เด็ก‘เดิ่นดอนยิ้ม’ชวนชิมขนมหูช้าง
คอลัมน์ สดจากเยาวชน
เด็ก‘เดิ่นดอนยิ้ม’ – องค์การบริหารส่วนตำบลดอน (อบต.ดอน) อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนอย่างสร้างสรรค์ ผ่านการค้นหาอัตลักษณ์ท้องถิ่น จัดทำโครงการ “เดิ่นดอนยิ้ม” โดยการสนับสนุนของสำนักสร้างสรรค์โอกาส สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมี “กลุ่มไม้ขีดไฟ” เป็นพี่เลี้ยง
คำว่า “เดิ่น” ภาษาท้องถิ่นหมายถึงลานกว้าง ในปีแรกดำเนินกิจกรรมรณรงค์เรื่องขยะในหมู่บ้าน สื่อสารให้ชุมชนช่วยกันรักษาความสะอาดและทำกิจกรรมต่างๆ มาอย่าง ต่อเนื่อง จนนำมาสู่การค้นหา
“ขนมหูช้าง” ขนมโบราณ นำมาสร้าง อัตลักษณ์ให้คนภายนอกรู้จักชุมชนแห่งนี้ มากขึ้น
ขนมหูช้าง ขนมโบราณของคนตำบลดอน ลักษณะเป็นแผ่นแป้งกลมๆ ทำจากแป้งข้าวเหนียวนำไปนวดคลึงให้แบนบางกลมแล้ว นำไปต้มด้วยน้ำร้อน ผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาทอดด้วยน้ำมัน เวลารับประทานจะโรยด้วยน้ำตาลอ้อย
ในหนึ่งปีจะทำกันเพียงครั้งเดียวเพื่อนำไปตกแต่งกัณฑ์เทศน์ถวายพระในงานเทศน์มหาชาติ แต่ปัจจุบันเด็กและเยาวชนตำบลดอนที่มาร่วมกิจกรรมกับสภาเด็กและเยาวชนฯ ต่างรู้จักและสามารถทำขนมชนิดนี้กินได้เองตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องรอให้มีเทศกาลเทศน์มหาชาติ
ศิริกานต์ วงศ์ไตรรัตนกุล หนึ่งในแกนนำสภาเด็กและเยาวชนตำบลดอน เล่าว่าเข้ามาร่วมกิจกรรมเมื่อตอนอายุ 9-10 ขวบ พ่อซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านแนะนำให้มาร่วมกิจกรรมแบบไม่เต็มใจนัก แต่เมื่อมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ พบว่ามีกิจกรรมน่าสนใจหลากหลายและยังใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
เมื่อร่วมกิจกรรมบ่อยครั้งเข้าก็พัฒนาตนเองกลายเป็นแกนนำเยาวชน วางแผนร่วมกันทำกิจกรรม “เดิ่นดอนยิ้ม” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ร่วมกันสำรวจชุมชน 12 หมู่บ้านในตำบลดอนเพื่อค้นหาของดีท้องถิ่น ทำแผนที่ชุมชนจนได้ข้อสรุปเลือกขนมหูช้างของดีในท้องถิ่นเป็นเครื่องมือต่อยอดกิจกรรม
เราไปสำรวจชุมชนแต่ละชุมชน เรารู้แล้วว่าแต่ละชุมชนมีของดีอะไรบ้าง แต่ละหมู่บ้านมีอาหาร มีภูมิปัญญาอะไร ให้แต่ละหมู่บ้านมาแนะนำเสนอกันมา แลกเปลี่ยนเรียนรู้และมาจบที่ขนมหูช้าง เพราะเรารู้สึกว่าขนมนี้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเลย
จึงไปค้นหาคำตอบพบว่ามีแค่เฉพาะอำเภอปักธงชัยและอำเภอครบุรี ก็เลยฝึกทำ มีผู้รู้มาสอน และยังนำไปเผยแพร่นอกหมู่บ้าน เช่น ในตัวเมืองโคราช เคยนำไปให้คนจังหวัดเพชรบุรีชิมด้วย ทุกคนบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ภูมิใจมากที่บ้านเราก็มีของดี การได้ทำกิจกรรมทำให้มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และยังทำประโยชน์ให้ชุมชนบ้านเกิด
ขณะที่ กมลพรรณ โคตรจังหรีด กรรมการสภาเด็กและเยาวชน มาเข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่ชั้นป.6 จนปัจจุบันอยู่ชั้นมัธยม ร่วมกับเพื่อนๆ ใช้เวลาวันหยุดลงสำรวจชุมชนและจะขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างสรรค์สืบต่อรุ่นพี่ที่ ต้องออกไปเรียนในระดับอุดมศึกษา
“ปกติหนูไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้ม พอมาเข้าร่วมกิจกรรมพี่ๆ ชวนพูดคุย ทำให้มีความมั่นใจพูดคุยมากขึ้น เวลานำเสนองานหน้าชั้นเรียนก็กล้านำคนอื่นได้ พอได้มาเดินสำรวจหมู่บ้าน แต่ละที่จะมีอาหารของแต่ละหมู่บ้านให้ไปชิม ได้รู้ว่ามีอะไรบ้าง ปกติหนูอยู่บ้านไม่รู้เลยว่าหมู่บ้านตัวเองมีอะไรบ้าง”
ด้าน จักรพงษ์ เปียนรัมย์ รองประธานสภา อบต.ดอน เผยว่าเป้าหมายหลักของเราอยากให้ชุมชนมีสุขสภาวะและอยู่อย่างพอเพียง โดยเราสนับสนุนเด็กๆ เต็มที่ เพื่อสืบสานและต่อยอดการทำงานต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ ใครเข้ามาหมู่บ้านนี้จะได้รู้ว่าขนมหูช้างอยู่ในหมู่บ้านนี้ หรือต่อไปอาจนำภูมิปัญญาจากปราชญ์ชาวบ้านมาต่อยอดในเชิงธุรกิจเล็กๆ เพื่อสร้างรายได้เป็นกองทุนของสภาเด็กเพื่อนำไปทำกิจกรรมอื่นๆ
“ปัจจัยที่ทำให้การดำเนินงานด้านเยาวชนของตำบลดอนประสบผลสำเร็จเกิดขึ้นเพราะการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน รวมไปถึงผู้นำชุมชนในหมู่บ้าน ผ่านการพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้เด็กๆ ให้ทักษะด้านต่างๆ มีการทำงานเป็นทีมที่ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วม
โดยมีสื่อคือขนมหูช้างซึ่งเป็นภูมิปัญญาในท้องถิ่นเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือทั้ง 3 ส่วนในชุมชนให้เกิดขึ้นและประสบผลสำเร็จ” ศุภากร แก้วทองคำ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ อบต.ดอน ระบุ
วันนี้ “ขนมหูช้าง” จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ขนมกินเล่นในเทศกาลประเพณี แต่กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการผสานความร่วมมือของทุกคนในตำบลดอนเพื่อขับเคลื่อนชุมชนแห่งนี้ไปสู่การมีสุขภาวะอย่างพอเพียง