไม้สักเก่า 150 ปี วัดแก้วไพฑูรย์ บูรณะพระประทานพระอุโบสถวัดพระบรมธาตุ จ.ชัยนาท

ทุกวันนี้โครงการต่างๆ อยู่ภายใต้ร่มเงาของโครงการแบ่งปันความรู้ เชิดชูศาสนา พัฒนาแหล่งน้ำลำคลอง

นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ รองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวในวาระนี้ว่า ในโอกาส ที่หนังสือพิมพ์มติชนและบริษัทมติชน ก้าวสู่ปีที่ 40 คงเน้นที่ตัวหนังสือพิมพ์เป็นหลัก เพราะเป็นสถาบันทางสังคมที่สำคัญ ส่วนตัวแล้วมองว่าบริษัทมติชนเป็นธุรกิจเพื่อสังคม

“หนังสือพิมพ์มติชนไม่เพียงเป็นหนังสือพิมพ์รายวันที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ยังมีการนำเสนอบทความ บทวิพากษ์วิจารณ์ ความคิดเห็น การเสนอแนะ การท้วงติงต่างๆ เปิดเผยข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เผยเบื้องหลังเบื้องลึกของเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นบทบาทของหนังสือพิมพ์มติชนที่โดดเด่นมาถึงปัจจุบัน”

รองประธานกรรมการ มติชน ยังบอกอีกว่า ภายใต้บทบาทนี้ “มติชน” มิใช่เพียงหนังสือพิมพ์ แต่เป็นสถาบันทางสังคม สถาบันสาธารณะ สถาบันทางปัญญา เป็นแสงสว่างให้แก่สังคม นอกจากเป็นที่พึ่งพิงให้คนที่เดือดร้อน เป็นที่ระบายออก ของความไม่ถูกต้อง ความเหลื่อมล้ำในสังคม ความพิกลพิการในสังคม ก็ยังเป็นสถาบันที่สะท้อนความคิดความอ่าน เป็นเวทีทางปัญญาเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกและทางออกในการแก้ไขปัญหาของสังคม

จุดที่โดดเด่นของมติชน คือ บุคลากรที่ได้รับฝึกฝน ได้รับการหล่อหลอมและสืบทอดกันมาตลอด 40 ปี บุคลากรมติชนได้รับการหล่อหลอมมาให้เป็นคนตั้งคำถามตลอดเวลา สงสัยตลอดเวลาว่าความจริงนั้นมีเบื้องหน้า เบื้องหลังอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นหรือไม่ ผลจากการหล่อหลอมดังกล่าว ก็สามารถสัมผัสได้จากงาน

“ทั้งหมดนี้เป็นความภูมิใจที่สถาบันแห่งนี้ดำเนินมาตลอด แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในแง่เทคโนโลยี การสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปจากสิ่งพิมพ์เป็นสื่อดิจิตอล สื่อออนไลน์ สื่อใหม่ต่างๆ

แต่สิ่งที่เป็นสาระหรือใจความสำคัญคือเนื้อหาสาระ” รองประธานกรรมการ มติชนกล่าวย้ำ

ส่วนการเติบโตและฝ่าฟันอุปสรรคของหนังสือพิมพ์มมติชนนั้น นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน เล่าว่า ก้าวที่ 40 ของมติชน มีความเป็นมามากกว่า 40 ปี จาก”ประชาชาติรายวัน” ยุคหลัง 14 ตุลาฯ 2516 กระทั่งมาถูกปิดจากการรัฐประหาร 6 ตุลาฯ 2519 มาเป็น “เข็มทิศธุรกิจ” ในปี 2520 ได้ฟังรุ่นพี่ๆ ทั้งคุณขรรค์ชัย บุนปาน, คุณเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ คุณอารักษ์ คคะนาท เล่าว่า กว่าจะเปิดมติชน ได้ ต้องฝ่าฟันกันมามาก

มติชนประเดิมแผงวันแรกในยุคพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี

บรรณาธิการคนแรกคือคุณขรรค์ชัย แม้เป็นหนังสือพิมพ์แนวฮาร์ดนิวส์ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ แต่มติชนมีบุคลิกพิเศษคือมีอารมณ์ขัน มีนักเขียน กวี นักวิชาการได้ใช้พื้นที่ มติชนเติบโตมาแบบนี้ ก่อนจะย้ายสำนักงานและโรงพิมพ์จากข้างวัดราชบพิธมาปักหลักที่ประชานิเวศน์ 1


“หน้าตาหนังสือปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยี เนื้อหาเพิ่มความครบครันมากขึ้น จากกองบรรณาธิการเล็กๆ นั่งเบียดๆ กันมีนักข่าวไม่กี่คน วิ่งกันคนละหลายๆ สาย ก็มีนักข่าวมากขึ้นทั้งส่วนกลาง และภูมิภาค มีการปรับระบบโต๊ะข่าวเพื่อรองรับงานที่หลากหลาย มีหัวหน้าข่าวดูแล แต่มติชนยังคงเน้นความลึก แม่นยำของเนื้อหาไว้เท่าที่ความเป็นสื่อรายวันเอื้ออำนวย”

บรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน กล่าวถึงการปรับตัวของสื่อในยุคออนไลน์ว่า ล่าสุดมีมติชนออนไลน์ถือเป็นทิศทางใหม่ๆ มีผู้อ่านมหาศาล ต้องใช้ข่าวและภาพมากขึ้น จังหวะในการนำเสนอเปลี่ยนไป ถือว่าช่วง 1-2 ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด เหมือนเริ่มเดินทางใหม่กันอีกครั้ง และเรายังมีความหวังว่า ผู้อ่านจะเชื่อถือและสนับสนุนเรา

“ความภูมิใจของเรามีง่ายๆ ว่า ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ทุกวัน ในทุกสถานการณ์ จะบีบรัดจำกัดอย่างไรก็ต้องเอาหนังสือพิมพ์ออกไปสู่คนอ่าน นำข่าวไปสู่คนอ่านให้ได้ แล้ว รอคอยให้ผู้อ่านเป็นผู้ตัดสิน”

เมื่อหนังสือพิมพ์มติชนยืนหยัดมาได้ถึง 40 ปี ถ้าเป็นอายุขัยคนถือว่าอยู่ในวัยผู้ใหญ่เต็มตัว ย่อมมีวุฒิภาวะเพื่อเผชิญแรง เสียดทาน โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองอันหนักหน่วง

นายวรศักดิ์ทิ้งท้ายว่า ข่าวสาร ข้อมูล ข้อเท็จจริง และความคิดเห็นที่เสนอโดยสื่อ มีผลกระทบในตัวเองอยู่แล้ว ในสภาพที่มีความขัดแย้งสูง ผลกระทบยิ่งมาก ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้ ที่มากกว่าการแสดงความไม่พอใจ ทั้งการกล่าวร้ายหรืออื่นๆ บางครั้งบางเรื่องน่าตกใจ แต่หลักคิดของมติชนคือต้องเข้าใจที่มา ที่ไปอยู่กับข้อเท็จจริง ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึก

ภาพสะท้อนที่ยืนยันความเป็นมติชนทั้งหมดอาจดูได้จากประติมากรรมนักรบขี่ม้าถือทวน ออกแบบโดย ช่วง มูลพินิจ ตั้งตระหง่านอยู่หน้าอาคารมติชน พร้อมบทกวีของขรรค์ชัย บุนปาน ที่จารึกไว้ว่า

มติ ต้องถูกต้อง โดยธรรม

ชน กับคนก่อกรรม ชั่วร้าย

ประชา ต่างธงนำ เรามุ่ง

ชาติ นพคุณถ่อยป้าย เปรอะขึ้นเงาเสมอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน