แมวสำคัญของโลก – “จากคนที่ซึมเศร้าเคยคิดฆ่าตัวตายกลายเป็นอยู่เพื่อรักแมว”

เรื่องล่าจากประสบการณ์ของผู้เลี้ยงแมวท่านหนึ่งที่การรับแมวเข้ามาในบ้าน กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตเธอเลยก็ว่าได้ และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเธอรู้สึกว่า แมวได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ด้วย เรื่องราวน่าทึ่งนี้เป็นอย่างไรลองมาอ่านกันได้ค่ะ

ก่อนหน้านี้เราเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยมีเพื่อน อาจจะเพราะตั้งแต่เด็กๆเราอ้วนมาก แล้วก็มันถูกล้อถูกรังแก ทำให้กลายเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจ เรื่องความอ้วนนี่ขนาดคนในครอบครัวยังรังเกียจ ยังโทษเรา เราเลยไม่รู้จะไประบายที่ไหนกับใครได้ จนโตมาเรียนมหาวิทยาลัย มาทำงานเรายังรู้สึกว่าเราไม่อยากเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต

แต่เราเป็นคนชอบแมวมาก เราเจอที่ไหนก็หยุดเล่นด้วย ตอนเรียนก็มีไปคาเฟ่แมว ทำกิจกรรมอาสาเกี่ยวกับช่วยเหลือแมวจรจัดบ้าง แต่ก็ยังไม่กล้าเอามาเลี้ยงเอง เพราะอยู่คอนโด พอเรียนจบเรากลับไปอยู่ที่บ้าน พ่อแม่เราเขาก็ทำงานต่างจังหวัดบ่อย เราช่วงนั้นหางานยังไม่ได้ ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เริ่มมีอาการซึม เก็บตัว ไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร

พอดีตอนนั้นก็มีลูกแมวตัวหนึ่งมาร้องอยู่หน้าบ้าน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามายังไง พ่อแม่เราคิดว่าน่าจะมีคนเอามาปล่อย อายุราวเดือนนึงได้เพราะเริ่มมีฟันเคี้ยวอาหารอ่อนๆได้แล้ว ทีแรกเราก็รู้สึกว่าก็ดูแลกันไป มันน่ารักดี แต่พอนานไปก็เริ่มผูกพัน แมวตัวแรกของเราเป็นแมวดำตัวผู้ ซน ขี้เล่นมาก ชื่อดำปี๋

มันอ้อนเก่ง ชอบมาซุกนอนตอนกลางคืน แต่ทีนี้เราก็เลี้ยงแมวไม่ค่อยเป็นเลยไม่ได้พาไปทำหมัน ดำปี๋เป็นสัดตอนอายุราว ขวบนึงพอดี แล้วร้องโวยวาย ตะกุยประตู เราก็พยายามขังดีแล้ว แต่มีวันนึงมันตะกุยมุ้งลวดเปิดแล้วมุดออกไปทางหน้าต่าง คิดว่าคงตามกลิ่นสาวไปนั่นแหละ เราหาไม่เจอก็กระวนกระวาย แต่ทุกคนก็บอก แมวติดสาวเดี๋ยวก็กลับมาเอง เราพยายามทำใจ แต่จนเป็นอาทิตย์มันก็ยังไม่มา

จนมีคนมาบอกว่า เหมือนเห็นแมวดำนอนตายอยู่ที่แถวข้างถนนปากซอยเราตกใจรีบออกไปดู เห็นหน้า เห็นปลอกคอแล้วร้องไห้ตรงนั้นเลย ใช่ดำปี๋ของเราจริงๆด้วย








Advertisement

ตั้งแต่ตอนนั้นเราโทษตัวเองว่าดูแลแมวไม่ดี เสียใจมาก สงสารดำปี๋ นึกถึงวันเวลาที่มีมันอยู่ พอเจอแบบนี้แล้วเรายิ่งเครียด เก็บกด และซึมเศร้ามากกว่าเดิม กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ตลอดจนคนรอบข้างเป็นห่วง ระหว่างนั้นก็มีแม่แมวท้องตัวนึงเป็นแมวจร มาขอข้าวที่บ้านกินบ่อยๆ เราก็คอยเอาให้เวลามันมาร้องเรียก

ต่อจากนั้นเรามีปัญหาที่ทำงาน เพราะอาการซึมเศร้าของเราทำให้ทำงานพลาด วันนั้นถูกตำหนิจนเรารู้สึกไม่ไหวแล้ว เลยลาออกมาเลย แล้วความเครียดความเศร้าทั้งหลายในชีวิตมันก็ประดังประเดเทเข้ามาตอนนั้น เราคิดอยากตายมาก อยากฆ่าตัวตาย นอนคิดหาวิธีฆ่าตัวตาย ทบทวนซ้ำไปซ้ำมา

จนเย็นวันนั้น แม่แมวตัวที่ท้องที่มากินข้าวบ้านเราหลังจากหายหน้าไปหลายวัน มันกลับมาพร้อมคาบลูกเพิ่งลืมตามาวางที่หน้าประตูบ้าน เราเห็นมันเดินเซ หอบ และมีเลือดออกที่ท้องเหมือนบาดเจ็บ แต่เราจะจับตัวมันก็ไม่ให้จับ เลยช่วยกันกับแม่ เอาลูกแมวใส่กล่องไว้ ส่วนแม่แมววิ่งออกจากบ้านไปเราตามไปดู มันคลอดลูกในกองผ้าหลังกองขยะ แม่แมวคาบลูกมาอีกตัว เราช่วยอุ้มมาอีกตัว แล้วแม่แมวก็นอนหอบ เราพาไปหาหมอแล้ว หมอบอกว่าเลือดตกใน ปอดฉีก น่าจะหมากัด อีกแป๊บก็ตายไป

หลังจากนั้นเราก็กลายเป็นแม่แมว คอยดูแลลูกแมวแทนแม่แมว เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องทำตัวให้สมกับที่แม่แมวไว้ใจเอาชีวิตลูกมันมาฝาก ช่วงลูกแมวเล็กเราตื่นป้อนนมทุกสองชั่วโมง ทำความสะอาด คอยดูแลให้อุ่น แทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย ทำให้ฟุ้งซ่านน้อยลง และโดยไม่รู้ตัว ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น เรายังตายไม่ได้เพราะยังมีชีวิตน้อยๆพวกนี้ที่ต้องดูแล และมันก็เติมพลังใจให้เราทุกวัน

ตอนนี้อาการซึมเศร้าดีขึ้นแล้วเพราะชีวิตมีเป้าหมาย อย่างที่หลายๆคนเคยเล่นมุก ยังตายไม่ได้เพราะชีวิตมีค่า ค่าอาหารแมว ค่าทรายแมว ค่าวัคซีนแมว 55 แต่เรามีความสุขมากที่ได้ทำเพื่อแมวของเรา เรารับรู้ได้ถึงความรักที่แมวมอบให้อย่างไม่มีเงื่อนไข

ตอนนี้กลับไปทำงานได้เต็มตัวแล้ว และก็รอคอยเวลาเลิกงานตอนเย็น มันดีมากจริงๆเวลาที่กลับไปถึงบ้านแล้วมีแมววิ่งมาหามาคลอเคลีย ถึงบ้านแล้วทีสิ่งที่เรารัก และรักเรารอเราอยู่ ก็เรียกได้ว่า แมวช่วยชีวิตเราเอาไว้ก็ว่าได้ค่ะ

ขึ้นหนึ่งค่ำ

ที่มาภาพ Pixabay

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน