‘โรคหลอดเลือดหัวใจ’

หมอแนะ 7 วิธีดูแลสุขภาพ

คอลัมน์ ข่าวสดสุขภาพ

ความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิด ‘โรคหลอดเลือดหัวใจ’ นำมาซึ่งการเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็ง

นพ.ทัศนัย จันโหนง แพทย์อายุรศาสตร์หัวใจ แพทย์ประจำศูนย์อายุรกรรมโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ในอดีตอาจจะเข้าใจว่าโรคหัวใจเกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันโรคหัวใจมีโอกาสเกิดได้แม้แต่กับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดออกมาลืมตาดูโลก หรือแม้แต่คนในวัยอายุ 20 ปีเท่านั้น

รายงานพิเศษ

นพ.ทัศนัย จันโหนง

โรคหลอดเลือดหัวใจ แบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ แบบเรื้อรัง เกิดจากไขมันมาเกาะสะสมอยู่ที่ผนังหลอดเลือดทำให้เยื่อบุผนังหนาขึ้น หลอดเลือดตีบลง ทำให้เลือดนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บหน้าอกในช่วงที่ผู้ป่วย ออกแรงเยอะๆ แต่เมื่อหยุดพักอาการก็จะดีขึ้น และแบบเฉียบพลัน เกิดจากคราบไขมันที่เกาะอยู่ที่ผนังของหลอดเลือดชั้นในนี้ ได้ปริแตกออกและกลายเป็นลิ่มเลือดจนอุดตัน ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน นำไปสู่การเสียชีวิตกะทันหันจากภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง

รายงานพิเศษ

อาการเบื้องต้นที่ส่อเค้าว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จะมีอาการเหนื่อยง่ายเมื่อออกแรง เจ็บแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงเหมือนมีอะไรมากดทับ ปวดร้าวไปที่กราม คอหอย แขนด้านซ้าย สะบักหลัง มีอาการใจสั่น ซีด เหงื่อออกมาก จุกที่บริเวณคอหอย จุกใต้ลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม และอาจหมดสติ

ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ผู้ที่ออก กำลังกายน้อย น้ำหนักเกินมาตรฐาน และผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าผู้หญิง

รายงานพิเศษ

ปัจจุบันการตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง CT Scan 128 Slice นับว่ามีความแม่นยำและปลอดภัยสูง แม้แต่ผู้ป่วยเด็กก็สามารถตรวจได้ ใช้เวลาตรวจไม่นาน ผู้ป่วยได้รับรังสีเอกซเรย์ น้อยลงกว่า 82% แสดงผลตรวจออกมาเป็นภาพ 3 มิติ สามารถดูภาพในระนาบต่างๆ ของหัวใจได้ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น

การรักษาจะเป็นไปตามความรุนแรงของโรค ในระดับที่ไม่รุนแรงมากนัก แพทย์จะรักษาด้วยยา เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด ยาต้านการแข็งตัวของลิ่มเลือด ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ ยาลดไขมัน ยาควบคุมความดันโลหิต เป็นต้น และวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การทำบอลลูนเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ สำหรับผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจอุดตันไปแล้วกว่า 70% แพทย์จะใช้วิธีการทำบายพาสหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจในกรณีที่โรคมีระดับรุนแรงมากและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้แล้ว

รายงานพิเศษ

นพ.ทัศนัยยังกล่าวแนะ 7 วิธีดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง ว่า หมั่นดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงด้วย 7 วิธี ง่ายๆ ได้แก่ 1.รับประทาน อาหารให้ครบ 5 หมู่ 2.หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน และอาหารรสจัด 3.ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินมาตรฐาน 4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 5.งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 6.ทำจิตใจให้แจ่มใส และ 7.รับการตรวจสุขภาพหัวใจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

เมื่อสงสัยว่ามีอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจและรักษาอย่างทันท่วงที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน