แมวของเฮมมิ่งเวย์

คอลัมน์ แมวสำคัญของโลก

โดย…ขึ้นหนึ่งค่ำ

แมวของเฮมมิ่งเวย์ – ในหมู่ของผู้ที่เรียกตัวเองว่านักอ่านสายวรรณกรรมคลาสสิก น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Ernest Hemingway นักเขียนผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1954 เจ้าของผลงานเลื่องชื่อ For Whom The Bell Tolls,A Farewell To Arms และ The Old Man and the Sea (เรื่องสั้นรางวัลพูลิตเซอร์และรางวัล อะวอร์ดออฟเมอร์ริท ในปี 1953 )

ซึ่งมีการพูดถึง ถูกนำมาอ้างอิงเพื่อการศึกษาไปทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการนำมาแปลรูปทำเป็นสื่อต่างๆมากมาย เช่น ภาพยนต์อนิเมชั่นจากภาพสีน้ำ เมื่อปี 1999

เรื่องผลงานของเฮมมิ่งเวย์นั้น เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่เรื่องราวในแง่มุมของชีวิตของเขาที่เกี่ยวกับแมวของเฮมมิ่งเวย์หลายคนอาจยังไม่รู้

นักเขียนนามกระฉ่อนท่านนี้เคยกล่าวไว้ว่า “แมวตัวแรกจะนำมาซึ่งแมวตัวต่อๆไป” หลายคนอาจมองหรือตีความเป็นนัยยะได้หลากความหมาย แต่จริงๆแล้วถ้ามาดูประวัติชีวิตเกี่ยวกับแมวของนักเขียนชั้นครูท่านนี้แล้ว จะเข้าใจได้ไม่ยากว่า ที่ท่านว่าไว้นั้นไม่ต้องตีความอะไรทั้งสิ้นก็ได้ ตรงตัวเป๊ะๆ! เพราะหลังจากที่เขาได้รับแมวที่มีนิ้วเท้าหกนิ้วมาจากเพื่อนที่เป็นกัปตันเรือ ชื่อสแตนด์ลี่ย์ เด็กเตอร์ มันก็ได้ผสมพันธ์และออกลูกออกหลานตามมาอีกรวมได้กว่า 60 ตัว!

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ครั้งหนึ่งเด็กหนุ่มที่ชื่อเออร์เนส เฮมมิ่งเวย์ ได้เดินทางมาที่เกาะคีย์เวส ใกล้รัฐฟลอริด้า เขาก็ประทับใจสถานที่แห่งนี้อย่างยิ่ง จนกระทั่งอีก 11 ปีต่อมา ก็ได้มาโอกาสมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่ และสร้างครอบครัว รวมทั้งได้เขียนผลงานชั้นยอดขึ้น

แมวของเฮมมิ่งเวย์

ในช่วงเวลานี้เอง ที่เขาได้รับแมวตัวหนึ่ง จากเพื่อนที่เป็นกัปตันเรือชื่อสแตนด์ลี่ย์ เด็กเตอร์ เจ้าแมวตัวนี้มีสายพันธ์เมนคูน ตัวโต ขนฟูนุ่มสีขาวสะอาด มันจึงได้ชื่อตามสีขนของมันว่า สโนว์บอล เจ้าเหมียวตัวนี้มีความพิเศษไม่เหมือนแมวทั่วไปเพราะมันมีนิ้วเท้าหกนิ้ว (แมวปกตินิ้วเท้าหน้าจะมีห้านิ้ว นิ้วเท้าหลังมีสี่นิ้ว) ซึ่งจริงๆแล้ว แมวที่มีลักษณะพิเศษแบบนี้ ชาวเรือมันจะเก็บมันเลี้ยงไว้บนเรือ เพราะเชื่อกันว่ามันจะเป็นแมวนำโชค

ลักษณะของแมวที่มีหกนิ้วนี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Polydactyly ลักษณะนี้ไม่ใช่โรคแต่อย่างใด เป็นลักษณะทางพันธุ์กรรมอย่างหนึ่งที่เกิดจากการกลายพันธุ์ ซึ่งในคนก็พบได้ บางคนพบมีนิ้วมือในมือข้างเดียว 7-8 นิ้วก็มี และน่าแปลกที่ลักษณะแบบนี้ถือเป็นพันธุ์กรรมที่อยู่บนยีนเด่น นั่นหมายความว่า หากพ่อมีลักษณะแบบนี้ ลูกก็จะมีลักษณะแบบนี้เช่นกัน และจะส่งต่อไปที่ลูกและหลานต่อไปเรื่อยๆได้อีก

เป็นคำตอบที่ว่า เพราะเหตุใด ต่อมา เมื่อเจ้าสโนว์บอลได้ผสมพันธุ์กับแมวท้องถิ่น และออกลูกออกหลานกันมามากมาย จนในที่สุดมีจำนวนรวมถึง กว่า 60 ตัวนั้น ครึ่งหนึ่งในจำนวนแมวในบ้านของเออร์เนส เฮมมิ่งเวย์ ล้วนเป็นแมวที่มีหกนิ้วเหมือนกับเจ้าสโนว์บอลเปี๊ยบ

เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เออร์เนสเฮมมิ่งเวย์เป็นคนรักและผูกพันกับแมวมาก มีครั้งหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น และทำเอาเฮมมิ่งเวย์ต้องพบกับความสะเทือนใจยิ่ง

นั่นคือ ลุงวิลลี่ แมวของเขาประสบเหตุร้าย คาดเดาว่าน่าจะถูกรถชนและเหยียบ หรือถูกคนตี ขาด้านขวาทั้งหน้าและหลังหักจนกระดูกแหลกละเอียด มันพยายามตะเกียกตะกายกลับบ้านด้วยขาที่เหลืออยู่ เจ้าแมวที่น่าสงสารทรมานอยู่หลายวัน ตอนนั้นเฮมมิ่งเวย์ก็คิดว่าน่าจะไม่มีวิธีใดที่จะช่วยให้วิลลี่พ้นทรมานไปได้ดีกว่าการให้มันจากไปอย่างสงบโดยเร็วที่สุด เฮมมิ่งเวย์จำเป็นต้องยิงมันด้วยมือของเขาเอง เขารอจนมันก้มลงเลียนมในจานที่พ่อบ้านหามาให้เพื่อปลอบใจและยิงมันที่หัว

จากเหตุสะเทือนใจนี้เขายังได้เขียนข้อความเล่าเรื่องไว้ในจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนถึงเพื่อนชาวอิตาเลียนนาม เจียนฟรังโก้ อิวานชิช ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมต้องยิงผู้ที่ผมรู้จักและรักมาตลอดสิบเอ็ดปี ผู้ที่ยังคงร้องหาผมแม้กระดูกสองขาหลังจะแหลกละเอียด”

เฮมมิ่งเวย์มักตั้งชื่อแมวของเขาตามชื่อบุคคลสำคัญ เช่น Harry Truman, Marilyn Monroe, Winston Churchill ซึ่งเรื่องนี้ต่อมาผู้ที่ดูแลแมวต่อจากเฮมมิ่งเวย์ก็ยังยึดถือวิธีตั้งชื่อแบบนี้เป็นแนวทางปฏิบัติ ในบ้านหลังนี้จึงเป็นที่รวมแมวที่มีชื่อบุคคลสำคัญโด่งดังจำนวนมาก ทุกวันนี้แมวของเฮมมิ่งเวย์ ได้อาศัยอยู่ที่บ้านและ พิพิธภัณฑ์ เฮมมิ่งเวย์ อย่างมีความสุข มีภัณฑารักษ์และเจ้าหน้าที่ช่วยเลี้ยงดูแล ทำความสะอาด แปรงขน หยอดเห็บหมัด ฉีควัคซีน และคอยเอาใจใส่ดูแลจนทุกตัวมีสุขภาพอนามัยที่ดี พวกมันอาศัยอยู่ในพิพิธภัณฑ์กันอย่างอิสระ ดังนั้น หากใครได้เดินทางไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็จะพบเจ้าเหมียวนั่งๆนอนๆ รอคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ในทุกส่วนทุกห้องของตัวบ้านก็ว่าได้

ใกล้กับบ้านของเฮมมิ่งเวย์ยังมีสุสานของเจ้าสโนว์บอล ต้นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของแมวบ้านนี้ และเป็นสุสานของแมวทุกตัวในบ้านที่เสียชีวิตลง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อโปสการ์ดภาพถ่ายแมวทุกๆตัวของพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดจำหน่ายอยู่ที่นั่นเป็นของฝากของที่ระลึกได้อีกด้วย

หลังการจากไปของท่านเจ้าของบ้าน ภัณฑารักษ์และผู้ที่ดูแลที่นี่ต่อก็ล้วนเป็นคนรักแมวกันทั้งนั้น พิสูจน์ได้จากเหตุการณ์พายุเฮอริเคน เออร์ม่าที่ผ่านมา แม้ทางการจะมีคำแนะนำให้อพยพ แต่กลับไม่มีใครในบ้านทิ้งบ้านไปสักคนเพราะเป็นห่วงแมวกัน และผลก็ปรากฏว่า หลังพายุผ่านไป ทั้งคนและแมวทุกตัว อยู่รอดปลอดภัย ไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆเลยอย่างน่าทึ่ง

คลิปพิพิธภัณฑ์และบ้านเฮมมิ่งเวย์

ที่มา: เรื่องและภาพ
www.mainstreetartisans.com
www.cheatsheet.com
www.ravishly.com
www.nytimes.com
www.hemingwayhome.com


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน