อ่านข้อคิด-ประสบการณ์

เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว

อ่านข้อคิด-ประสบการณ์เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว – การร่วมงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 24 ของสำนักพิมพ์มติชนปีนี้คึกคักเป็นพิเศษ

เมื่อร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) จัดงานเปิดตัวหนังสือแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทอล์ก “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” เชิญ ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ขึ้นเวทีพูดคุย ตอบคำถาม สรกล อดุลยานนท์ เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ผู้ดำเนินรายการ ที่ห้องเดอะ พอร์ทัล บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

อ่านข้อคิด-ประสบการณ์เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว

ในงานเปิดตัวหนังสือมีกิจกรรมพิเศษ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว Exclusive Talk” มีผู้บริหาร บมจ.มติชน ครอบครัว เจียรวนนท์ ผู้บริหารในเครือ ซี.พี. และนักธุรกิจคนดังหลายคนเข้าร่วมแสดงความยินดี มีผู้เข้าร่วมฟังเอ็กซ์คลูซีฟทอล์กครั้งนี้เต็มความจุห้องเป็นจำนวนกว่า 800 คน

เจ้าสัวธนินท์กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ว่า ใช้เวลาเขียนนานถึง 8 ปี เพราะว่าต้องพยายามทบทวนดูว่าในระหว่างที่เขียนหนังสืออยู่นั้นมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ มีกรณีศึกษาอะไรใหม่ๆ ที่จะเขียนออกไปแล้วเป็นประโยชน์กับคนอ่านมากกว่าที่เขียนไปแล้วหรือไม่ ส่วนเหตุผลที่เขียนหนังสือบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเอง เพราะมองเห็นว่าการสร้างความสำเร็จของซี.พี.จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน

อ่านข้อคิด-ประสบการณ์เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว

ส่วนเหตุผลที่เลือกบอกเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในรูปแบบหนังสือ เพราะหนังสือเป็นสื่อเก็บเป็นที่ระลึกได้ ถ้าทำเป็นวิดีโอ บางทีไฟล์อาจหายไปได้ แต่หนังสือเก็บไว้ได้หลายรูปแบบมากกว่า และโดยส่วนตัวมองว่า ยังมองไม่เห็นว่าหนังสือจะหมดไป

สำหรับชื่อหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” มาจากหลักคิดและการปฏิบัติตนว่า “ในชีวิตผมไม่เคยฉลองความสำเร็จอะไร เพราะผมรู้ว่า พอสำเร็จแล้วมันจะตามมาด้วยปัญหา ยิ่งสำเร็จใหญ่ปัญหาก็ยิ่งจะใหญ่ เราต้องเตรียมตัวแก้ปัญหา ฉะนั้นผมดีใจแค่วันเดียว ทุกวันต้องศึกษาว่าเรามีอะไร ต้องเปลี่ยนแปลงไหม เราอย่าไปอิจฉาใคร เราต้องดูตัวเอง สร้างตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเอง”

อ่านข้อคิด-ประสบการณ์เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว

ความล้มเหลวก็เช่นกัน ไม่ควรกลุ้มใจเกินหนึ่งวัน เพราะเมื่อความล้มเหลวเกิดขึ้นแล้ว จะมัวกลุ้มใจก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ควรคิดว่า ไม่มีใครทำสำเร็จทุกเรื่อง หากล้มเหลวแล้วควรกลุ้มใจแค่วันเดียว จากนั้นคิดทบทวนว่าล้มเหลวเพราะอะไร เพื่อเป็นกรณีศึกษาไม่ให้ล้มเหลวอีกครั้ง

อย่างเจ้าสัวในชีวิตก็เจอความล้มเหลวมาแล้ว ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง (ปี 2540-2541) ทำเอามืดแปดด้าน บริษัทที่มีหนี้สินต่างประเทศล้มไปเลย เช่นเดียวกับธุรกิจซี.พี. พี่น้องทั้งหมด 4 คนเริ่มเป็นห่วงและหาทางออก โดยตนสัญญาว่าจะคงธุรกิจเดิมเอาไว้ และขายธุรกิจใหม่ในขณะนั้น คือทรู แม็คโคร โลตัส และเซเว่นอีเลฟเว่น แต่มีคนซื้อไปเพียง 2 ธุรกิจเท่านั้น คือโลตัส และแม็คโคร อย่างอื่นไม่มีคนซื้อ ถ้าตอนนั้นขายทรูไปก็จบ ธุรกิจรอดหมด และยังมีธุรกิจที่คาดเดายากนั่นคือเคเบิลใต้น้ำ ที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ก็ล้มเหลว เพราะมีระบบโทร.ฟรีผ่านอินเตอร์เน็ต เกิดขึ้น

“ผมเหนื่อยมากและธนาคารก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ จึงให้นายศุภชัยเข้ามา ดูแลทรู จนตอนนี้เป็นธุรกิจที่มีโอกาส วิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ว่าอย่าหยุดนิ่ง ทั้งตอนรุ่งเรือง ต้องหาทางรับมือ หากธุรกิจนั่นล้มและตอนที่ล้มต้องหาทางรับมือ เพื่อกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ทุกอย่างมีล้มและพลาดได้”

“ที่สำคัญอย่าตาย ตอนวิกฤตแย่ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าตาย ครับ อย่าตาย ต้องเอาชีวิตไว้ เอาชีวิตรอดให้ได้ แล้วเราจึงจะมีโอกาสคืน เป็นประสบการณ์ความรู้แล้ว เสียค่าเล่าเรียนแล้ว ถ้าตายไปก็ไม่มีอะไร เอาคืนไม่ได้แล้ว หมดโอกาสแล้ว วิกฤตก็ตามมาด้วยโอกาส โอกาสก็จะตามมาด้วยวิกฤต อันนี้คู่กันนะครับ” เจ้าสัวธนินท์กล่าวให้แง่คิด

ส่วนใครต้องการอ่านแง่คิดอื่นๆ จากนักธุรกิจผู้ผ่านมาทั้งความล้มเหลวและความสำเร็จ (ที่ไม่เคยฉลอง) แนะนำให้อ่านหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้ วันเดียว” ซื้อได้ในงานมหกรรมหนังสือ จัดถึงวัน 13 ตุลาคมนี้ ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี เวลา 10.00-21.00 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน