“นทธี ศศิวิมล”

ปุมเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่เด็ก บ้านเราอยู่ซอยเดียวกัน เราสนิทสนมกัน โดยเฉพาะเมื่อมาทำงานบริษัทเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้เกิดเรื่องกับปุ้มที่ทำเอามันแทบบ้า

ช่วงนั้นผมต้องไปสัมมนาต่างจังหวัดสามวัน เมื่อกลับมาก็เจอปุ้มอยู่ในห้องเช่าของผม เมื่อก่อนเราเช่าห้องอยู่ด้วยกัน แต่สองปีหลังปุ้มมัน, มีแฟนเลยแยกไปเช่าอยู่กับฝ่ายหญิง พอมันเลิกกับผู้หญิงเมื่อสามเดือนก่อน ก็เลยไปๆ มาๆ ระหว่างห้องผมกับห้องมัน วันนั้นเมื่อผมไขกุญแจเข้าไปก็เจอกับหน้าตาของมันที่เหมือน คนไร้สติสตัง ทำตาโต ปากพร่ำบ่นอะไรไม่รู้เรื่อง สภาพภายนอกที่เนื้อตัวเหม็นเหงื่อ หนวดเคราก็ยาวรกรุงรัง มันนั่งกอดเข่าอยู่มุมห้องไม่ต่างจากคนบ้า

ผมใช้เวลานานกว่าจะทำให้ปุ้มมันยอมพูดและนิ่งสงบลง ปรากฏว่ามันไม่ได้อาบน้ำมาสามวัน ไม่ได้กินข้าวสามวันเช่นกัน เรื่องเป็นอย่างนี้

ปุ้มมีมอเตอร์ไซค์อยู่คันหนึ่ง ใช้ขี่ไปทำงานและไปที่ต่างๆ มาหลายปีแล้ว วันที่ผมเดินทางไปสัมมนา ปุ้มเลิกงานกลับถึงห้องเช่าก็อาบน้ำแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ไปดูหนัง ขากลับมันแวะกินข้าวระหว่างทาง ก็ร้านอาหารตามสั่งประเภทข้าวต้มตอนกลางคืนซึ่งมันชอบกินแบบนี้เสมอ กินอิ่มมันก็เตรียมขี่กลับ ตอนเดินไปที่รถ กลับเจอแมวดำตัวหนึ่งเดินขากะเผลกป้อแป้อยู่ริมถนน ปุ้มจึงเข้าไปจะช่วย มันก็ร้องเมี้ยวแล้วกระโดดขึ้นกำแพง แต่เพราะอาการบาดเจ็บเลยทำให้เจ้าแมวกระโดดแล้วหล่นมา ปุ้มเลยเข้าอุ้ม หนนี้มันยอมให้อุ้มแต่โดยดี ปุ้มกอดมันไว้แล้วขี่มอ?ไซค์มองหาโรงพยาบาลหรือร้านหมอสัตว์ตามทาง เจ้าเหมียวก็ยอมให้อุ้มให้กอดไว้ คงเจ็บจนไม่คิดหนีหรือไม่ก็หนีไม่ไหว ปุ้มขี่มอ?ไซค์จนเจอร้านหมอที่เปิดตอนกลางคืน

หมอบอกถูกรถชน หลังรอจนหมอรักษาและจ่ายเงินให้หมอแล้ว ปุ้มก็บอกตามตรงว่าคงเลี้ยงมันเอาไว้ไม่ไหว ห้องเช่าเขาไม่ให้เลี้ยงหมาแมว ขอให้หมอช่วยหาบ้านหรือหาเจ้าของให้มันหน่อยได้ไหม ปุ้มมันเป็นคนรักแมวรักหมา อันนี้ผมรู้ดี มันยังให้หมอเพิ่มอีกห้าร้อยไว้เป็นค่าอาหารระหว่างรอเจ้าของคนใหม่ ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร เงินเดือนสองหมื่นสองพัน ต้องส่งให้พ่อแม่และส่งน้องเรียนหนังสืออีก

แล้วปุ้มก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ขี่เพลินๆ อยู่กลับมองไม่เห็นตาคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็เดินตัดหน้าข้ามถนน ปุ้มเลยชนเข้าอย่างจัง มันตกใจมาก เมื่อเห็นตาแกแน่นิ่งไม่ไหวติง หลังจากเขย่าตัว ร้องเรียกแกอยู่ยังไงก็ไม่รู้สึกตัว ปุ้มบอกมันกลัวมาก เลยรีบขี่หนี แถวนั้นมืดมาก เป็นช่วงรกร้างว่างเปล่าในซอยทางลัดที่จะกลับบ้าน มันขี่มอ?ไซค์จนพ้นซอยออกมาเข้าถนนใหญ่ แล้วตรงไปไม่ไกลก็จะถึงห้องเช่าของมันแล้ว แต่น้ำมันดันเกิดจะหมด อีกอย่างมันก็รู้สึกดีที่เลี้ยวเข้าปั๊มหาแสงสว่าง และหาทางตั้งสติก่อน เติมน้ำมันแล้วมันก็เข้า มินิมาร์ทในปั้มหาน้ำดื่มให้ผ่อนคลาย

ตอนที่กำลังเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ เด็กปั๊มก็วิ่งมาบอกว่า อย่าเพิ่งไป ตาแก่คนหนึ่งรออยู่ ปุ้มมันก็แปลกใจสิ มันมาคนเดียว ไม่ได้ซ้อนใครมา มันก็เลยถามว่าผิดคนเปล่า เด็กปั๊มตอบว่า ไม่ผิด ตะกี๊ตอนเติมน้ำมันตาแกยังลงจากเบาะยืนรออยู่ข้างๆ ตอนพี่เข้าไปซื้อของ ตาแกก็ยังยืนรออยู่ที่เดิมเลย นั่นไง ตาแกเดินมาแล้ว

ปุ้มฟังแล้วแทบช็อก มันรีบสตาร์ตแล้วขับ เหมือนหนีออกจากปั๊มอย่างรวดเร็ว นาทีนั้นมันคิดว่าผีตาแก่คนนั้นแหงๆ ที่มันชนเขา คงจะตายแล้วตามมา ปุ้มมันกลัวมาก ตลอดทางมันรู้สึกเหมือนมีคนนั่งเบาะหลังและเกาะเอวมันในบางครั้งด้วย

เมื่อถึงห้อง มันแทบจะวิ่งขึ้นตึกเลย คืนแรกยังไม่เท่าไหร่ เหมือนจะมีคนเดินรอบๆ ห้องมันทั้งคืน ตอนเช้านี่สิ ตอนลงมา ยามทักว่าพาญาติมาด้วยหรือ เมื่อคืนเห็นขึ้นไปด้วยกัน

“ลุงแกเดินไวนะ คุณวิ่ง ลุงแกก็วิ่ง แหม แก่แล้วแต่แข็งแรง” ยามบอกแล้วยิ้ม

แต่ปุ้มมันหัวใจแทบวาย มันไม่รู้ทำยังไงดี จึงขี่มอเตอร์ไซค์ราวกับจะหนีจากที่นั่น แต่ตลอดทางก็เหมือนเมื่อคืน คล้ายจะมีคนนั่งหลังอยู่ตลอด เรียกว่าตาแกไม่ปล่อยเลย ปุ้มมันกลัวมากเลยบึ่งรถมาหาผม แต่ผมไม่อยู่ มันเลยไม่ยอมกลับ ซุกในห้องผม เพราะหนนี้หนักกว่าเดิม เรียกว่าเห็นๆ กันเลย ตอนจะออกก็เจอคนแก่ยืนอยู่หน้าห้องจ้องมา มันกลัวจนสภาพเหมือนอย่างที่ผมเห็น ไม่กินข้าวกินปลา นั่งสั่นเหมือนผีเข้าจนผมมาเจอนั่นแหละ

ผมเปิดไล่ดูตามเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เผื่อจะเจอข่าวคนแก่ถูกรถชน ก็ไม่เจอ ผมตัดสินใจพาปุ้มไปหาพระที่วัดใกล้บ้าน

ปรากฏว่าปุ้มเจอแมวตัวนั้นที่มันพาไปหาหมอ หลวงพ่อท่านรับเลี้ยงจากคลินิกรักษาสัตว์ใกล้วัด ท่านมักจะรับเลี้ยงหมาแมวลักษณะนี้ประจำ ปุ้มระบายเรื่องเจอผีคนแก่คอยหลอกหลอน ระหว่างนั้นเจ้าแมวก็เดินมาคลอเคลียจนปุ้มมันจำได้

ท่านบอกว่า “บุญส่วนบุญ กรรมส่วนกรรม”

ปุ้มจึงตัดสินใจรวบรวมวันหยุดที่มีทั้งหมดแล้วลาบวชให้ตาคนนั้น

แต่ผมดีใจกว่าที่ไม่ตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน