สำรวจสถานการณ์โควิด ในกลุ่ม‘เด็กพิเศษ’

สำรวจสถานการณ์โควิด ในกลุ่ม‘เด็กพิเศษ’ – มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดสมุทรสงคราม และเครือข่ายอัมพวาโมเดล สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง “เด็กพิเศษ ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่จบ” ไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊กมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว

นางสกุลศรี บุญโชติอนันต์ คุณแม่ที่ต้องรักษาตัวเองและลูกชาย กล่าวว่าตนมีลูก 2 คน คนเล็กเป็นชายอายุ 18 ปี ป่วยเป็นออทิสติก การเลี้ยงเด็กพิเศษยากกว่าเด็กทั่วไป แต่โชคดีที่ลูกของตนพูดคุยสื่อสารและใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารทางอารมณ์ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 พยายามสอนให้น้องรู้จักโรค การป้องกันและรักษา

จนกระทั่งสามีต้องกักตัวที่บ้านเนื่องจากที่ทำงานมีคนติดโควิด แต่ระหว่างอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยหรือแยกตัวออกจากครอบครัว ยังรับประทานอาหารดูทีวีด้วยกัน จนกระทั่งไปตรวจหาโควิดทั้งครอบครัวและทราบผลเมื่อประมาณวันที่ 8 ก.ค. ว่าติดเชื้อ 3 คน คือตน สามี และลูกชาย ส่วนลูกสาวที่อยู่ด้วยกันไม่ติดเชื้อ

“สามีถูกส่งไปที่ร.พ.สนาม ส่วนตนพยายามหาเตียงที่เหมาะสมสำหรับการดูแลเด็กพิเศษด้วยแต่ไม่สามารถหาได้ ต้องอยู่รักษาตัวเองที่บ้านและแยกตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสาวติดไปด้วย แรกๆ ลูกชายเนื่องจากเป็นออทิสติกก็ต้องปรับการดูแลกันเยอะ ทั้งการกิน การอยู่ ทำความเข้าใจเรื่องการไม่ออกมานอกห้อง แรกๆ น้องไม่เข้าใจ แต่หลังๆ เริ่มเข้าใจมากขึ้น

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ทางโรงพยาบาลเอกซเรย์ปอดลูกชายเริ่มมีปัญหา จะถูกส่งเข้าโรงพยาบาลสนาม แต่เราไม่สามารถไปได้เพราะน้องเป็นเด็กพิเศษ จะยากมากในการไปอยู่ร่วมกับคนอื่น จึงให้อยู่บ้าน แล้วจากนั้นก็ไม่ได้มาดูแลอะไรอีกเลย ไม่มียามาให้ ไม่มีเครื่องวัดไข้วัดออกซิเจน ยาและอุปกรณ์ต่างๆ มีแต่ทางมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับน้องและภาคประชาชนต่างๆ ส่งมา ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว

แต่เรามองว่านี่เป็นแค่ความโชคดี ยังมีเด็กพิเศษอีกมากที่ติดโควิดและกำลังหาเตียงอยู่ หากเป็นไปได้อยากให้ภาครัฐจัดหาสถานพยาบาลสำหรับเด็กพิเศษกลุ่มต่างๆ อย่างทั่วถึงด้วย เพราะเป็นกลุ่มที่ดูแลหรือช่วยเหลือตัวเองลำบากหากติดเชื้อ” นางสกุลศรีกล่าว

ด้าน นายโกสินทร์ สวัสดิ์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ในพื้นที่สมุทรสงครามมีกลุ่มเด็กพิเศษที่โรงเรียนดูแลอยู่ 110 คน การดูแลเด็กพิเศษที่ผ่านมาในช่วงที่มีโรคโควิดระบาดแล้วภาครัฐให้เรียนออนไลน์ เด็กกลุ่มนี้จะไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทางจังหวัดจึงจัดส่งครูไปสอนที่บ้าน

โดยมีการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย รวมถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล บุคลิกภาพ ความชอบหรือไม่ชอบ หรือข้อจำกัดส่วนบุคคลของเด็กพิเศษ เพราะตอนนี้การระบาดหนักขึ้น หากเกิดการติดเชื้อจะได้เป็นฐานข้อมูลให้บุคลากรการแพทย์ในการดูแล ปัจจุบันเราเริ่มวางแผนเตรียมการรับมือหากจำเป็นต้องแยกเด็กออกมาเข้าสู่การดูแลรักษา และกำลังมองแนวทางในการปรับสถานที่ของโรงเรียนบางจุดเพื่อเป็นหน่วยดูแล พักคอยรอส่งต่อในเบื้องต้น

ขณะที่ นายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่าสองปีที่ผ่านมามูลนิธิทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานในพื้นที่อำเภออัมพวา เพื่อออกแบบการทำงานเชิงป้องกันลดปัญหาสังคม เห็นความสำคัญต่อปัญหาครอบครัว ปัญหาเด็ก เยาวชน กลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่เปราะบาง รวมถึงเด็กพิการ เด็กพิเศษ ภายใต้คณะทำงาน “อัมพวาโมเดล” มี พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน ผกก.สภ.อัมพวา เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ

กำหนดจุดเฝ้าระวังและแจ้งเหตุเพื่อช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ช่วยไปหลายเคสในช่วงโควิด มูลนิธิร่วมกับเพจอีจัน แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และสสส. จัดหาสิ่งของจำเป็นช่วยเหลือครอบครัวเด็กพิเศษที่เผชิญความยากลำบาก 51 ครอบครัว ซึ่งอยู่ในการดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดสมุทรสงคราม โดยจะทยอยส่งมอบสิ่งของภายในสัปดาห์นี้ มูลนิธิอยากเห็นการทำงานเชิงรุกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กพิเศษ มีการวางแผนวาดฉากสถานการณ์ปัญหาเพื่อเตรียมการรับมืออย่างเป็นระบบ