อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน

อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน – ส่งท้ายปลายปีกับกิจกรรมของ สำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ว่าด้วยเรื่อง

“การแบ่งปัน” ที่มักนำมาซึ่งความสุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับเสมอ ยิ่งในสภาพสังคมที่ต่างคนต่างเร่งรีบใช้ชีวิตด้วยแล้ว การแบ่งปันเป็นสิ่งที่โอบอุ้มสังคมเป็นอย่างดี เพราะจะทำเราหยุดหันมอง เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันมากขึ้น ทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น

อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน

การแสดงกู่เจิ้งโดยพญ.วรวรรณ วิสูตรานุกูล

สสส. ร่วมกับสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลนิธิเครือข่ายพุทธิกา และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “ฉลาดทำบุญ วิถีสร้างสุข : ปันกันสุข” เพื่อสื่อสารกับสังคม เปลี่ยนแนวคิดเรื่องการทำบุญด้วยการสละวัตถุทรัพย์สิน เป็นการพัฒนาจิตให้เกิดการเจริญงอกงามในใจบุคคล พร้อมเชื่อมโยงมิติทางสังคมด้วยกิจกรรมอาสาต่างๆ เมื่อ 19 ธ.ค.2562 ที่สวนหย่อมหน้าอาคารวิจัยประสาท 9 (ตึก ภปร.) สถาบันประสาทวิทยา

ภายในงานจัดแสดงผลงานศิลปะของน้องๆ จากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การจัดแสดงดนตรีกู่เจิ้ง และโซนชิมอาหารจากผู้เข้าร่วมโครงการ กิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนร่วม “ปันกันสุข”

อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน

ผลงานศิลปะของนักศึกษาคณะมัณฑนศิลป์

น.ส.พรทิพย์ ฝนหว่านไฟ หัวหน้าโครงการ “ฉลาดทำบุญวิถีสร้างสุขภาวะของสังคม” กล่าวถึงการจัดงาน “ฉลาดทำบุญ วิถีสร้างสุข : ปันกันสุข” ว่า เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ “ฉลาดทำบุญวิถีสร้างสุขภาวะของสังคม” จัดขึ้นเพื่อสื่อสารกับสังคม ขยายแนวคิดเรื่องการสร้างสังคมแห่งการให้เชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องบุญในพระพุทธศาสนา ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ เช่น งานจิตอาสาและการแบ่งปัน โดยให้ผู้เข้าร่วมงาน ได้รับรู้แนวคิดการแบ่งปันผ่านร้าน “ปันกันอิ่ม” ผ่านการเสวนาเรื่องเล่าและแรงบันดาลใจ จากผู้ร่วมแบ่งปันความสุขกับสังคมในมิติต่างๆ

“การแสดงกู่เจิ้ง-ดนตรีบำบัด จากสำนักบ่มเพาะนวัตกรรมและสารสนเทศ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล พิธีเปิดนิทรรศการศิลปะเพื่อการเยียวยา จากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และตัวอย่างของร้านค้าในโครงการปันกันอิ่มที่มาร่วมกันแบ่งปันความสุข คาดหวังว่างานในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปลุกเร้าพลังแห่งความดี ผ่านกระบวนการจิตอาสา เพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่างการเรียนรู้เรื่องการทำบุญรูปแบบใหม่ๆ ในสังคมไทย อันจะนำไปสู่สังคมแห่งการให้ และแบ่งปันอย่างกว้างขวางในอนาคต” น.ส.พรทิพย์กล่าว

อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน

เสวนาปันกันสุข

ดร.นพ.วุฒิพงษ์ ฐิรโฆไท ประธานคณะทำงานจิตอาสา สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สถาบันประสาทวิทยาร่วมกับ สสส. ทำกิจกรรมปันกันอิ่ม และปันกันนอน เพื่อแบ่งปันอาหารและที่พักให้แก่ผู้ป่วยและญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด พร้อมกับจัดให้มีจิตอาสาอำนวยความสะดวกภายในโรงพยาบาล ระยะต่อมาจึงเกิดกิจกรรม “ปันกันสุข” ด้วยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพุทธิกา ม.ศิลปากร

ม.มหิดล และภาคีเครือข่าย นำศิลปะแขนงต่างๆ มาบำบัดรักษาอาการข้างเคียงของผู้ป่วยทางระบบประสาท อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ฯลฯ

“ในอนาคตเตรียมจะนำ Music Therapy หรือดนตรีบำบัด เข้ามาทดลองพัฒนาฟื้นฟูสมรรถนะผู้ป่วย รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้มีสติต่อสู้กับสภาวะเจ็บป่วยทางร่างกาย เพราะเชื่อว่าการเยียวยาความเจ็บป่วยต้องดูแลเป็นองค์รวม ให้มีสุขภาวะทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และปัญญา โดยเชื่อมั่นว่าตัวนักศึกษาเจ้าของผลงานเองจะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคมด้วย” ดร.นพ.วุฒิพงษ์กล่าว

ขณะที่ ดร.ธนาทร เจียรกุล คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า คณะมัณฑนศิลป์มีความตั้งใจจะร่วมทำบุญกับโครงการนี้ เริ่มด้วยการจัดแสดงผลงานศิลปะการออกแบบจำนวน 51 ชิ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเยียวยา พัฒนาสภาพอารมณ์จิตใจของผู้ป่วยให้ดีขึ้น หลังจากนั้นจึงจะนำกิจกรรมที่ผู้ป่วยและญาติสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการทำได้

อิ่มพลัง‘แบ่งปัน’ สังคมมีความสุขด้วยกัน

นิทรรศการศิลปะเพื่อการเยียวยา

“เนื่องจากผลวิจัยที่ผ่านมาพบว่า ดนตรีสามารถแก้ปัญหาอาการสมาธิสั้นของเด็กออทิสติกได้ จึงเชื่อว่าศิลปะการออกแบบ ทั้งการปั้นเซรามิก การตัดกระดาษ การพับนก ฯลฯ จะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยทางระบบประสาทได้เช่นกัน ที่สำคัญการทำกิจกรรมเช่นนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการมีส่วนร่วม ทักษะการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ฝึกสอนและผู้เรียนได้อีกด้วย” ดร.ธนาทรกล่าว

ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สำนัก 11 สสส. กล่าวว่า สสส.เราดูแลสุขภาพในหลายมิติ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตภายในของคน ซึ่งทั้งหมดรวมแล้วเป็นสุขภาวะทางสังคม และปัจจุบันนี้กระบวนการแชริตี้นั้นยั่งยืนมากกว่าการทำคนเดียว เรามักจะมีคำถามกันว่า หากอยากทำอะไรดีๆ เพื่อสังคมควรเริ่มจากอะไร คำตอบนั้นง่ายมากเช่นงานวันนี้ ที่ใครมีอะไรก็เอามาแบ่งปันกัน เราเปิดร้านอาหารก็นำมาแบ่งกัน น้องๆ วาดรูปก็นำมาแบ่งปันกันชม เพื่อเสพงานศิลป์บำบัดจิตใจ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ที่ตัวเราถนัด เพียงแค่นั้น

ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า “ปันกันสุข” เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิถีฉลาดทำบุญเพื่อสร้างสุขภาวะของสังคม เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคมเห็นโอกาสในการเข้าถึงประสบการณ์ตรง มีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสุขภาวะปัญญา และเกิดสติในการดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาวะ รวมถึงสื่อสารเรื่องการทำบุญตามหลักพุทธศาสนา ที่สามารถให้ได้มากกว่าตัวเงิน แต่เป็นการพัฒนาภายใจและการให้เวลาในการทำดีเพื่อผู้อื่น

“กิจกรรมดังกล่าวยังสอดคล้องกับภารกิจและวิสัยทัศน์ ของแผนระบบสื่อ และวิถีสุขภาวะทางปัญญาของ สสส. ที่ต้องการสนับสนุนให้คนในสังคมพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา นำไปสู่การมีภูมิคุ้มกันความเข้มแข็งและสมดุลในจิตใจ โดยคาดหวังว่าแนวคิดเรื่องการทำบุญจากโครงการนี้จะสามารถขยายผล เพื่อเป็นปัจจัยหนึ่งในการพัฒนาให้เกิดสังคมสุขภาวะ” ดร.นพ.ไพโรจน์กล่าว

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้พูดคุยกับเหล่าตัวแทนร้านค้าที่ร่วมโครงการปันกันอิ่ม ที่จะแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งจากภายในร้านไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ เช่น ร้านปังปันบุญ ที่จะแบ่งรายได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วยอชไอวี ที่วัดพระบาทน้ำพุเป็นประจำทุกเดือน หรือร้าน coffee jar ที่จะนำเงินส่วนที่ลูกค้าบริจาค หรือทางร้านสมทบทุนรายได้ของตัวเพื่อทำเครื่องดื่ม อาหารแจกจ่ายผู้ที่แวะเวียนมาที่ร้าน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นการปันกันสุขที่อุ่นใจทั้งผู้ในและผู้รับเป็นอย่างมาก

หากสังคมเรามีการปันกันแบบไม่สิ้นสุข ก็เท่ากับเราสามารถส่งมวลความสุขไปทั่วสังคมอย่างไม่สิ้นสุขเช่นกัน

ธีรดา ศิริมงคล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน