ตำนานซามูไรตาสีฟ้า ผู้กล้าแดนอาทิตย์อุทัย

Nioh คือเกมที่ต้องเผชิญกับการเวียนว่ายตายเกิดระหว่างการพัฒนานานหลายปี ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเป็นเพียงบทหนังที่ยังทำไม่เสร็จของผู้กำกับในตำนาน อะกิระ คุโรซาวะ ผ่านการดัดแปลงบท เพื่อเป็นเกม RPG แบบดั้งเดิม จนโครงการพับไป และมีผู้กำกับเปลี่ยนมือเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เกมที่อาศัยเวลาพัฒนายาวนานเกินกว่า 8 ปี และมีการเปลี่ยน Concept ของเกมไปมา ความเสี่ยงที่จะล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์ย่อมเยอะขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยน รสนิยมคนเปลี่ยน เกมส่วนใหญ่มักมีชะตากรรมที่จบไม่สวยนัก มีเพียงหยิบมือที่จะประสบความสำเร็จ

แต่หลังจากผมใช้เวลากว่า 40 ชั่วโมงกับ Nioh ผมแน่ใจว่าผมได้เจอเกมที่ทำลายคำสาปนี้ลงได้อีกเกมแล้ว

เนื้อเรื่อง


หากใครคิดว่าจะได้เจอกับวิธีการเล่าเรื่องแบบซีรีส์ Soul ที่ไม่เน้นการเล่าเรื่องตรงๆ แต่อาศัยการประกอบจิ๊กซอว์ข้อมูลและการตีความทีละเล็กละน้อย ขอบอกเลยว่า Nioh จะไม่ใช้เทคนิคแบบนั้น เกมจะเน้นการเล่าเรื่องแบบเส้นตรง Mission ต่อ Mission ให้ผู้เล่นสามารถติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนเกมทั่วไป พระเอก William ของเรามีเป้าหมายหลักเพียงอย่างเดียวคือการตามหาและนำภูติพิทักษ์ของเขากลับคืนมา แต่เรื่องราวที่ดูธรรมดากลับดูน่าสนใจเรียกยอดไลค์เป็นพิเศษ เมื่อมันดำเนินเรื่องในบริบทประวัติศาสตร์จริงช่วงเซ็นโกคุของญี่ปุ่นและแต่งเติมองค์ประกอบแฟนตาซีด้วยผี Yokai

ตลอดทั้งเกมเราจะได้กระทบไหล่คนมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงเซ็นโกคุมากมาย ทั้งฮัตโตริ ฮันโซ, อิเอยะสึ, มิตสุนาริ, โนบุนากะ แม้แต่ตัวเอกของเกมชื่อ Geralt เอ้ย William ก็เป็นบุคคลในฐานะชาวตะวันตกคนแรกที่รอดชีวิตไปถึงญี่ปุ่นและดำรงตนเป็นซามูไรฝรั่งคนแรกๆ เกมไม่ได้ใช้ตัวละครเหล่านี้ขับเคลื่อนเรื่องราวเท่านั้น แต่ยังใช้นำเสนอมุมมองของสิ่งที่เป็นแก่นเรื่องของเกมคือ สงครามกับสันติภาพ วัฏจักรของความเป็นความตาย ซึ่งแต่ละตัวละครก็จะมีมุมมองแตกต่างกันไปจนถึงการตั้งคำถามกับความเชื่อดั้งเดิม เช่น ขนบของซามูไรที่เน้นปกป้องเกียรติยศยิ่งกว่าชีวิต

เรายังสามารถมอง Yokai และ ภูติพิทักษ์ประจำตัว ในเกมเป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ เหล่าภูติพิทักษ์ประจำตัวอาจเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกลักษณะประจำตัวคนๆ นั้น ส่วนเหล่า Yokai ก็เปรียบเสมือนความพยาบาท โกรธแค้น ของคน ที่อาละวาดและทรงพลังเมื่อบ้านเมืองลุกเป็นไฟจากสงคราม การเข้ามากำจัดเหล่า Yokai ของ William ก็เหมือนการเข้ามาช่วยสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในญี่ปุ่น

น่าเสียดายที่ว่าการคลี่คลายของเหตุการณ์ในเกมตอนท้ายเรื่องมันให้อารมณ์ “อ้าว เฮ้ย” ไปหน่อย คือบทจะลงก็ลงง่ายๆ แต่โดยภาพรวมแล้ว ส่วนของเนื้อเรื่องยังสามารถพัฒนาเป็นภาคต่อได้อีกยาว และก็ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่เรื่องราวในญี่ปุ่นด้วย

เกมเพลย์


คำถามที่มีคนถามขึ้นมาตั้งแต่วันแรกๆ ที่ Nioh เริ่มการโปรโมตเลยก็คือ นี่จะเป็นเกมแฝดของ Dark Soul รึเปล่า? ซึ่งหลังจากใช้เวลากว่า 40 ชั่วโมง กับเกมนี้ ผมขอตอบว่า Nioh มีการหยิบยืมหลายสิ่งหลายอย่างของซีรีส์ Soul มาจริง เช่น ระดับความยากของเกม การกำหนดเส้นทางจากจุด Check Point ไปถึงบอส ระบบ Reset คืนชีพศัตรู แต่ที่เราจะเห็นอีกอย่างคือความพยายามของทีมพัฒนาที่จะสร้างความเป็นตัวของตัวเองให้กับ Gameplay ของ Nioh ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีมากพอที่จะไม่ได้ทำให้มันกลายเป็นแค่ผู้เดินตามหลังซีรีส์ Soul เท่านั้น แต่ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งคนสำคัญได้อย่างเต็มภาคภูมิ

อย่างแรก คือระบบ Ki Pulse ที่เกมใส่เข้ามา อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกสับสนในช่วงแรกที่ใช้ แต่เมื่อคุ้นเคยกับระบบดีแล้ว คุณจะสามารถนำ Ki Pulse ไปพลิกแพลงในการต่อสู้ได้มากมาย ทั้งการจัดท่า การสลาย Yokai Realm หรือการเพิ่มพลังให้อาวุธหลายชนิด ทุกอย่างมี Ki Pulse เป็นหัวใจสำคัญทั้งนั้น

ระบบอาวุธ จะมีให้เลือกหลักๆ 5 ชนิด แต่ละชนิดก็มีการจัดท่า Stance และ Skill Tree ของมันเองที่จะต้องเรียนรู้ แต่เอาเข้าจริงผมเชื่อว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะใช้อาวุธที่ถนัดๆ ชิ้นเดียวเคลียร์เกมจนจบนั่นแหละ แถมบางคนยังอาจใช้แค่ Stance เพียง Stance เดียวด้วย (ไม่ต้องมองที่ไหนไกล ตัวผู้เขียนเองนั่นแหละ) รวมถึงอาวุธเสริมอย่างปืน ธนู พร้อมกับคาถานินจาและเวทมนต์อีกจำนวนมาก ซึ่งเกมไม่ได้ใส่ของพวกนี้เข้ามาแค่เอาจำนวนเยอะเข้าว่า เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับระบบต่อสู้ในเกมสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเล่นได้จริงๆ ทั้งคาถานินจาที่ช่วยการเล่นแบบลอบเร้น เวทมนต์ก็สามารถเอามาปรับใช้ให้คุณได้เปรียบในการต่อสู้หรือจะใช้เวทมนต์เป็นอาวุธหลักอย่างหนึ่งของคุณก็ได้ ทั้งหมดมันก็คือทางเลือกที่สามารถเพิ่มคุณค่าของการกลับมาเล่นซ้ำได้เรื่อยๆ ยิ่งเกมใช้ระบบ Mission ทำให้คุณสามารถกลับมาทดลองอะไรใหม่ซ้ำๆ ได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ที่ประทับใจผมที่สุดคงหนีไม่พ้นระบบภูติพิทักษ์ประจำตัว เพราะไม่ว่าจะเลือกใช้ตัวไหนมันก็ดูเท่ห์จริงๆ และเป็นอาวุธประเภทวิญญาณที่สร้างความได้เปรียบให้กับเรามหาศาล หลายตัวมีความสามารถพิเศษแฝงมาด้วย เช่น การตรวจจับศัตรู การฟื้นพลังชีวิตอัตโนมัติเมื่อใกล้ตาย โดยเฉพาะเมื่อมีการอัญเชิญให้เข้าสิงในอาวุธแล้ว ยังทำให้เรามีท่าพิเศษที่บางครั้งก็ป่นบอสเป็นผงได้ง่ายๆ ด้วย

ตัวละครของคุณจะยิ่งมีความสามารถหลากหลายและดีขึ้นเมื่อคุณดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อที่จะกดเลือก Main Mission เพราะยิ่งคุณดำเนินเนื้อเรื่องหลักไปมากเท่าไร คุณก็ยิ่งปลดล็อกความสามารถของ William ทั้งเวทมนต์ คาถานินจา ภูติพิทักษ์ประจำตัว และทักษะอาวุธระดับสูงได้มากเท่านั้น

นอกเหนือจากระบบต่อสู้แล้ว เกมยังมี Sub Mission และ Twilight Mission สำหรับคนที่ต้องการค้นหาความลับต่างๆ ของเกม ซึ่งรวมๆ แล้ว คงจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 100 ชั่วโมง แน่นอน

การออกแบบ

ในแง่การออกแบบตัวละครก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย ต่อให้ไปส่องกล้องมาจากดาวอังคารก็รู้เลยว่านี่เป็นฝีมือ Team Ninja แน่ๆ เพราะตัวละครหญิงทรวดทรงองค์เอวมาเต็มแบบมี 10 ให้ล้าน ทุกคน ย้ำว่า ทุกคน

การออกแบบฉากถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ถึงสภาพแวดล้อม เช่น สิ่งของ อาคาร ต่างๆ จะดูซ้ำไปซ้ำมา โดยเฉพาะห้องบอส ผมจำได้ว่ามีไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแน่ๆ ที่เกมจะให้เราต้องเจอบอสที่ห้องบนยอดสุดของปราสาท แต่พอเวลาเล่น Main Mission โดยภาพรวมกลับให้ความรู้สึกว่าแต่ละด่านมีอะไรให้ทำแตกต่างจากด่านก่อนๆ

ที่โดดเด่นมากที่สุดสำหรับผมคงจะหนีไม่พ้นการออกแบบภูติพิทักษ์ประจำตัวที่อิงจากทั้งเทวตำนานญี่ปุ่นหรือแม้กระทั่งตราประจำตระกูล แถมยังดูเหมาะกับบุคลิกของเจ้าของด้วย มันทำให้ผมจินตนาการไปไกลเลยว่าถ้าเกมนี้ได้มีโอกาสทำภาคต่อจริงๆ ผมก็อยากเห็นภูติพิทักษ์ที่มาจากเทวตำนานหรือประวัติศาสตร์ของประเทศในแถบยุโรป อเมริกา หรือที่อื่นๆ บ้าง

ถ้าให้ผมสรุปสั้นๆ ระบบต่อสู้คือเสาหลักที่แข็งแกร่งที่สุดของ Nioh ในขณะที่เนื้อเรื่องก็เป็นส่วนที่ทำให้เกมมีศักยภาพที่จะขยายจักรวาลของมันออกไปได้เรื่อยๆ ทั้งสองอย่างคือสิ่งที่ช่วยให้ Nioh ได้เป็นตัวของมันเอง Nioh ไม่สามารถแทนที่ซีรีส์ Soul ได้ แต่มันถูกสร้างมาเป็นทางเลือกอย่างแท้จริงสำหรับคนที่อาจไม่ถูกจริตกับวิธีการเล่าเรื่องบางอย่างของซีรีส์ Soul แต่ก็ยังต้องการเกมที่มีเนื้อเรื่องดี ชอบการเล่นเกมยากๆ แต่ให้ผลตอบแทนคุ้ม ถ้าให้เปรียบเทียบแล้ว ซีรีส์ Soul ก็เป็นเหมือนฝรั่งในชุดเกราะอัศวิน ในขณะที่ Nioh คือฝรั่งในชุดเกราะซามูไร ทั้งสองมีฝีมือร้ายกาจด้วยกันทั้งคู่ และมีความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่มีใครแทนที่ใครได้

คะแนน 4 ⁄ 5

โดย [Reviewer Ocelot] เว็บ Thaigamewiki

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน