คอลัมน์ เพื่อนตัวเล็ก

ถึงหน้าตาจะบ้านๆ ไม่ต่างจากละมั่งลูกพี่ลูกน้อง แต่ “นิลกาย” อย่างผมน่ะเหนือชั้นกว่าเยอะ ก็ฉายา “วัวสีน้ำเงิน” ที่ใครๆ ใช้เรียกผม ไม่ได้มีดีเป็นแค่ชื่อเล่นเท่ๆ หรอกนะ เพราะ “พ่ออลาดิน” มีขนสีดำแกมน้ำเงินสวยสะดุดตา ขณะที่ “แม่มะตะบะ” ก็ไม่น้อยหน้ามีขนสีน้ำตาลอ่อนๆ ดูสวยไปอีกแบบ

ทั้งพ่อและแม่ของผมมาจากสวนสัตว์สงขลา แต่ไปๆ มาๆ ก็แอ่วมาอยู่เหนือที่สวนสัตว์เชียงใหม่ซะงั้น

ในครอบครัวเรามีอยู่ด้วยกัน 5 ตัว ผมเป็นน้องเล็กรุ่นที่ 3 ซึ่งพี่ๆ รุ่นแรกเขาเกิดเมื่อปี 2552 เป็นพี่สาวพี่ชายฝาแฝด 2 ตัว แต่สวนสัตว์เชียงใหม่มอบพี่ชายให้สวนสัตว์โคราชไป เลยเหลือพี่สาวแค่ตัวเดียว ต่อมาพี่ชายรุ่นที่ 2 อีกตัว ก็ออกตามกันมาในปี 2553

นับรวมตัวผมที่เพิ่งอุแว้จากท้องแม่ เมื่อ 13 พ.ย.2554 ก็เป็นอันครบ 5 ตัว พอดี

“นิลกาย” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทเคี้ยวเอื้อง มีเขาเกลียวแบบเดียวกับละมั่ง แต่จัดอยู่ในสปีชีส์ของวัวและมีรูปลักษณ์คล้ายวัวผสมม้า

ถือเป็นสัตว์มีเขาเกลียวขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย อาศัยอยู่ตามที่ราบตอนเหนือของอินเดียและทางภาคตะวันออกของปากีสถานมีส่วนสูงวัดถึงไหล่ประมาณ 1.2-1.5 เมตร และยาว 1.8-2 เมตร

ตัวเต็มวัยมีน้ำหนัก 120-140 กิโลกรัม ลำตัวใหญ่ แต่มีขาเล็กเรียว ตัวผู้จะมีเขาเล็กๆ โค้งไปข้างหน้า ยาวประมาณ 21-25 เซนติเมตร มีขนแข็งยาวขึ้นจากส่วนหัวไล่ไปถึงกลางหลังทั้งสองเพศ แถมมีอายุขัยยืนยาวอยู่ได้นานถึง 21 ปี และยังอึดเป็นพิเศษ สามารถอยู่ได้นานหลายวันโดยไม่ต้องกินน้ำ

ในแถบเอเชียใต้ให้การสักการะ “นิลกาย” จึงเป็นข้อดีช่วยป้องกันไม่ให้ถูกล่า แต่ก็หนีไม่พ้นกลายเป็นสัตว์ป่าสงวน เพราะพวกผมชอบเข้าไปกินพืชผลในแปลงเกษตรจนเสียหาย ที่อินเดียจึงอนุญาตให้ล่า “นิลกาย” ได้อย่างถูกกฎหมาย จนปัจจุบันมีพี่น้องในป่า เหลือแค่ 100,000 กว่าตัวเท่านั้น

คนโบราณเชื่อว่าพวกผมเป็นสัตว์ป่าหิมพานต์ ถ้าใครได้พบเจอก็จะโชดดี ยังไงเพื่อนๆ ก็แวะมาดูผมกับครอบครัว “นิลกาย” ที่สวนสัตว์เชียงใหม่กันมากๆ นะครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน