คอลัมน์ หลอน

นทธี ศศิวิมล

เอกภพต้องเดินทางจากราชบุรีไปที่นครพนม อย่างเร่งด่วนกลางดึกในคืนวันหนึ่ง เนื่องจากน้องสาวโทร.มาบอกว่า แม่มีอาการของโรคหัวใจกำเริบตั้งแต่หัวค่ำ เธอและเพื่อนบ้านเลยรีบพากันไปส่งโรงพยาบาล หมอกับพยาบาลช่วยกันดูแลได้พักใหญ่อาการแม่แย่ลง เลยให้ส่งตัวไปที่ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ตอนนี้อาการแม่ แย่มาก หมอช่วยกันอยู่ในห้องไอซียู น้องสาวบอกให้เอกภพรีบมาด่วนเพราะตอนนี้ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

เอกภพรีบจัดแจงแต่งตัวคว้ากระเป๋าสตางค์ได้ก็ขับรถออกจากบ้านทันที ตั้งใจ จะไปให้ทันดูแลแม่ แม้บางคนจะใช้คำว่าดูใจ แต่เขายังหวังว่าแม่จะมีอาการดีขึ้นได้ แต่ในระหว่างที่ขับรถมาได้ถึงกลางทางนั้นเอง ความหวังของเขาก็ต้องดับลง เมื่อน้องสาวโทร.เข้ามาอีกครั้ง

เอกภพชะลอรถเข้าจอดข้างทาง ภาวนาขอให้เป็นข่าวดี อย่าให้เป็นอย่างที่กังวล แต่ทว่าน้องสาวร้องไห้มาตามสาย และบอกว่าแม่ของเขาเพิ่งจะสิ้นลมไปเมื่อสักครู่นี้เอง ตอนนี้หมอรอให้ญาติจัดการศพ โดยเบื้องต้นจะขนศพไปไว้ที่ห้องดับจิตของโรงพยาบาลก่อน น้องสาวพูดว่า คนรอบข้างกำลังคุยกันเรื่องซื้อโลง เรื่องจองวัด เรื่องฉีดฟอร์มาลิน แต่เธอไม่สามารถตั้งสติคิดอะไรได้เลยตอนนี้เพราะกำลังเสียใจมาก อยากให้เอกภพมาถึงให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงต่อไป

ชายหนุ่มวางสายด้วยจิตใจห่อเหี่ยวเศร้าสลดเสียจนไม่อยากขับรถต่อ แต่เมื่อนึกถึงน้องที่ต้องอยู่กับภาระเรื่องของแม่ตรงหน้า ก็ตั้งใจว่าจะต้องเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดให้กับน้องเป็นอันดับแรกโดยเฉพาะในเวลาที่ไม่มีแม่แล้วแบบนี้ เขาโทร.หาเพื่อนชื่อด้วงที่อยู่ที่นครพนม ขอโทษที่รบกวนกลางดึก แล้วแจ้งข่าวว่าแม่ของเขาเสียชีวิตแล้วและขอความช่วยเหลือด้วงให้ไปอยู่เป็นเพื่อนน้องสาว ช่วยคิดช่วยทำอะไรที่ต้องทำเฉพาะหน้าไปก่อน

สิ่งที่เอกภพลืมคิดไปเสียสนิทคือ ด้วงเพื่อนคนนี้ของเขา แม้จะเป็นคนจิตใจดีที่พึ่งพาอาศัยได้เสมอ แต่ก็มีข้อเสียที่ร้ายแรงอยู่อย่างคือพูดจาโผงผาง ขวานผ่าซาก ปากไม่มีหูรูด ในหลายครั้งจึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกับคนรอบข้าง แล้วก็มักจะดื้อแพ่งไม่ยอมฟังใครเสียด้วย

ดังนั้น อีกสองชั่วโมงต่อมา เอกภพจึงได้รับสายโทรศัพท์จากน้องสาวเขาอีกรอบว่า พี่ด้วงจัดการติดต่อวัดและจองศาลาวัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เป็นวัดที่ใกล้บ้านที่สุด เพราะคนที่มาร่วมงานศพจะได้มากันได้สะดวก ญาติพี่น้องเจ้าภาพก็มาช่วยกันดูแลงานศพของแม่ได้ง่าย และทางร.พ. มีบริการติดต่อกับร้านโลงศพและมีรับจัดดอกไม้หน้าศพพร้อมโต๊ะไหว้แบบครบชุดให้เลือกตอนนี้ทางพี่ด้วงกำลังช่วยเลือกอยู่ เลยให้โทร.มาถามว่ามีงบประมาณจัดงานศพทั้งหมด เท่าไหร่

เอกภพรีบขอสายเพื่อนทันที “ด้วง มึงเลือกให้แม่กูหน่อย เอาแบบที่ดีที่สุดที่เขามี เขามีบริการเสริมเพิ่มอะไรมึงก็ช่วยดูให้ตามความเหมาะสมไม่ต้องห่วงเรื่องงบฯ เดี๋ยวกูจัดการเอง เอาให้ดีที่สุด”

ด้วงสวนมาทันควัน “มึงอย่าพูดซี้ซั้ว รวยมาจากไหน คนรวยเขายังไม่ทำแบบมึง เอาแค่พอฐานะสมเกียรติแม่มึงพอแล้ว มึงรู้ไหมราคาแพงสุดเท่าไหร่ เป็นแสน โลงบ้านพ่อบ้านแม่มัน มีโลงติดแอร์ด้วย ชิบหาย แม่มึงตายห่า ไปแล้วจะเอาไปทำเหี้ยอะไรโลงติดแอร์ จะรู้สึกรู้สาอะไร” ถึงตอนนี้เอกภพได้ยินเสียงน้องร้องไห้โฮออกมาอีกเลยรีบตัดบทเพื่อน

“เออๆ มึงเลือก ให้พอดี ให้ดีอย่างที่ มึงคิด มึงไม่ต้องโวยวาย ไม่ต้องพูดมาก น้องกูตกใจ เสียใจอยู่”

ปรากฏว่าสักพัก น้องสาวโทร.มาร้องไห้สะอึกสะอื้นอีก “พี่เอกพี่ด้วงเขาเลือกชุดงานศพแบบกลางๆ สองหมื่นกว่า แต่พี่เขาบอกว่าแพงเกินไป ของเท่านี้ราคาไม่ควรถึงหมื่น นี่กำลังต่อราคากับร้านอยู่ พี่หนูไม่ไหวแล้วนะ ใครห้ามก็ไม่ฟัง โบราณเขาถือ พี่ด้วงไม่เชื่อเลย”

เอกภพเลยโทร.เข้าไปที่เบอร์เพื่อนอีกที และขอร้องว่าให้ตกลงตามราคาของเขาไม่ต้องต่อ แต่ทว่า

“ราคาบ้านพ่อมันสองหมื่นกว่า ราคานี้ซื้อได้สองโลงเลย” ด้วงยิ่งโกรธขึ้นและวางสายไป

สุดท้ายเอกภพมาถึงนครพนมในตอนสาย ของวันรุ่งขึ้น จ่ายเงินค่าโลงแม่ในราคาที่ด้วง ต่อรองเอาไว้ ถูกลงเกือบครึ่ง หลังจากเคลื่อนย้ายศพของแม่ไปที่วัดแล้ว ก็โทร.ตามหาว่าเพื่อน หายไปไหนแต่ก็ตามไม่ได้

ด้วงหายตัวไปอย่างประหลาดถึงสองวัน จนกระทั่งมีคนพบศพของด้วงและรถมอเตอร์ไซค์ที่จมอยู่ในบึงน้ำข้างทาง คาดเดากันว่าน่าจะประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางกลับบ้านโดยไม่มีใครรู้

เอกภพเศร้าใจและยิ่งรู้สึกผิดเมื่อนึกว่าเพื่อนตายเพราะมาช่วยงานแม่เขา เขาจึงรับเป็นเจ้าภาพงานศพด้วงและมาติดต่อซื้อโลงที่ร้านเดิมแต่ก็ยิ่งสะเทือนใจจนหน้าชาเมื่อเถ้าแก่เจ้าของร้านพูดว่า

“อ๋อ คนที่มาโวยวายต่อราคาโลงวันนั้นใช่ไหม เออ นี่ไง เตรียมไว้ให้แล้ว ราคานี้เท่าราคาที่ลด ให้มันไปวันนั้นแหละไม่คิดเพิ่มหรอกถือว่าทำบุญคนชะตาขาด เชื่อไหมมีมาต่อราคาโลงแบบนี้ กี่ราย ตายโหงเหมือนกันหมด เหมือนจะรีบมา เอาโลงไปใช้เลย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน