‘ฮีตสโตรก’ภัยร้าย ในสภาพอากาศร้อน

‘ฮีตสโตรก’ภัยร้าย – แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.นี้

แต่สภาพอากาศในเขตเมืองยังคงร้อนระอุจากแสงแดด ทำให้คนจำนวนมากเริ่มบ่นกันถึงความร้อนที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด และในความร้อนนี่เองอาจทำให้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถึงแม้จะไม่ค่อยมีคนพูดถึงนักแต่โรคนี้ซ่อนตัวอยู่ คือ โรคลมแดด หรือที่เราเรียกอีกอย่างว่า ‘ฮีตสโตรก’

‘ฮีตสโตรก’ เป็นภาวะวิกฤตของร่างกายที่ไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป และไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ทันท่วงที เกิดได้จากการออกกำลังหรือเล่นกีฬาในภาวะอากาศร้อนจัด หรืออยู่กลางแดดร้อนเป็นเวลานาน สามารถเกิดขึ้นได้แม้กับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง

นพ.พีรยุทธ พันธุวดีธร

นพ.พีรยุทธ พันธุวดีธร อายุรแพทย์ คลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า สำหรับผู้ที่เสี่ยงเป็นฮีตสโตรก จะมีอาการ คือ ผิวหนังแห้ง ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีเหงื่อออก เพ้อ หรือหมดสติ ระดับความรู้สึกตัวลดลง ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดลดลง กระสับกระส่าย การทำงานของอวัยวะต่างๆ ล้มเหลว วิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน กระหายน้ำมาก หายใจเร็ว เป็นต้น ซึ่งถ้าหากพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติควรรีบมาพบแพทย์ เพื่อแพทย์ตรวจวินิจฉัยประเมินอาการ ก่อนที่จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

ส่วนการป้องกันการเสี่ยงเป็นฮีตสโตรก หรือ โรคลมแดด สามารถป้องกันได้โดย ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตรต่อวัน สวมใส่เสื้อผ้าเบา บาง มีสีอ่อน และระบายความร้อนได้ดี ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดด ที่มีค่า SPF15 ขึ้นไป หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด ในวันที่อากาศร้อนจัด หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาลดน้ำมูกไม่ง่วง ยาคัดจมูก ก่อนการออกกำลังกาย หรือการอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน ในเด็กเล็ก และคนชราควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี อย่าปล่อยให้เด็ก หรือคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง หากออกกำลังกายอยู่แล้วรู้สึกอ่อนเพลียควรหยุด

ถ้าพบผู้ป่วยที่อาจเกิดหมดสติหรือเกิดเหตุการณ์จากโรคลมแดด สามารถเข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้

โดยนำผู้ป่วยเข้าที่ร่มในบริเวณที่อากาศเย็นหรืออากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ควรคลายเสื้อผ้าให้หลวม เพื่อให้ร่างกายระบายความร้อนได้เร็วขึ้น ใช้ผ้าชุบน้ำอุณหภูมิปกติ แล้วเช็ดตัว ซอกรักแร้ คอ ขาหนีบ และหน้าผาก โดยเช็ดย้อนรูขุมขนเพื่อระบายความร้อน ใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน หรือพัดแรงๆ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด

หากยังไม่ฟื้นควรรีบโทร.เรียกรถพยาบาล เพื่อทำการรักษาได้ทันท่วงที

สำหรับคลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว ให้บริการรักษาโรคทางอายุรกรรม โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านอายุรศาสตร์ทั่วไป และอายุรศาสตร์เฉพาะทางสาขาต่างๆ พร้อมด้วย ศูนย์เบาหวาน ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างครบวงจร