ส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท นับเป็นอีกหนึ่งพืชเศรษฐกิจสำคัญของ จ.ชัยนาท เป็นไม้ผลท้องถิ่น สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดมายาวนาน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศเอื้ออำนวย ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้ส้มโอมีรสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ประกอบกับเกษตรกรมีองค์ความรู้ ประสบการณ์ในการปลูก และพัฒนาคุณภาพผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ผลส้มโอคุณภาพ เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส้มโอ “ขาวแตงกวา” รูปทรงกลมแป้น ไม่มีจุก เนื้อส้มโอมีลักษณะเบียดกันแน่น ไม่แตก แกะง่าย นิ่มและแห้ง สีครีมสด หรือขาวอมเหลือง บางผลมีสีชมพูเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับอายุของต้นส้มโอ รสชาติหวานแหลม อมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่แฉะน้ำ ไม่มีรสขมติดลิ้น เปลือกหนาเหมาะสำหรับการขนส่ง
นั่นทำให้ส้มโอขาวแตงกวาชัยนาทได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2549
นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวถึงสถานการณ์การผลิตส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท พบว่า ปี 2566 (ข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท ณ 22 ม.ค. 2567) มีพื้นที่ปลูกรวม 2,912.50 ไร่ เกษตรกรผู้ปลูก 845 ครัวเรือน มีการปลูกกระจายอยู่ในทุกอำเภอของจังหวัด

นางอังคณา พุทธศรี
โดยเกษตรกรรวมกลุ่มกันผลิต ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ เป็นแปลงใหญ่ต้นแบบ คือ กลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอขาวแตงกวาสรรคบุรี ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
เริ่มรวมกลุ่มและเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เมื่อปี 2562 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกรวม 368 ไร่ มี นายประเวช ขำมา เป็นประธานแปลงใหญ่ สมาชิกกลุ่ม 67 ราย ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP 43 ราย และได้รับการขึ้นทะเบียน GI 23 ราย
โดยกลุ่มมีเป้าหมายให้สมาชิกได้รับการรับรองมาตรฐานทั้ง 2 ประเภททุกราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจแปลงส้มโอ
กลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอขาวแตงกวาสรรคบุรี มีศักยภาพ สามารถบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายการพัฒนาแปลงใหญ่ 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่
ด้านลดต้นทุนการผลิต สมาชิกผสมปุ๋ยใช้เองแทนปุ๋ยสูตรสำเร็จต่างๆ ผลิตธาตุอาหารเสริมแคลเซียมโบรอนใช้เองแทนการซื้อสำเร็จรูป และลดการใช้สารเคมีโดยการใช้สารชีวภัณฑ์แทนในการป้องกันกำจัดโรคแมลงและศัตรูพืช
สามารถลดต้นทุนการผลิตเหลือเพียง 13,000 บาท/ไร่/ปี จากก่อนเข้าร่วมโครงการมีต้นทุนเฉลี่ย 15,744 บาท/ไร่/ปี หรือลดลง 17%
ด้านการเพิ่มผลผลิต บริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสมกับพื้นที่ปลูก โดยระยะแรกที่ปลูกใหม่ๆ ต้องหมั่นให้น้ำสม่ำเสมอ เมื่อส้มโอเจริญเติบโตแล้วจะให้น้ำแบบสปริงเกลอร์เฉลี่ย 3 วัน/ครั้ง และช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาด จะให้น้ำเฉลี่ย 1-2 สัปดาห์/ครั้ง
ประกอบกับสมาชิกป้องกันกำจัดศัตรูพืชโดยใช้น้ำหมักสมุนไพรในการเพิ่มผลผลิต และใช้สายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรค สามารถเพิ่มผลผลิตได้ 2,500-3,000 กิโลกรัม/ไร่/ปี จากก่อนเข้าร่วมโครงการ มีผลผลิตเฉลี่ย 1,500-1,900 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือเพิ่มขึ้น 100%
ด้านการพัฒนาคุณภาพการผลิต มีการบริหารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการ พัฒนาเป็น Smart Farmer พัฒนาสินค้าเป็น Smart Product พัฒนากลุ่มเป็น Smart Group มีการอบรมและส่งเสริมองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง และการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้า
ด้านการตลาด ผลผลิตส่วนใหญ่ 75% จำหน่ายปลีกให้กับผู้ขายภายในจังหวัดชัยนาท และส่งจำหน่ายตลาดกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ผลผลิต 20% จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com และ Facebook และ 5% นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า
และสุดท้าย ด้านการบริหารจัดการ กลุ่มแปลงใหญ่มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เน้นการตลาดนำการผลิต ดำเนินงานตามรูปแบบ BCG Model เพื่อยกระดับผลผลิตเกษตรสู่มาตรฐานสูง ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ โภชนาการ ความปลอดภัย และระบบการผลิตที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ จากผลสำเร็จของกลุ่มแปลงใหญ่ส่งผลให้กลุ่มมีรายได้เฉลี่ย 40 ล้านบาท/ปี
ปัจจุบันกลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอขาวแตงกวาสรรคบุรี ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม วิจัยและพัฒนาในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม Internet of Things (IoT) มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต
โดยการใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อเปิด-ปิดน้ำ เป็นการควบคุมทางไกล ช่วยให้สมาชิกแปลงใหญ่สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตส้มโอ
แปรรูปสิ่งเหลือใช้จากส้มโอที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ครีมทาหน้า สเปรย์ไล่ยุง แชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง ชาส้มโอ 3in1 พร้อมดื่ม (แบบชนิดผง) สบู่ชาโคลจากถ่านส้มโอ น้ำมันสกัดจากเปลือกส้มโอ
ในอนาคตทางกลุ่มวางแผนพัฒนาแปรรูปผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ อาทิ เซรั่ม ครีมมาสก์หน้า และชาจากดอกส้มโอ ซึ่งมีหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นที่ปรึกษาในการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการผลิตและแปรรูป
นอกจากนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานภายนอกพัฒนาพื้นที่สวนส้มโอเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และแหล่งเรียนรู้
หากใครสนใจข้อมูล หรือสนใจเข้าศึกษาดูงานของกลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอขาวแตงกวาสรรคบุรี ติดต่อได้ที่นายประเวช โทร. 06-3224-8256 หรือ เพจ Facebook กลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอขาวแตงกวาสรรคบุรี